“พีเอ็นเอ กรุ๊ป” จ้องเรียกค่าเสียหายจากทาทา หลังประกาศยุติไลน์ผลิตในปท. เลิกใช้โรงงานบางชัน ย้ำสัญญาระบุจ้างผลิตปีละ 1,200 คัน ด้านทาทา ยันแผนรุกตลาดยังเหมือนเดิม ทั้งเซอร์วิสและงานขายยังอยู่ครบ โปรดักต์ใหม่เน้นซีบียูจากอินเดีย
- ด่วน ! วอยซ์ ทีวี ประกาศปิดกิจการทุกแพลตฟอร์ม เลิกจ้าง 100 กว่าคน
- NETA X ขาย มิ.ย.นี้ ราคาไม่เกิน 1 ล้านบาท หลัง MOU สรรพสามิต
- ลูกแม่ค้าขายผัก-พ่อขับแท็กซี่ สู่เก้าอี้ “ปลัดพลังงาน” บทพิสูจน์ชีวิต “ดร.ประเสริฐ สินสุขประเสริฐ”
แหล่งข่าวระดับบริหารกลุ่มพระนครยนตรการหรือพีเอ็นเอ กรุ๊ป (PNA) เปิดเผย “ประชาขาติธุกิจ” ว่ากระแสข่าวรถยนต์ทาทายุติไลน์การผลิตในเมืองไทย หันไปใช้วิธีนำเข้าแทนตามที่นายพี บาลาจี ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงิน (ซีเอฟโอ) ของกลุ่มบริษัท ทาทา มอเตอร์ส ประเทศอินเดียประกาศนั้นมีสัญญาณมาระยหนึ่งแล้ว
- อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง >> ทาทา ออกแถลงการณ์ ยุติไลน์ผลิตรถยนต์ในไทย
หลังจากช่วงกลางปี 2560 ที่ผ่านมา บริษัทและทาทา มอเตอร์ ได้เจรจาใช้โรงงานบางชันเยนเนอเรลเอเซมบลี ประกอบรถยนต์ ทาทา ซีนอน ซึ่งได้มีการทดลองประกอบ เเต่เป็นจำนวนไม่มากนัก เช่นเดียวกับก่อนหน้านี้ผู้บริหารทาทา มีเเผนจะขึ้นไลน์ประกอบรถยนต์ทาทาซูเปอร์เอซมินท์ที่โรงงานเเห่งนี้ ตั้งเเต่ช่วงต้นปี 2561 ที่ผ่านมา แต่ปรากฎว่าขณะนี้ยังไม่ได้ดำเนินการเเต่อย่างใด
“เรามีข้อตกลงร่วมกันผลิตปีละ 1,200 คัน นี่ผ่านมาเกือบ 12 เดือนเพิ่งประกอบไปได้เพียง100-200 คันเท่านั้น ยิ่งช่วงหลังผลิตน้อยลงอย่างเห็นได้ชัด ช่วงย้ายจากโรงงานธนบุรีฯ มาอยู่โรงงานบางชัน ทาทาประกาศว่าใช้เงินกว่า 500 ล้านบาท”
แหล่งข่าวกล่าวอีกว่า หากทาทา ตัดสินใจไม่ประกอบรถยนต์ที่โรงงานบางชัน และในประเทศไทยเเล้ว ทาทาต้องรับผิดชอบ ค่าขนย้ายอุปกรณ์ซึ่งคิดเป็นมูลค่ามหาศาล รวมทั้งจะต้องมีการจ่ายค่าเช่าพื้นที่ของโรงงานให้กับทางพีเอ็นเอ กรุ๊ป ด้วยซึ่งรายละเอียดคงต้องไปว่ากันอีกที
สำหรับโรงงานประกอบรถยนต์บางชันเยนเนอเรลเอเซมบลี ปัจจุบันผลิตรถยนต์ 2 ยี่ห้อ คือ ทาทาจากอินเดีย และโฟตอนจากจีน
แหล่งข่าวจาก บริษัท ทาทา มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวกับ “ประชาชาติธุรกิจ”ว่าการดำเนินธุรกิจ ของ ทาทา ในประเทศไทย ยังเหมือนเดิมทุกอย่างโดยในปี ที่ผ่านมาทาทา มียอดขายประมาณ 1,200 คัน ส่วนขณะนี้การดำเนินงานทุกอย่างยังเป็นไปตามแผนงานของบริษัทปัจจุบันยังคงมีโชว์รูมและศูนย์บริการ 39 แห่งทั่วประเทศ
สำหรับ ทาทา เข้ามาดำเนินธุรกิจในประเทศไทยตั้งเเต่ปี พ.ศ 2551 โดย “ดิ อิโคโนมิกส์ ไทม์ส อินเดีย” รายงานตัวเลขขาดทุนในไทยปีที่แล้ว ราว 1,700 ล้านรูปี หรือคิดเป็นราว 800 ล้านบาทไทย แต่อย่างไรก็ตามทาทาจะยังคงทำตลาดรถบรรทุกขนาดเล็กในไทยและประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ต่อไป โดยใช้วิธีส่งออกจากอินเดียแทน พร้อมยืนยันว่าตลาดไทยยังมีความสำคัญต่อบริษัทอยู่มาก เพียงแต่การยุติการผลิตนั้นจำเป็นต้องทำเพื่อเอาตัวรอด