“ไทยฮอนด้า” ยันไม่ขึ้นราคา ชี้ปี’66 มอ’ไซค์หดตัวชู “บิ๊กดาต้า” กอดแชมป์

จักรยานยนต์ฮอนด้า ชู “ดาต้า แมเนจเมนต์” รักษาโมเมนตัมการขายปีนี้เท่าปีก่อน หลังประเมินตลาดรวม 2 ล้อเครื่องทั้งปีหดตัว 3% เหลือแค่ 1.75 ล้านคัน บิดคันเร่งกระทุ้งตลาดด้วยโปรดักต์ใหม่ ยันยังไม่ปรับราคาไล่เสิร์ฟทุกความต้องการลูกค้าทั้งสันดาปและอีวี พร้อมเข็นมาตรฐานการขายและบริการ 6S รักษาแชมป์ยาว

นายชิเกโตะ คิมูระ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ไทยฮอนด้า จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายรถจักรยานยนต์ฮอนด้าในประเทศไทย เปิดเผยว่า ปี 2566 นี้เชื่อว่าตลาดมอเตอร์ไซค์น่าจะหดตัวลงประมาณ 3% จากปี 2565 ที่ทำได้ 1.8 ล้านคัน เหลือ 1.75 ล้านคัน ซึ่งยังมีปัจจัยลบหลายตัวที่ต้องระวัง โดยเฉพาะตลาดส่งออกซึ่งประเทศยังทำได้ต่ำกว่าเป้าหมาย แต่ในส่วนของฮอนด้ามั่นใจว่าผลงานปี 2566 น่าจะใกล้เคียงปี 2565 หรือมียอดขายราว 1.38 ล้านคัน โดยบริษัทมีนโยบายหลายอย่างที่จะรักษาโมเมนตัมการขาย

ชิเกโตะ คิมูระ

ซึ่งเร็ว ๆ นี้จะมีรถจักรยานยนต์รุ่นใหม่ ๆ เข้ามาเสริมตลาด โดยฮอนด้ามีดาต้าแมเนจเมนต์ที่สามารถทำหน้าที่บิ๊กดาต้าวิเคราะห์ถึงความต้องการของลูกค้าว่าชื่นชอบโปรดักต์แบบไหน จากการนำเสนอผ่านแอปพลิเคชั่น “My Honda Moto” สามารถเจาะกลุ่มเป้าหมายได้อย่างแม่นยำ นอกจากโปรดักต์ใหม่ที่จะนำเสนอทั้งเครื่องยนต์สันดาปและอีวี ฮอนด้ายังพร้อมที่จะนำเสนอประสบการณ์ใหม่ ๆ ให้กับลูกค้าเพื่อสร้างความแตกต่าง

“ดาต้าแมเนจเมนต์ยังสามารถสะท้อนถึงส่วนงานต่าง ๆ ของบริษัททั้งฝ่ายขาย รวมทั้งยิงตรงข้อมูลไปถึงส่วนงานผลิตเพื่อที่จะตอบสนองความต้องการ ความพึงพอใจของลูกค้าอย่างสูงสุด”

ฮอนด้ามีมาตรฐานการจำหน่ายและการให้บริการ ประกอบไปด้วยหลัก 6S ได้แก่ sales, service, spare parts, safety riding, second hand และ society ผ่านผู้แทนจำหน่ายไปถึงลูกค้าทั้งหมด ทำให้มั่นใจว่ายอดทั้งปีจะเป็นไปตามคาด

ADVERTISMENT

ผู้สื่อข่าวสอบถามว่า ต้นทุนการผลิตที่พุ่งขึ้นอย่างรวดเร็ว จักรยานยนต์ฮอนด้ามีแนวโน้มจะปรับราคาตามหรือไม่ ประธานไทยฮอนด้ายืนยันว่ายังไม่มีนโยบายปรับราคา โดยกล่าวว่า ที่ผ่านมาหลังจากบริษัทได้รวมบริษัททั้งฝ่ายขาย เอ.พี.ฮอนด้า และฝ่ายผลิต ฮอนด้า แมนนูแฟคเจอริ่ง เข้าเป็นบริษัทเดียวกัน ตอนนี้ครบ 3 ปีเต็ม ส่งผลให้สามารถเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินธุรกิจ ทั้งด้านการผลิต การขาย และบริการหลังการขายได้อย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยลดขั้นตอนความล่าช้าต่าง ๆ สามารถพัฒนารถจักรยานยนต์รุ่นใหม่ ๆ ได้เร็วขึ้น ควบคุมคุณภาพของสินค้ารวมทั้งสามารถสะท้อนความต้องการของตลาดได้อย่างชัดเจน ทั้งรถจักรยานยนต์และเครื่องยนต์อเนกประสงค์ ที่สำคัญ ยังช่วยให้บริหารจัดการซัพพลายเชนตั้งแต่ต้นน้ำไปจนถึงปลายน้ำได้มีประสิทธิภาพ สามารถบริหารจัดการต้นทุนเป็นไปในทิศทางที่ดีอย่างมีประสิทธิภาพรับมือกับต้นทุนอื่น ๆ ที่เปลี่ยนได้เป็นอย่างดี

สำหรับตลาดรวมรถจักรยานยนต์ปี 2565 ที่ผ่านมา ทั้งตลาดทำได้ 1.8 ล้านคัน โตขึ้น 12% แบ่งเป็น 3 ตลาดหลักใหญ่ ๆ กลุ่มแฟมิลี่มีมากกว่า 50% ถัดมาเป็นกลุ่มเอที (ออโตเมติก) มีสัดส่วน 43% และสปอร์ตราว ๆ 4% และตลาดอีวีอีกราว ๆ 1%

ADVERTISMENT