
คอลัมน์ : เทสต์คาร์ ผู้เขียน : วุฒิณี ทับทอง
เปิดตัวไปเรียบร้อยแล้ว สำหรับรถอีวีคันล่าสุดจากค่ายบีวายดี ที่ตั้งใจนำมาเจาะตลาดลูกค้าบ้านเรา
มาครบ ทั้งความสปอร์ต หรูหรา สไตล์ “พรีเมี่ยมสปอร์ตซีดาน” เรียกว่าไม่ได้แค่รบกับกลุ่ม EV ด้วยกันเอง ยังท้าชนทั้งคัมรี่และแอคคอร์ด
ไม่รอช้า เรเว่ ออโตโมทีฟฯ จัดทริปให้สื่อมวลชนได้สัมผัสรถรุ่นนี้ก่อนเปิดตัว-เปิดราคาอย่างเป็นทางการ ในเส้นทางกรุงเทพฯ-เขาใหญ่-กรุงเทพฯ แบบเช้าไปเย็นกลับ ให้ขับกันครบทั้ง 3 รุ่นคือ DYNAMIC, PREMIUM และ AWD PERFORMANCE
เรียกว่าอัดแน่ ๆ นัยว่า (อยาก) จะให้สัมผัสกับรถครบทุกรุ่น
แต่ครั้งนี้เราจะมาดูประสิทธิภาพและเพอร์ฟอร์มานซ์กันในรุ่นท็อปสุด
BYD SEAL AWD PERFORMANCE หรือรุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อ มาพร้อมแบตเตอรี่ 82.0 kWh มอเตอร์ไฟฟ้าคู่หน้าขนาด 160 กิโลวัตต์ และมอเตอร์ไฟฟ้าคู่หลังขนาด 230 กิโลวัตต์
ส่วนแรงบิดมอเตอร์คู่หน้าให้สูงสุด 310 นิวตัน-เมตร และแรงบิดมอเตอร์คู่หลังให้สูงสุด 360 นิวตัน-เมตร
รวม ๆ แล้วพละกำลังของ BYD SEAL AWD PERFORMANCE ให้กำลังรวมสูงสุด 390 กิโลวัตต์ แรงบิดสูงสุด 670 นิวตัน-เมตร
ขณะที่อัตราเร่ง 0-100 ใช้เวลาเพียง 3.8 วินาทีเท่านั้น
ในช่วงออกจากจุดสตาร์ตย่านเลียบทางด่วนเอกมัย-รามอินทรา ในเวลา 9 โมงนิด ๆ สภาพการจราจรหนาแน่นเอาเรื่องอยู่ อย่างที่บอกว่ารถคันนี้มาพร้อมกับความแรงของมอเตอร์ ทำให้บางจังหวะที่ขับขี่ในเขตเมืองรู้สึกว่าจะต้องใช้สมาธิ ตั้งสติในการควบคุมรถอยู่พอสมควร
ผลจากความ “แรง” ของรถ ทำให้คล้าย ๆ กับการที่เราต้องควบม้าพยศ
เพราะบางจังหวะที่เผลอกดคันเร่งหนัก รถจะทะยานไปข้างหน้าทันที
ส่วนเรื่องความคล่องตัวนั้น BYD SEAL AWD PERFORMANCE มีความคล่องตัวสูง จังหวะของการควบคุมพวงมาลัยและการให้น้ำหนักทำออกมาได้ค่อนข้างดี
ต้องบอกว่ารถคันนี้ ถ้าใช้งานในเมืองอาจจะต้องทำความคุ้นชินพอสมควร
แต่พอออกนอกเมืองแล้ว มีระยะพอให้เราได้สัมผัสกับประสิทธิภาพความแรงของมอเตอร์ของรถคันนี้จัดจ้านเอาเรื่อง วิ่งกันทางไกล ๆ ยาว ๆ ชนิดที่เรียกว่าซัดกันมัน
โหมดการขับขี่หลักแล้ว เราใช้ที่โหมดประหยัดนั้นก็เพียงพอ
การบังคับควบคุมรถถือว่า BYD ออกแบบและพัฒนามาบนแพลตฟอร์ม e-Platform 3.0 ระบบกันสะเทือนหน้าแบบปีกนกคู่ double wishbone ส่วนระบบกันสะเทือนหลังแบบมัลติลิงก์ ในรุ่นนี้ใช้โช้กอัพแบบ FSD คู่หน้า-หลัง เมื่อขับด้วยความเร็วสูง ทำให้เราสามารถคุมรถได้ดี
ส่วนการเก็บเสียงจากภายนอกห้องโดยสารนั้น ถือว่าดี เราแทบจะลืมเสียงของล้อยางที่บดไปกับถนน
ขณะที่เสียงลมปะทะมีเล็ดลอดเข้ามาพอให้ได้รู้สึก
รถ BYD SEAL AWD PERFORMANCE ยังอัดแน่นด้วยระบบควบคุมความปลอดภัยต่าง ๆ ครบครัน โดยเฉพาะระบบช่วยในการขับขี่และความปลอดภัย เช่น ระบบการรักษารถให้อยู่ในเลน ระบบเตือนเมื่อรถออกนอกเลน ส่วนระบบอื่น ๆ นั้นถือว่าดี ทั้งการเตือนการชนด้านหน้า, เตือนป้ายสัญญาณการจราจร
ขณะที่อุปกรณ์อำนวยความสะดวกภายในห้องโดยสาร BYD SEAL AWD PERFORMANCE ถือว่าครบครัน และการออกแบบภายในห้องโดยสาร ต้องบอกว่า “เกินคาด” BYD จัดมาเต็ม ทั้งในอารมณ์ ความรู้สึก ออปชั่นต่าง ๆ แฝงไปด้วยความทันสมัย สะดวก และหรูหรา เรียกว่าพอฟัดพอเหวี่ยงกับรถพรีเมี่ยมจากฝั่งยุโรป
ส่วนสเป็กและรายละเอียดที่แตกต่างของรุ่นท็อปเท่านั้นคือ ระบบควบคุมแรงบิดอัจฉริยะ (iTAC) ส่วนรายละเอียดปลีกย่อย นอกจากกำลังของมอเตอร์ในการขับเคลื่อนและระบบขับเคลื่อนสี่ล้อแล้ว ออปชั่นความสะดวกต่าง ๆ เรียกว่าแทบจะไม่ได้แตกต่างกัน ระหว่างรุ่นกลางและรุ่นท็อปนี้
ส่วนอัตราสิ้นเปลืองของ BYD SEAL AWD PERFOMANCE คันนี้ แม้ว่า BYD จะเคลมระยะทางในการวิ่งไว้ที่ 580 กิโลเมตร แต่เอาเข้าจริงบอกได้เลยว่า เมื่อเราขับใช้งานในเมือง และวิ่งระยะทางยาว ๆ ออกนอกเมืองแล้ว ตัวเลขที่เคลมไว้ยังไปไม่ถึง
วิ่งได้ราว ๆ 450-480 กิโลเมตรต่อการชาร์จ 1 ครั้ง ถือว่าเก่งแล้ว
- ประธานวงศ์ พรประภา “คู่แข่ง BYD คือรถสันดาป…ไม่ใช่ EV”
- BYD เข็น 2 รุ่นเพิ่มพอร์ตรถ EV เร่งขยาย 113 เน็ตเวิร์กยกระดับเซอร์วิส
ส่วนราคาค่าตัว BYD SEAL AWD PERFORMANCE อยู่ที่ 1.599 ล้านบาท ถามว่าน่าสนใจไหม คนที่กำลังมองหารถยนต์ไฟฟ้าไว้ใช้งานแบบแรงจัด ขับสนุก (แต่แอบเหนื่อย) คันนี้น่าสนใจไม่น้อย
และบอกได้เลยว่า ด้วยประสิทธิภาพ ราคา รูปร่างหน้าตาที่ทำออกมาได้ขนาดนี้ รถในกลุ่มเดียวกันมีร้อน ๆ หนาว ๆ แน่นอน