ACG ท้ารบตลาด “ฟาสต์ฟิต” ปั้นแบรนด์ “AUTOCLIK” คลุมทั่วประเทศ

ภานุมาศ รังคกูลนุวัฒน์
ภานุมาศ รังคกูลนุวัฒน์
คอลัมน์ : สัมภาษณ์


จากจุดเริ่มต้นในฐานะตัวแทนจำหน่ายวัสดุก่อสร้างและรถยนต์ฮอนด้าที่ จ.สุรินทร์ ภายใต้ชื่อ “ฮอนด้า มะลิวัลย์” ผันตัวเองสู่บริษัทมหาชน พร้อมแตกธุรกิจเพิ่มเติมอีกหลากหลายกลุ่ม “ภานุมาศ รังคกูลนุวัฒน์” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ออโตคอร์ป โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ ACG เล่าให้ทีม “ประชาชาติธุรกิจ” ฟังว่า หลังสำเร็จการศึกษาด้านเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และทำงานอยู่ในแวดวงธุรกิจการเงิน ด้วยการเป็นโบรกเกอร์บริษัทหลักทรัพย์อยู่นานหลายปี ก็ถูกดึงตัวกลับมาสานต่อธุรกิจครอบครัว ระหว่างนั้นทำแค่ขายวัสดุก่อสร้าง

แต่ด้วยการมองหาความท้าทายใหม่ ๆ ปี 2534 เขาพบว่า ค่ายรถยนต์ฮอนด้า ได้ลงประกาศรับสมัครตัวแทนจำหน่ายบนหน้าหนังสือพิมพ์ จึงสมัครไปและค่อย ๆ เริ่มทำดีลเลอร์ในปี 2535 จนแตกหน่อต่อยอดธุรกิจ กินพื้นที่ตลาดภาคอีสาน ทั้งใน จ.สุรินทร์, ขอนแก่น และบุรีรัมย์

จนกระทั่งปี 2561 “ภานุมาศ” ได้สร้างความฮือฮาให้กับแวดวงธุรกิจค้าปลีกรถยนต์ ด้วยการกระโดดข้ามห้วย จากโซนภาคอีสาน มาปักหลัก ยึดหัวหาดสำคัญเมืองเศรษฐกิจอย่าง จ.ภูเก็ต และ จ.กระบี่ ทำหน้าที่ดูแลลูกค้าแทนกลุ่มทุนใหญ่กลุ่ม “ฮอนด้า อนุภาษวิวิธการ” หรือ “ฮอนด้า หงษ์หยก” จนปัจจุบันมีสาขานาคา จ.ภูเก็ต และสาขาเมืองกระบี่ จ.กระบี่

จากนั้นในปี 2562 “ภานุมาศ” ประกาศนำบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ถือเป็นการสร้างความฮือฮาให้แวดวงอุตสาหกรรมยานยนต์ และปี 2563 กลุ่ม ACG ขยายกิจการรุกธุรกิจฟาสต์ฟิตที่มีมูลค่าตลาดมหาศาล ด้วยการสร้างแบรนด์ของตัวเองขึ้นมา ภายใต้แบรนด์ AUTOCLIK (ออโตคลิก) ซึ่งเป็นธุรกิจที่ “ภานุมาศ” เล่าว่า เขาใช้การสะสมประสบการณ์และโนว์ฮาว จากการทำธุรกิจดีลเลอร์รถยนต์และก่อสร้างเข้ามา ผสมผสานในการดำเนินธุรกิจฟาสต์ฟิต

 

เน้นปรับปรุง ต่อยอดโนว์ฮาว

ด้วยจุดเด่นของการลงทุนและการก่อสร้างที่รวดเร็ว สามารถควบคุมต้นทุนได้ง่าย นำศักยภาพบริการหลังการขายให้กับรถยนต์มาปรับปรุงพัฒนาจนเป็นโนว์ฮาวในแบบเฉพาะของตนเอง รวมถึงการมองเห็นโอกาสทางธุรกิจด้วยการมองเห็นสิ่งที่ผู้บริโภคต้องการ และได้สร้างจุดแข็งทางธุรกิจ ประกอบกับศึกษามาอย่างละเอียด จนพบว่าธุรกิจซ่อมบำรุงรถยนต์ ใน 100% อยู่ในรูปแบบอู่ดั้งเดิม 80%

ขณะที่รูปแบบฟาสต์ฟิตมีเพียง 20% ช่องว่าง และโอกาสยังคงมีอยู่อีกมาก แม้จะดูเหมือนว่าแข่งขันกันรุนแรง แต่เชื่อมั่นว่าด้วยคุณภาพการบริการ มาตรฐานการซ่อมบำรุง จะทำให้ AUTOCLIK กลายเป็นแบรนด์ที่เข้าไปอยู่ในใจลูกค้า ที่ต้องการซ่อมบำรุงรถยนต์ในอันดับต้น ๆ ได้อย่างแน่นอน ภายใต้คอนเซ็ปต์ “จ่ายหลักร้อย…รับบริการแบบหลักหมื่น” ภายใต้แนวคิด การค้าปลีกที่เอาผู้บริโภคเป็นศูนย์กลาง ทำให้ลูกค้าเกิดความประทับใจ นำรถยนต์กลับมาใช้บริการซ้ำ รวมถึงบอกต่อกับคนใกล้ชิด ส่งผลให้ฐานลูกค้ากว้างขึ้นเรื่อย ๆ และวันนี้ได้เริ่มเห็นผลแล้ว

AUTOCLIK

เติบโตภายใต้การบริหารต้นทุน

AUTOCLIK มีจำนวนศูนย์บริการอยู่ที่ 12 แห่ง ในกรุงเทพฯและปริมณฑล 8 สาขา, จ.ภูเก็ต 2 สาขา และ จ.เชียงใหม่อีก 2 สาขา โดยทุกสาขานั้น “ภานุมาศ” เน้นการบริหารจัดการวางระบบ และลงทุนด้วยตัวเองทุกสาขา เพราะเขาเชื่อว่าจะทำให้สามารถควบคุมคุณภาพ เติบโตได้อย่างยั่งยืน ไม่ต้องรอการตัดสินใจ หรือการกำหนดทิศทางจากบริษัทแม่ แม้ว่าในช่วงแรกจะมีความยากลำบาก และต้องออกแรงสู้กับอำนาจการต่อรองกับแบรนด์ผลิตภัณฑ์มีน้อย

แต่ด้วยระบบที่ถูกจัดการได้เป็นอย่างดีจากประสบการณ์จากการดำเนินธุรกิจดีลเลอร์รถยนต์มากว่า 30 ปี ทำให้เขามีความรู้ความเข้าใจในการดูแลรถยนต์อย่างถ่องแท้ จนทำให้ AUTOCLIK ได้รับการยอมรับ มีความแข็งแรงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทั้งจาก “ลูกค้า” และ “คู่ค้า” แถมยังมีแบรนด์ฟาสต์ฟิตรายใหญ่ มูลค่าธุรกิจระดับหมื่นล้านบาทเข้ามาเจรจาขอบริหาร แต่ “ภานุมาศ” และทีมงาน ยังเชื่อมั่นว่า สามารถดำเนินธุรกิจ รวมถึงเติบโตได้ด้วยตัวเอง

ปีหน้าเพิ่ม 30 แห่ง

ส่วนในปีนี้ ตั้งเป้าเปิดสาขาเพิ่มอีกอย่างน้อย 8 แห่ง เพื่อให้ได้ 20 สาขาภายในสิ้นปีนี้ และขยายเพิ่มอีก 10 สาขา เป็น 30 สาขา เบื้องต้นคาดว่าจะใช้งบประมาณสำหรับการลงทุนในส่วนการขยายเพิ่มสำหรับปีนี้ไว้ที่ 250-300 ล้านบาทเท่านั้น ซึ่งถือเป็นตัวเลขที่น้อยมากเมื่อเทียบกับคู่แข่ง และนี่คือส่วนหนึ่งของประสบการณ์นานกว่า 30 ปี ที่ “ภานุมาศ” สะสมมา คือ ความคล่องตัวและการบริหารต้นทุนที่แม้ว่าวันนี้ AUTOCLIK จะยังอยู่ในช่วงของการตั้งไข่

และแน่นอนว่า วันนี้เขาผ่านขวบปีที่ 30 กับฮอนด้ามาแล้ว และมีอาณาจักรที่มั่นคง วันนี้เขากำลังมาสร้างอาณาจักรส่วนขยายที่ AUTOCLIK


แน่นอนสไตล์การบริหารงานของ “ภานุมาศ” ถ้ายังทำได้หรือไม่มั่นใจ จะไม่ออกมาพูด แต่ต้องบอกว่า การรุกคืบครั้งนี้ห้ามกะพริบตา