เกรทวอลล์เปิดเกมสงครามราคา “คันละล้าน” สะเทือนทุกเซ็กเมนต์

เกรท วอลล์ มอเตอร์ เปิดเกมถล่มราคาขายรถโมเดลแรกในประเทศ “ฮาวาล เอช6” แค่ 1.149 ล้านบาท พร้อมอัดแพ็กเกจดูแลรถอีกเกือบแสนบาท สะเทือนตลาดเอสยูวียกแผงทั้งขนาดกลางและขนาดใหญ่ รวมถึงกลุ่มรถพีพีวี ชูความได้เปรียบเรื่องหน้าตา เทคโนโลยี และความสดใหม่ ค่ายญี่ปุ่นเร่งขยับตัวรับมือ

ผู้สื่อข่าว “ประชาชาติธุรกิจ” รายงานว่า ตลาดรถยนต์ที่เงียบเหงามาพักใหญ่หลังจากถูกพิษโควิดเล่นงาน ยอดขายหดตัว 3 เดือนต่อเนื่องมาตั้งแต่เดือนมีนาคม เริ่มกลับมาคึกคักอีกครั้ง หลังจากเมื่อวันที่ 28 มิถุนายนที่ผ่านมา ค่ายรถยนต์น้องใหม่ที่โหมโรงกว่าจะคลอดรถยนต์โมเดลแรก เอสยูวี “ฮาวาล เอช6 ไฮบริด” ลงตลาด

แถมยังกั๊กราคาขายมาระยะหนึ่ง ประกาศราคาขายที่ล้านต้น ๆ พร้อมชูนโยบายราคาเดียวกันทั่วประเทศ สร้างความปั่นป่วนให้กับตลาดอย่างมาก เนื่องจากเกือบทุกแบรนด์และเกือบทุกเซ็กเมนต์ได้รับผลกระทบจากการกำหนดราคาครั้งนี้มาก

กดราคาขายเริ่มต้น 1.1 ล้านบาท

โดยนายเอลเลียต จาง ประธาน บริษัท เกรท วอลล์ มอเตอร์ ภูมิภาคอาเซียนและประเทศไทย เปิดเผยว่า รถยนต์ฮาวาล เอช 6 ไฮบริด มีให้เลือก 2 รุ่น คือ รุ่น PRO ราคา 1,149,000 บาท และรุ่น ULTRA ราคา 1,249,000 บาท การวางตลาดครั้งนี้ เกรท วอลล์ฯยังแถมข้อเสนอพิเศษช่วงเปิดตัวให้กับลูกค้า

ด้วยดอกเบี้ย 1.79% ผ่อนนาน 48 เดือน ฟรีประกันภัยชั้นหนึ่ง 1 และแพ็กเกจบำรุงรักษา GWM PRO Service Inclusive (GPSI) 5 ปี หรือ 100,000 กิโลเมตร และสิทธิพิเศษอื่น ๆ อีกมากมาย รวมมูลค่ากว่า 100,000 บาท

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การเปิดราคาของเกรท วอลล์ฯ ครั้งนี้ถือว่าสร้างแรงกระเพื่อมให้กับ “โครงสร้างราคา” ของอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยอย่างมาก เนื่องจากการวางตำแหน่งราคาและตำแหน่งของสินค้านั้น จับกลุ่มลูกค้าที่กำลังมองหารถยนต์ในระดับราคาตั้งแต่ 1 ล้านต้น ๆ ไปจนถึง 1.5 ล้านได้อย่างลงตัว แถมตัวโปรดักต์ของเกรท วอลล์ฯยังได้เปรียบ

เพราะมีการนำมอเตอร์ไฟฟ้าเข้ามาใช้ร่วมด้วย รวมถึงฟังก์ชั่นการใช้อื่น ๆ ซึ่งบางแบรนด์ของค่ายญี่ปุ่นยังไปไม่ถึง จากการสำรวจรถยนต์ในกลุ่มระดับราคาใกล้เคียงกัน อาทิ โตโยต้า อัลติส, โตโยต้า ซีเอช-อาร์,โตโยต้า คัมรี, โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์, ฮอนด้า เอชอาร์-วี, ฮอนด้า ซีอาร์-วี, ฮอนด้า ซีวิค,ฮอนด้า แอคคอร์ด, มาสด้า3, มาสด้า ซีเอ็กซ์-3, มาสด้า ซีเอ็กซ์-5, นิสสัน คิกส์, นิสสัน เทอร์ร่า, มิตซูบิชิ ปาเจโรสปอร์ต, เอ็มจี เอชเอส ทั้งรุ่นธรรมดาและปลั๊ก-อิน ไฮบริด

เน้นจุดขายที่แตกต่าง

การรุกเข้าทำตลาดของเกรท วอลล์ฯ ยังมุ่งสร้างความเปลี่ยนแปลงถึง 5 ด้าน เริ่มจากตัวผลิตภัณฑ์ที่จะให้ความสำคัญกับมอเตอร์ไฟฟ้า และเทคโนโลยีอัจฉริยะอันล้ำสมัยมากมายที่จะทำให้ผู้บริโภคได้สัมผัสประสบการณ์การขับขี่รูปแบบใหม่อย่างเต็มที่ ฮาวาล เอช6 ใช้เครื่องยนต์เบนซิน 1.5 ลิตรเทอร์โบ ผสมผสานมอเตอร์ไฟฟ้าได้กำลังรวมถึง 243 แรงม้า ทำงานผสานกับเกียร์แบบไฮบริด 2 ระบบ เกียร์ตัวแรกทำงานกับเครื่องยนต์

ส่วนอีกตัวทำงานร่วมกับระบบมอเตอร์ไฟฟ้า มีเทคโนโลยีอัจฉริยะที่เป็นไฮไลต์ คือ ระบบการจอดอัตโนมัติ 3 รูปแบบ ทั้งการเข้าซอง การจอดเลียบฟุตปาท และการจอดแบบทแยง มีระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบผันแปร มาพร้อมกล้อง ADAS ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติที่เราสามารถตั้งความเร็วได้ และตรวจจับรถคันหน้าเพื่อรักษาระยะห่างที่ปลอดภัย

ด้านช่องทางการจำหน่าย เกรท วอลล์ สโตร์ จะมีทั้ง direct store และ partner store ต่างจากรูปแบบเดิม ๆ คือ ให้บริการแต่เพียงเท่านั้น โดยเปลี่ยนจากการเน้นการขายเป็นการเน้นการให้บริการ นอกจากนี้ยังมีการเชื่อมต่อกับบริการออนไลน์ผ่าน GWM application ด้านการเลือกซื้อรถยนต์ ยกระดับประสบการณ์การเลือกซื้อรถยนต์ของลูกค้า ทำนโยบายราคาเดียวในทุกช่องทาง มีมาตรฐานการบริการ ขั้นตอนการซื้อ และโปรโมชั่นเป็นมาตรฐานเดียวกันทั้งหมด สามารถเช็กนัดหมายการบริการ ติดตามสถานะการบริการ

“ล่าสุด เกรท วอลล์ สโตร์ ทั้ง 2 รูปแบบ เปิดให้บริการแล้ว 6 แห่ง และจะเปิดเพิ่มอีก 6 แห่งภายในเดือนกรกฎาคม ยืนยันเปิดครบ 30 แห่งภายในปีนี้” นายจางกล่าว

ค่ายญี่ปุ่นเร่งปรับตัวรับมือ

นายธีร์ เพิ่มพงศ์พันธ์ รองประธานบริหารฝ่ายการตลาดและรัฐกิจสัมพันธ์ บริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวกับ “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า การที่มีผู้เล่นรายใหม่เข้ามาในตลาดรถยนต์เอสยูนั้น ถือเป็นเรื่องดีสำหรับอุตสาหกรรมและผู้บริโภค โดยจะยิ่งทำให้ตลาดมีความคึกคัก เนื่องจากรถเอสยูวีเป็นกลุ่มที่มีความนิยมเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ทั้งนี้ มาสด้าเองก็ถือเป็นแบรนด์รถเอสยูวีที่มีให้เลือกมากที่สุดถึง 4 รุ่น คือ CX-3, CX-30, CX-5, CX-8 ตามความต้องการทุกรูปแบบ

เช่นเดียวกับ นายพงษ์ศักดิ์ เลิศฤดีวัฒนวงศ์ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็มจี เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด ที่กล่าวว่า การเข้ามาทำตลาดของรถยนต์ยี่ห้อใหม่ ๆ ในประเทศไทยถือว่าเป็นเรื่องที่ดี ซึ่งจะช่วยกันปลุกตลาดความต้องการรถยนต์ให้มากขึ้น แต่สุดท้ายค่ายรถยนต์ที่จะเข้ามาทำตลาดนั้นต้องพิสูจน์ตัวเอง ทั้งตัวโปรดักต์ การทำตลาด