รู้ยังซื้อ BYD Dolphin-NETA V หลัง 2 มกราคม 2567 แพงขึ้นคันละแสน

ค่ายรถ EV จีนแห่เข้ามาตรการ EV3.5 อุดช่องว่างนำรถเข้ามาขายก่อนผลิตในประเทศจริง สรรพสามิตระบุชัดแบตเตอรี่ไม่ถึง 50 kWh รับเงินอุดหนุนแค่ 5 หมื่นบาท ซิ้อหลัง 2 มกราคมปีนี้ราคารถกระโดดขึ้นอีกคันละแสน

วันที่ 2 มกราคม 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มาตรการ EV3.0 กรณีนำรถ EV ราคาไม่เกิน 2 ล้านบาทเข้ามาขายก่อน ผู้ซื้อได้รับเงินอุดหนุน 70,000-150,000 บาท (ตามขนาดแบตเตอรี่) แล้วค่อยผลิตชดเชยตามเงื่อนไข ซึ่งมาตรการสิ้นสุดไปเมื่อวันที่ 31 ธันวาคม 2566 แต่รัฐบาลชุดนายกฯ เศรษฐา ทวีสิน ได้เปิดมาตรการเสริม EV3.5 เริ่มใช้วันที่ 2 มกราคม 2567 ไปจนถึง 31 ธันวาคม 2567 รูปแบบเดียวกัน คือนำเข้ามาขายก่อนผลิตชดเชยภายหลัง แต่รับเงินอุดหนุนน้อยกว่ามาตรการแรก

BYD DOLPHIN

ปรากฏว่าบรรดาค่าย EV จีน (ที่อยู่ในมาตรการ EV3.0) พร้อมใจกันสมัครเข้าร่วมมาตรการ EV3.5 เพื่อปิดช่องว่างไม่มีรถขาย เพราะตามแผนกว่าจะมีรถที่ผลิตในประเทศวางขายน่าจะเป็นหลังไตรมาสแรกปีนี้

จากการสำรวจพบว่าค่าย BYD เตรียมนำเข้า รถ EV รุ่นเดิม 3 รุ่น อาทิ Atto3,  Dolphin, Seal เข้าร่วมมาตรการ EV3.5 แต่เมื่อตรวจสอบตามสเป็กปรากฏว่า Dolphin รุ่น Standard Range มีขนาดแบตเตอรี่เพียง 44.9 kWh ซึ่งจะได้รับเงินอุดหนุนแค่ 5 หมื่นบาท ดังนั้น ราคาขายเดิมที่กำหนดไว้ 699,999 บาท (ราคานี้หักเงินอุดหนุน 1.5 แสนบาทแล้ว) เมื่ออยู่ในมาตรการ EV3.5 ราคาขายจะขยับขึ้นอีก 1 แสนบาทเป็น 799,000 บาท

เช่นเดียวกับแบรนด์ NETA ซึ่งมีรถเพียงรุ่นเดียวคือ NETA V เดิมขาย 549,000 ใช้แบตเตอรี่ 40.7 kWh เมื่ออยู่ในมาตราการ EV3.5 ต้องบวกราคาเพิ่มไปอีก 1 แสนบาท ลูกค้าต้องจ่ายเงินซื้อในราคา 649,000 บาท

สำหรับมาตรการ EV3.5 บีโอไอและสรรพสามิตกำหนดเงื่อนไขรถยนต์ไฟฟ้าราคาไม่เกิน 2 ล้านบาท ที่มีขนาดแบตเตอรี่ตั้งแต่ 50 kWh จะได้รับเงินอุดหนุน 100,000 บาท/คัน แต่ถ้ามีขนาดแบตเตอรี่ต่ำกว่า 50 kWh จะได้รับเงินอุดหนุน 50,000 บาท/คัน