เปิดแนวรุก “อินช์เคป” ต่อ “จิ๊กซอว์” ค้าปลีกรถยนต์ครบวงจร

ชาญชัย มหันตคุณ
ชาญชัย มหันตคุณ
คอลัมน์ : สัมภาษณ์

อินช์เคป พีแอลซี (Inchcape plc) บริษัทธุรกิจตัวแทนจำหน่ายรถยนต์พรีเมี่ยมระดับโลกจากสหราชอาณาจักร มีประสบการณ์การค้าระหว่างประเทศกว่า 170 ปี ปัจจุบันเป็นตัวแทนจำหน่ายรถยนต์หลากหลายแบรนด์ในเกือบ 30 ประเทศ กว่า 30 ยี่ห้อ สำหรับประเทศไทย “อินช์เคป” ใช้ระยะเวลาเพียง 7 ปีทำหน้าที่ตัวแทนจำหน่ายรถยนต์จากัวร์-แลนด์โรเวอร์ แต่เพียงผู้เดียวสร้างผลงานไว้มากมายด้วยอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่องทุกปี

ล่าสุด “ประชาชาติธุรกิจ” มีโอกาสได้ร่วมพูดคุยกับ “ชาญชัย มหันตคุณ” กรรมการผู้จัดการ บริษัท อินช์เคป (ประเทศไทย) จำกัด แม่ทัพใหญ่ผู้ร่วมบุกเบิก สร้างความสำเร็จในช่วงที่ผ่านมา รวมถึงสเต็ปต่อไปที่อินช์เคป ไทยแลนด์ จะต่อยอดธุรกิจและแตกไลน์ออกไปยังกลุ่มธุรกิจที่เกี่ยวข้องแบบครบวงจร

Q : ความสำเร็จปีที่ผ่านมา

สำหรับการดำเนินธุรกิจของเราในฐานะตัวแทนจำน่ายรถยนต์จากัวร์-แลนด์โรเวอร์ ในประเทศไทยนั้น ต้องบอกว่าเรามีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องทุกปี อย่างปีที่ผ่านมา ถ้ามองในแง่การเติบโตเป็นเปอร์เซ็นต์ เราถือว่ามีการเติบโตในระดับตัวเลข 2 หลัก ปีนี้ถือเป็นปีที่ 8 สำหรับการเข้ามาทำตลาดในประเทศไทย อินช์เคป ถ้าจะให้เห็นภาพ คือมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ทั้งรายรับและยอดขาย เพราะรถยนต์ทั้ง 2 ยี่ห้อ จากัวร์-แลนด์โรเวอร์นั้น เป็นแบรนด์ที่คนไทยคุ้นชินอยู่แล้ว

Q : แผนบุกธุรกิจรถมือสอง

Advertisment

ในช่วงที่ผ่านมา ได้เริ่มทำแบรนด์รถยนต์มือสอง ชื่อว่า “บาร์โว่ ออโต้” (BRAVO AUTO) เพื่อตอบโจทย์ลูกค้าในกลุ่มจากัวร์-แลนด์โรเวอร์ โดยจะมีรถยนต์แบรนด์ต่าง ๆ ที่เป็นกลุ่มพรีเมี่ยมสับเปลี่ยนหมุนเวียนกันเข้ามา ทั้งแบรนด์ ยุโรปและแบรนด์ญี่ปุ่น อย่างรถเล็กซัสเข้ามาให้ลูกค้าได้เลือกมากกว่า 30 คัน สำหรับรถยนต์ทุกคันที่เข้ามาจำหน่ายยัง บาร์โว่ ออโต้ นั้น จะต้องได้รับการตรวจเช็กตามมาตรฐาน 165 รายการ และได้รับการรับประกันเป็นระยะเวลา 1 ปี เนื่องจากอินช์เคปมีความมุ่งมั่นในการสร้างมาตรฐานของตลาดรถยนต์มือสอง

ที่ผ่านมาได้รับความสนใจจากกลุ่มลูกค้าเป็นอย่างดี มีรถหลากหลาย และอนาคตก็จะต่อยอดไปในส่วนของ “รถคลาสสิก” ด้วย สำหรับธุรกิจมือสองนี้ อินช์เคปยังมองไปถึงการตอบโจทย์ใหญ่ในอนาคต คือทั้งระบบวงจรของการจัดจำหน่ายรถยนต์ ปัจจุบันเรามีสาขา “บาร์โว่ ออโต้” 1 แห่ง ภายในปีนี้คาดว่าจะมีการลงทุนขยายเพิ่มสาขาที่ 2 โดยมองไปจังหวัดหัวเมืองใหญ่ก่อน คาดว่าใช้งบฯลงทุนไม่น้อยกว่า 50 ล้านบาท

Q : ความคืบหน้าดีลใหญ่ ทาทา มอเตอร์ส

ธุรกิจที่ 3 คือ ธุรกิจรถยนต์เชิงพาณิชย์ ที่เพิ่งปิดดีลไปเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา ระหว่างอินช์เคป พีแอลซี (Inchcape plc) และทาทา มอเตอร์ส โดยบริษัทจะรับหน้าที่ในการดูแล การจัดจำหน่ายรถยนต์ทาทา ในประเทศไทย

Advertisment

ต้องบอกก่อนว่า อินช์เคป ประเทศไทย เป็นแห่งแรกในโลกที่ ทาทา มอเตอร์ส ให้ความไว้วางใจแต่งตั้งให้ดูแลการขายในประเทศไทย เป็นที่ทราบกันว่า ทาทา มอเตอร์ส ถือหุ้นอยู่ในกลุ่มจากัวร์-แลนด์โรเวอร์ และเขาเห็นการดำเนินธุรกิจของอินช์เคป ประเทศไทย ประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี บวกกับทาทา ยังมองเห็นโอกาสการเติบโตของตลาดรถเพื่อการพาณิชย์ในประเทศไทย ซึ่งเป็นความเห็นที่สอดคล้องกับอินช์เคป จึงเกิดดีลนี้ขึ้น

Q : อะไรคือความมั่นใจของทาทา

จริง ๆ เรามองเป็นบิสซิเนส โซลูชั่น ที่บริษัทมีทั้งนำเข้ารถหรู จากัวร์, แลนด์โรเวอร์ และบาร์โว่ ออโต้ และเป็นตัวแทนจำหน่ายรถทาทา ซึ่งมองว่าตลาดรถเมืองไทยยังน่าสนใจ และทาทาก็ยังมีฐานลูกค้าเก่าอยู่เป็นจำนวนมากด้วย ความร่วมมือครั้งนี้ อินช์เคปจะเริ่มจำหน่ายและให้บริการรถยนต์เพื่อการพาณิชย์ของทาทา มอเตอร์ส ทั่วประเทศ โดยเสนอยานพาหนะบรรทุกสินค้าที่ขนาดต่ำกว่า 1 ตัน ถึง 55 ตัน และโซลูชั่นการขนส่งมวลชนขนาด 10 ที่นั่ง ถึง 51 ที่นั่งที่หลากหลาย

โดยมีทั้งรถยนต์เพื่อการพาณิชย์ขนาดเล็ก และรถกระบะ (SCV&PUs), ยานพาหนะเพื่อการพาณิชย์ขนาดกลางและขนาดเล็ก (I&LCV), ยานพาหนะเพื่อการพาณิชย์ขนาดกลางและขนาดใหญ่ (M&HCV) และกลุ่มรถโดยสารเพื่อตอบสนองความต้องการที่เปลี่ยนแปลงไปของกลุ่มโลจิสติกส์และการขนส่งมวลชน ทั้งนี้ ในส่วนของรถปิกอัพหลายคนถามเข้ามามาก มองว่าเป็นตลาดที่น่าสนใจ แต่คงไม่ใช่ในขณะนี้ เช่นเดียวกับตลาดรถยนต์นั่ง ซึ่งเห็นว่ารถยนต์อย่างของทาทาเองมีกลิ่นอายความเป็นจากัวร์อยู่ค่อนข้างมาก ซึ่งคงต้องเป็นเรื่องของโอกาสในอนาคต

“เชื่อว่าทาทายังมีโอกาสเติบโตอีกมากในตลาดประเทศไทย ความต้องการตลาดรถบรรทุก 4 ล้อ ไปจนถึงหัวลาก ในประเทศไทยมีอยู่ราว ๆ 36,000 คันต่อปี เราเชื่อว่ายังมีพื้นที่อีกเยอะ”

Q : พร้อมเปิดรับพันธมิตรแค่ไหน

ปีนี้ตั้งใจว่าจะเปิดรับสมัครตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ทาทาอย่างน้อย 10 แห่ง ในจำนวนนี้ อินช์เคปเราจะลงทุนเอง 2 แห่งในส่วนของกรุงเทพฯและปริมณฑล ส่วนอีก 8 แห่งนั้นจะเปิดรับสมัครทั้งดีลเลอร์รายเก่าและรายใหม่ ซึ่งคาดว่าจะได้ข้อสรุปภายในไตรมาสที่สาม และเริ่มดำเนินการได้ราวไตรมาสที่สี่ หรือไตรมาสแรกของปี 2567 อย่างแน่นอน และโชว์รูมแห่งแรกจะได้เห็นในเดือนกันยายน หรือตุลาคม พร้อมกับความชัดเจนทางด้านการทำตลาดและแผนธุรกิจของอินช์เคปด้วย

“เชื่อว่าโชว์รูม 10 แห่งน่าจะรองรับการให้บริการได้อย่างเพียงพอ สำหรับโชว์รูมรถบรรทุกนั้นเราไม่ได้คาดหวังว่าจะต้องลงทุนติดแอร์ทั้งโชว์รูม เพราะคีย์หลัก ๆ ของการนำแบรนด์ทาทากลับเข้ามาทำตลาดอีกครั้ง คือความมั่นคงแบบค่อยเป็นค่อยไปของธุรกิจนั่นเอง”