ดีลเลอร์แห่ขอทำรถมือสอง “วอลโว่“ ปลื้มเสริมรายได้เป็นกอบเป็นกำ

volvo

วอลโว่ ยันนโยบายขายรถยนต์ไฟฟ้ามาถูกทาง ดีลเลอร์แฮปปี้-มีกำไร-ยอดขายโต ยังไม่มีนโยบายเพิ่ม “ดีลเลอร์” และขยาย “เน็ตเวิร์ก” มั่นใจนโยบายเดินมาถูกทาง เล็งผุดโมบายเซอร์วิส เน้นเข้าถึงลูกค้า

นายภัทรพงษ์ อชะปาละศิริ ผู้อำนวยการฝ่ายปฏิบัติการ บริษัท วอลโว่ คาร์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า จากนโยบายดำเนินธุรกิจของวอลโว่ในประเทศไทย ประสบความสำเร็จดีมาก โดยเฉพาะการเตรียมความพร้อมเพื่อรองรับการทำตลาดรถยนต์ไฟฟ้าของวอลโว่และตัวแทนจำหน่ายในช่วงที่ผ่านมา หลังจากบริษัทได้มีการหารือร่วมกับตัวแทนจำหน่าย ร่วมวางแผนกำหนดถึงทิศทางการเติบโตในอนาคต

โดยปัจจัยที่ทำให้วอลโว่มั่นใจว่าธุรกิจของตัวแทนจำหน่ายจะยังคงเดินหน้า และสามารถเติบโตต่อไปนั้น เป็นผลมาจาก 1.บริษัทไม่มีนโยบายเพิ่มตัวแทนจำหน่าย (ดีลเลอร์) ขณะที่ยอดขายรถยนต์กลับสวนทางกัน โดยมียอดขายเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ดีลเลอร์ทำกำไรจากการขายสามารถครอบคลุมการลงทุนในบางส่วน 2.การจำหน่ายรถยนต์ไฟฟ้า ใช้การลงทุนไม่เยอะ ซึ่งหลัก ๆ จะเป็นการลงทุนเพื่อจัดซื้อเครื่องมือพิเศษเท่านั้น ส่วนโชว์รูมและศูนย์บริการนั้น ได้มีการลงทุนตาม CI ใหม่ไปก่อนหน้านี้แล้ว

“วอลโว่เราไม่ได้มีการลงเยอะ ๆ เหมือนยี่ห้ออื่น เราให้ดีลเลอร์ลงทุนนิดหน่อย เพื่อให้เป็นไปตามคอนเซ็ปต์และตรงตาม CI เรามุ่งเน้นไปที่การดูแลลูกค้า ส่วนของธุรกิจเสริม เสริมรายได้อื่น ๆ เราก็กำลังศึกษาอยู่”

ปัจจุบันวอลโว่มีดีลเลอร์ 12 ราย มีโชว์รูม 15 แห่ง แบ่งเป็นพื้นที่กรุงเทพฯ 10 แห่ง และต่างจังหวัด 5 แห่ง

สำหรับการเตรียมแผนงานของวอลโว่ เพื่อรองรับกับตลาดที่จะเติบโตขึ้นในอนาคต และเป็นไปตามเป้าหมายที่ผู้บริหารใหญ่ได้ประกาศไว้ว่า ภายในปี 2568 วอลโว่ประเทศไทยจะจำหน่ายแต่รถยนต์ไฟฟ้านั้น บริษัทยังได้เตรียมศึกษาและจัดทำรถยนต์โมบายเซอร์วิสออกมาให้บริการกับลูกค้าในพื้นที่ต่าง ๆ โดยคาดว่าปีนี้น่าจะได้เห็นความชัดเจนออกมาแน่นอน

ขณะที่ส่วนของธุรกิจรถเก่า หรือรถยนต์มือสอง ภายใต้แบรนด์ Volvo Selekt บริษัทก็ยังคงดำเนินการอยู่ ซึ่งที่ผ่านมาได้รับการตอบรับค่อนข้างดี และยังเป็นการยืนยันว่าวอลโว่จะมุ่งมั่นดูแลลูกค้าวอลโว่ทุกคันในประเทศไทย เนื่องจากนโยบายของบริษัทคือ การมีอะไหล่ในสต๊อกเพื่อรองรับลูกค้าเป็นระยะเวลาถึง 20 ปี ดังนั้น รถยนต์วอลโว่ที่เป็นเครื่องยนต์สันดาป ICE และเครื่องยนต์ปลั๊ก-อิน ไฮบริด PHEV สามารถมั่นใจได้ว่าจะมีบริการหลังการขายอย่างต่อเนื่อง

และแน่นอนว่า หากตัวแทนจำหน่ายยังคงสามารถรักษาลูกค้าเหล่านี้ไว้ได้ นั่นหมายความว่าจะยังมีรายได้จากงานหลังการขายมาอย่างต่อเนื่อง

ขณะเดียวกัน ในส่วนของศูนย์บริการซ่อมตัวถังและสีมาตรฐาน VOLVO CERTIFIED DAMAGE REPAIR CENTRE (VCDR) นั้น มีอยู่ 2 แห่ง ได้แก่ บริษัท สแกนดิเนเวียน ออโต้ จำกัด (สาขาหทัยราษฎร์) และบริษัท นิวตัน บอดี้ แอนด์ เพนท์ จำกัด (บรมราชชนนี) ซึ่งวอลโว่สงวนสิทธิให้เฉพาะดีลเลอร์ของวอลโว่เท่านั้นจึงจะมีสิทธิ์ทำได้

ดังนั้น ดีลเลอร์ที่จะมีรายได้จากตรงนี้ และยังมีส่วนของสมาร์ทรีแพร์ ที่ทำได้ตามดีลเลอร์ต่าง ๆ ทำให้มีรายได้เสริมเข้ามาตรงนี้มากขึ้น

สำหรับศูนย์บริการวอลโว่ Selekt นั้นถือว่า ในช่วงที่ผ่านมาผลประกอบการค่อนข้างเติบโตจนเป็นที่น่าพอใจ โดยเฉพาะปีที่แล้วมียอดขายมากกว่า 100 คัน ถือว่าเป็นการเติบโตอย่างมีนัยยะ และดีลเลอร์ให้ความสนใจมากขึ้น เนื่องจากราคาจำหน่ายรถยนต์วอลโว่มือสองถือว่าได้กำไรเป็นกอบเป็นกำ

“เราพยายามปลุกปั้นวอลโว่ ซีเล็ค มาอย่างต่อเนื่อง แต่เพิ่งจะเริ่มเห็นผลชัดเจนในปีที่ผ่านมา เห็นได้จากมีดีลเลอร์หลาย ๆ รายเริ่มสอบถาม สนใจเข้ามาทำมากขึ้น ยอดขายจากการนำไปร่วมงานมหกรรมยานยนต์ก็ดีขึ้น เรียกว่าวันนี้ใครไม่ทำตรงนี้อาจจะเสียโอกาส ดีลเลอร์ที่โฟกัสตรงนี้มี 4-5 รายเริ่มเห็นผล”

ปัจจุบันมีดีลเลอร์ 4 ราย 5 สาขา ที่ทำในส่วนของธุรกิจรถยนต์มือสอง Volvo Selekt ได้แก่ จีที ออโต้, นิวตัน เพรสทีฟ ออโต้, สแกนดิเนเวียน ออโต้ และเวิร์น ออโต้ นอกจากนี้ ยังมีกลุ่มของพระนคร ที่แสดงความสนใจอยากทำธุรกิจ Volvo Selekt เพิ่มด้วย