บิ๊กโตโยต้า ยัน “Yaris Ativ” ปลอดภัย พร้อมขายหลังอุตฯ รับรองผลทดสอบซ้ำ

บิ๊กโตโยต้ายันผลการทดสอบรถยนต์ ยาริส เอทีฟ ปลอดภัยตามมาตรฐานการทดสอบ เผยอยู่ระหว่างส่งผลทดสอบให้หน่วยงานรัฐบาลไทยตรวจสอบ พร้อมรอการอนุมัติเพื่อกลับมาขายและส่งมอบให้ลูกค้าอีกครั้งหนึ่ง ประกาศย้ำจุดยืน มุ่งเน้นการพัฒนารถยนต์ใน 4 ด้าน “ความปลอดภัย-คุณภาพ-ปริมาณที่มากพอ และกำไร”

วันที่ 8 พฤษภาคม 2566 นายอากิโอะ โตโยดะ ประธานคณะกรรมการบริหารของกลุ่มบริษัทโตโยต้า เปิดเผยถึงกรณีตรวจสอบความไม่เหมาะสมในการทดสอบรถยนต์โตโยต้า ยาริส เอทีฟ เมื่อวันที่ 29 เมษายนที่ผ่านมาว่า หลังจากนั้นโตโยต้าและไดฮัทสุได้ตรวจสอบภายในและได้มีการส่งรถยนต์ที่ผลิตเพื่อจัดจำหน่ายจริงในตลาดไปทดสอบยังหน่วยงานของเอกชน และได้รับผลการตรวจสอบที่ชัดเจนแล้วว่า ความผิดพลาดดังกล่าวไม่ส่งผลกระทบต่อความปลอดภัย และลูกค้ายังสามารถใช้งานรถยนต์ได้ปกติ

ยาริส เอทีฟ

 

เพียงแต่ขณะนี้โตโยต้าอยู่ระหว่างการดำเนินการยื่นเอกสารและผลการทดสอบดังกล่าวให้กับทางหน่วยงานของรัฐบาลไทยพิจารณา เนื่องจากรถยนต์รุ่นนี้อยู่ภายใต้โครงการส่งเสริมการลงทุนอีโคคาร์ 2 ที่จะต้องได้รับการอนุมัติจากรัฐบาลไทยอย่างเป็นทางการอีกครั้ง จากนั้นโตโยต้าจึงจะเปิดรับจองและส่งมอบรถยนต์รุ่นนี้อย่างเป็นทางการอีกครั้งหนึ่ง

“โตโยต้าเป็นองค์กรที่เมื่อพบปัญหาไม่ว่าในเวลาใด เราจะหยุด เพื่อร่วมกันค้นหาสาเหตุที่แท้จริง ปรับปรุงและป้องกันเพื่อไม่ให้เกิดซ้ำขึ้นอีก อันเป็นปรัชญาของโตโยต้าที่ทุกคนต่างยึดมั่น นับตั้งแต่ก่อตั้งองค์กร ทั้งนี้ ตัวผมเองจะเป็นหัวเรือหลักในการนำพาทุกคนมุ่งสู่ปรัชญานั้นอีกครั้ง ตลอดจนส่งเสริมเพื่อให้ทุกคนในองค์กรปฏิบัติตามอีกด้วย”

ทั้งนี้ โตโยต้าตระหนักถึงความไม่เหมาะสมในการเตรียมการทดสอบ ที่พบว่าไม่เป็นไปตามมาตรฐาน แต่ทั้งนี้ สำหรับรถยนต์ที่มีการจำหน่ายและส่งมอบไปแล้ว ไม่จำเป็นจะต้องดำเนินการใด ๆ เพราะไม่มีผลกระทบกับคุณภาพและความปลอดภัย ดังนั้น ลูกค้าจึงไม่ต้องกังวล

สำหรับรถยนต์โตโยต้า ยาริส ที่จำหน่ายในประเทศไทยตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2565 จนถึง 30 เมษายน 2566 มีจำนวนทั้งสิ้น 39,757 คัน โดยบริษัทจะใช้ช่องทางต่าง ๆ สื่อสารไปยังลูกค้ากลุ่มนี้ เพื่อยืนยันว่ารถยนต์ที่ส่งมอบไปแล้วไม่มีปัญหาเกี่ยวกับเรื่องความปลอดภัยแต่อย่างใด

“ตอนนี้เราประสานงานกับทางการ ชี้แจงผลการทดสอบ เพื่อให้ลูกค้า ผู้แทนจำหน่าย มั่นใจกับกับรถยนต์ ยาริส เอทีฟ ของเรา ซึ่งเราจะเร่งดำเนินการให้เร็วที่สุด เพราะเรื่องดังกล่าวเป็นปัญหาที่เกี่ยวข้องกับความเชื่อมั่นของลูกค้า เราไม่สามารถปล่อยได้ เพราะเรื่องนี้คือรากฐานความปลอดภัยของลูกค้า”

นายโตโยดะยังกล่าวต่อถึงสาเหตุของการตัดสินใจหยุดส่งมอบและรับจองรถยนต์รุ่นดังกล่าวว่า เนื่องจากการทดสอบครั้งแรกนั้น ตรวจพบความไม่เหมาะสม เราถือว่ารถยนต์จะต้องมีความปลอดภัย เนื่องจากเป็นยานพาหนะที่มีผลต่อความปลอดภัยของผู้ใช้และผู้ใช้ถนนร่วมกัน สำหรับความไม่เหมาะสมของการทดสอบที่เกิดขึ้นนั้น ถือว่าเป็นเรื่องที่ไม่สมควรเกิดขึ้นอย่างเด็ดขาด โตโยต้าจึงต้องมีการตรวจสอบซ้ำ จากรถยนต์ที่ผลิตและจัดจำหน่ายจริง เพื่อให้เกิดความมั่นใจว่ารถคันนี้มีความปลอดภัย สามารถใช้งานได้จริง ทั้งนี้ อาจจะต้องใช้ระยะเวลาในการดำเนินงานอีกพอสมควร ในการดำเนินการเพื่อให้หน่วยงานของรัฐบาลไทยที่เกี่ยวข้องอนุมัติให้มีการจำหน่ายอีกครั้งหนึ่ง

นอกจากนี้ นายโตโยดะยังยืนยันว่า ความผิดพลาดดังกล่าวมิได้เกิดขึ้นจากแนวคิดการลดต้นทุนในการผลิต เพราะโตโยต้าให้ความสำคัญมาโดยตลอด และนับตั้งแต่ตนเองเข้ามารับตำแหน่งประธานบริษัทเมื่อ ปี 2009 นโยบาย ที่ยึด 4 ประเด็นสำคัญ ได้แก่ 1.ความปลอดภัย 2.คุณภาพ 3.ปริมาณที่มากพอ 4.กำไร

กลุ่มโตโยต้ามีการจำหน่ายรถยนต์รวมกันไม่น้อยกว่า 10 ล้านคันต่อปี มีทั้งรถยนต์นั่งขนาดเล็กไปจนถึงรถขนาดใหญ่ในเชิงพาณิชย์ ซึ่งโตโยต้าต้องการให้ทุกคนมีเสรีในการเดินทางและมีรอยยิ้ม ที่ผ่านมาโตโยต้าเน้นย้ำมาตลอดสำหรับนโยบายทั้ง 4 ข้อ แต่ในความเป็นจริงอาจจะเกิดขึ้นได้ ทุกคนอยากสร้างผลงานด้วยยอดขายในปริมาณที่มากพอ และกำไร แต่จากกรณีนี้ก็เห็นได้ว่ามีพนักงานและผู้รับผิดชอบที่มองในเรื่องความปลอดภัยและคุณภาพมาก่อน

ปัจจุบันโตโยต้ายืนยันว่า ในส่วนของโรงงานโตโยต้าเกตเวย์ ซึ่งผลิตรถยนต์ ยาริส เอทีฟ ยังคงดำเนินการผลิตรถยนต์รุ่นนี้อยู่ เพื่อรอส่งมอบให้กับลูกค้า และขอยืนยันว่ารถยนต์ที่จะกลับมาส่งมอบให้กับลูกค้าอีกครั้งหนึ่งนั้น จะมีความสดใหม่ และเต็มไปด้วยความรักและความใส่ใจให้กับลูกค้าผู้ใช้งานทุกคน

นายโนริอากิ ยามาชิตะ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด เปิดเผยว่า ขณะนี้โตโยต้าได้ยื่นผลทดสอบไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบ และหวังว่าหน่วยงานภาครัฐจะเรียกโตโยต้าเข้าไปอธิบายและอนุมัติเพื่อให้สามารถกลับมาจัดจำหน่ายและส่งมอบรถยาริส เอทีฟ ให้กับลูกค้าได้ในเร็ววัน

ก่อนหน้านี้ โตโยต้าตรวจพบความไม่เหมาะสมในการเตรียมการทดสอบมาตรฐานการชนด้านข้าง ทางบริษัทไดฮัทสุ ซึ่งเป็นผู้รับผิดชอบในการพัฒนาตัวถังและในการขอการรับรอง ได้ดำเนินการทดสอบการชนด้านข้าง ด้วยชิ้นส่วนที่ผลิตเพื่อจำหน่ายในรถรุ่นยาริส เอทีฟ เป็นการภายใน และขอยืนยันว่าเป็นไปตามข้อกำหนด UN-R95 ทั้งหมด, ไดฮัทสุได้ปรึกษาหน่วยงานภายนอกที่ตรวจสอบและออกหนังสือรับรอง หรือ vincotte มีการลงความเห็นว่า สำหรับรถรุ่นปัจจุบันไม่มีความจำเป็นที่จะต้องดำเนินการแก้ไขใด ๆ ซึ่งทางบริษัทขอยืนยันว่ารถมีมาตรฐานด้านความปลอดภัยสอดคล้องกับข้อบังคับที่กำหนดไว้ และลูกค้าสามารถใช้งานรถของท่านต่อไปได้ตามปกติ

นอกจากนั้น ทางบริษัทได้ดำเนินการทดสอบอีกครั้ง โดยใช้รถที่ผลิตและจำหน่ายจริงในประเทศไทย เมื่อวันที่ 28 เมษายน 2566 โดยมีหน่วยงานภายนอกที่มีอำนาจรับรองมาตรฐาน ซึ่งเป็นหน่วยงานภายใต้การกำกับดูแลของประเทศเบลเยียมเข้าร่วมเป็นสักขีพยานในการทดสอบ และได้รับการอนุมัติว่าเป็นไปตามข้อกำหนด UN-R95 โดยไม่เป็นการเพิกถอน หรือยกเลิกหนังสือรับรองเดิม และในวันที่ 2 พฤษภาคม 2566 บริษัทได้รับใบขยายผลการรับรอง UN-R95 (โดยไม่เป็นการยกเลิกผลการรับรองเดิม) และขณะนี้ ทางบริษัทประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องภายในประเทศ เพื่อดำเนินการจำหน่ายและส่งมอบรถรุ่นนี้ในลำดับต่อไป ทั้งนี้ โตโยต้าให้ความสำคัญและจริงจังกับเรื่องที่เกิดขึ้น พยายามที่จะทบทวนกระบวนการและดำเนินการตามขั้นตอนที่เกี่ยวข้องให้ครบถ้วน