คอลัมน์ : Market-think ผู้เขียน : สรกล อดุลยานนท์
ทุกครั้งที่มีการแข่งขันฟุตบอลรายการใหญ่ ๆ อย่าง ฟุตบอลโลก และฟุตบอลยูโร
สินค้าหนึ่งที่ขายดี คือ โทรทัศน์
- ด่วน! โปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง ครม.เศรษฐา 1/1 รัฐมนตรีใหม่ 13 ตำแหน่ง
- ล้งกระหน่ำทุบราคามังคุด จากโลละ 200 เหลือ 60 บาท
- เงื่อนไข ธอส. จัดเงินฝากออมทรัพย์ “เก็บออม” ดอกเบี้ยสูง 1.95%
เพราะกีฬาที่คนไทยนิยมมากที่สุด คือ ฟุตบอล
คอบอลจะยอมอดหลับอดนอนเพื่อดูการแข่งขันฟุตบอล 2 รายการใหญ่
พลังของ “บอลโลก-บอลยูโร” นั้นถึงขั้นที่วงการการเมืองถือว่าจะช่วยหยุดกระแสการเมืองที่ร้อนแรงได้
เพราะคนไทยจะหันมาสนใจดูฟุตบอล
ระดับที่ถ้ามี “ม็อบ” การถ่ายทอดสดฟุตบอลโลกก็ช่วยลดจำนวนมวลชนในม็อบได้
มีอยู่ครั้งหนึ่ง “ม็อบ” ถึงขั้นแก้ปัญหาด้วยการติดตั้งจอเพื่อให้คอบอลมาดูบอลในม็อบได้
เป็นการป้องกันมวลชนหาย
แต่คำถามที่คนนอกวงการสงสัยมานานแล้ว ก็คือ มีการถ่ายทอดสดฟุตบอลโลก แล้วทำไมทีวีจึงขายดี
คนไทยไม่มีทีวีดูหรืออย่างไร
พอมีถ่ายทอดสดจึงต้องซื้อทีวีมาดูที่บ้าน
ความจริงก็คือ คนไทยส่วนใหญ่มีทีวีที่บ้านอยู่แล้ว แต่ทุกครั้งที่มีบอลโลก คอบอลจะเริ่มรู้สึกว่าทีวีเครื่องเก่าภาพไม่สวย หรือจอเล็กเกินไป
ทีวีเครื่องเก่าที่มีปัญหาบ้าง เคยทนได้ก็จะทนไม่ได้ในช่วงนี้
นั่นคือ ที่มาของการทำตลาดในช่วงบอลโลกของทีวีทุกยี่ห้อ
เพราะเขาเข้าใจอินไซต์ของ “คอบอล”
“ความรู้สึก” คือ “เหตุผล” อย่างหนึ่งครับ
ตอนนี้เดินไปที่แผนกเครื่องใช้ไฟฟ้าจะพบว่าทีวีทุกยี่ห้อทำการตลาดอย่างหนัก
โดยเฉพาะทีวีจอใหญ่ ช่วงนี้ถือเป็น “โอกาสทอง”
คลิปที่เปิดบนจอต้องเป็นฟุตบอล ไม่ใช่คลิปที่เน้นสีสันสวยงาม
ต้องเปิดคลิปฟุตบอลให้เห็นชัด ๆ ว่าจอใหญ่ ดูแล้วสะใจกว่าจอเล็กขนาดไหน
กระตุ้นต่อม “คอบอล” แบบตรงไปตรงมา
ทีวีหลายยี่ห้อเริ่มลดกระหน่ำ มีของแถมมากมาย
และที่สำคัญคือ การตลาดการเงิน ผ่อน 0% ยาว ๆ
ฟุตบอลโลกจะเริ่มเปิดสนามวันที่ 21 พฤศจิกายน ยาวไปถึง 18 ธันวาคม
เกือบ 1 เดือนเต็ม
ตอนนี้ก็เหลือเวลาไม่ถึง 1 เดือน บอลโลกจะเริ่มแล้ว ทีวีก็ทำการตลาดอย่างหนัก
แต่…
ประเทศไทยยังไม่มีใครซื้อลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสดฟุตบอลโลกเลยครับ
ไม่มีทีวีช่องไหนขยับ
ภาคเอกชนก็เช่นกัน
สมัยก่อนที่จะมีทีวีดิจิทัล เมืองไทยจะมี “ทีวีพูล” ที่สถานีโทรทัศน์ทุกช่องรวมตัวกันเพื่อซื้อลิขสิทธิ์
ต่อมาภาคเอกชนซื้อเอง โดยมี “เบียร์ช้าง” เป็นผู้บุกเบิก
ครั้งนี้ที่ยังไม่มีใครขยับ ส่วนหนึ่งเพราะค่าลิขสิทธิ์สูงมาก ประมาณ 1,000 กว่าล้านบาท
แต่ราคานี้เป็นราคาเริ่มต้น ถ้าช่วงใกล้ ๆ เปิดสนาม ราคาน่าจะลดลงอีก
ภาวะเศรษฐกิจของประเทศตอนนี้ไม่เอื้ออำนวย ทำให้ไม่มีภาคเอกชนรายไหนยอมควักกระเป๋า
ล่าสุด พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ตั้งประเด็นนี้ขึ้นมาในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี
และสั่งให้รีบดำเนินการโดยเร็วที่สุด
การถ่ายทอดสดฟุตบอลโลกกลายเป็นวาระระดับประเทศ
เพราะ “ลุงตู่” คงกลัวว่าถ้าไม่มีการถ่ายทอดสดบอลโลก คอบอลจะไม่พอใจรัฐบาล
เหมือนครั้งก่อนที่คนไทยเกือบไม่ได้ดูฟุตบอลยูโร
อีกด้านหนึ่ง คงอยากให้บอลโลกช่วยลดกระแสร้อนแรงทางการเมืองหลังเปิดสภา
ตอนนี้มี 95 ประเทศซื้อลิขสิทธิ์ไปแล้ว โดยในประเทศอาเซียน มี 4 ประเทศคือ บรูไน กัมพูชา อินโดนีเซีย มาเลเซีย
สำหรับไทยคงไม่มีปัญหา เพราะระดับนายกฯเอ่ยปากใน ครม.แล้ว ยังไงก็คงมีการถ่ายทอดสดอย่างแน่นอน
คำถามก็คือ จะหาเอกชนรายใดมาควักกระเป๋าจ่ายค่าลิขสิทธิ์ หรือจ่ายค่าโฆษณา
เพราะถ้าใช้งบประมาณของรัฐก็คงมีเสียงวิจารณ์กันหนักทีเดียว
ได้ข่าวว่าตอนนี้เอกชนรายใหญ่เริ่มหนาว ๆ ร้อน ๆ หลบตากันเป็นทิวแถว
แต่แทงไพ่ได้เลยว่า คงมีรายหนึ่งที่หนีไม่ออก
นั่นคือ ปตท.
เอ๊ะ หรือว่าอัศวินม้าขาวตอนบอลยูโรจะกลับมาอีกครั้ง
จำเพลงนี้ได้ไหมครับ
…เชียร์ยูโร แอโร่ซอฟท์
เชียร์ยูโร แอโร่ซอฟท์
อยู่ที่ว่าหลังจบบอลยูโร “แอโร่ซอฟท์” สรุปได้หรือยังว่าการสร้างแบรนด์ครั้งนี้ประสบความสำเร็จ
หรือ เข็ดแล้ว
