
คอลัมน์ : Market-think ผู้เขียน : สรกล อดุลยานนท์
และแล้วเราก็ได้นายกรัฐมนตรีคนที่ 30 อย่างเป็นทางการแล้ว
นั่นก็คือ…
คุณเศรษฐา ทวีสิน จากพรรคเพื่อไทย
การฟอร์ม ครม.ชุดใหม่น่าจะเรียบร้อยและเริ่มทำงานได้ในเดือนนี้
ตลาดหุ้นตอบรับคุณเศรษฐาค่อนข้างดี ดัชนีพุ่งขึ้น 2-3 วันติดต่อกัน
ไม่เหมือนกับตอนที่พรรคก้าวไกลเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล
แสดงให้เห็นว่าภาคธุรกิจเชื่อมั่นคุณเศรษฐา และนโยบายเศรษฐกิจของพรรคเพื่อไทยมากกว่า
ซึ่งก็ไม่แปลก เพราะนโยบายของพรรคก้าวไกลนั้นชัดเจนว่าจะมุ่งไปที่รัฐสวัสดิการ
ซึ่งระบบทุนนิยมไม่ชอบ
ตอนนี้คงต้องติดตามว่า “เศรษฐา” จะทำอะไร และเร็วแค่ไหน
เรื่อง “เร็ว” เชื่อได้เลยว่าอะไรที่เร็วได้ ทำเร็วแน่นอน
คำว่า speed to market ที่คุณเศรษฐาใช้เป็นประจำในการบริหาร “แสนสิริ”
เราคงได้เห็นอีกครั้งจากรัฐบาลชุดนี้
ส่วนหนึ่ง เป็นเพราะสไตล์การบริหารส่วนตัว
แต่อีกส่วนหนึ่ง มาจากปัญหาทางการเมือง ที่พรรคเพื่อไทยยอมเสีย “เครดิต” ที่สั่งสมมานาน
ทุ่มหมดหน้าตัก ฉีกคำสัญญาที่ให้ไว้ในการหาเสียงเลือกตั้ง
เพื่อชิงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีให้ได้
ดังนั้น เมื่อได้เป็นรัฐบาล เขาจึงต้องเร่งสร้างผลงานอย่างรวดเร็ว
นโยบายอะไรที่คิดไว้ และทำได้เร็วต้องทำก่อน
ล่าสุดที่คุณเศรษฐามาที่ “มติชน” เขาบอกเลยว่าเรื่องแรกที่ทำได้ทันทีคือ เรื่องรายได้จากการท่องเที่ยว
เขาเคยพูดไว้ก่อนหน้านี้ว่า บางปัญหาเป็นแค่เรื่องการอำนวยความสะดวกให้นักท่องเที่ยว
เพราะนักท่องเที่ยวอยากจะมาเมืองไทยแต่ติดปัญหาบางอย่าง เช่น ปัญหาการออกวีซ่านักท่องเที่ยวจีนล่าช้า
ปัญหาระบบการทำงานของการท่าฯสนามบินสุวรรณภูมิ ที่ทำให้นักท่องเที่ยวต้องต่อคิวยาว ๆ
หรือเรื่องเครื่องบินของการบินไทยมีน้อยเกินไป ไม่พอกับความต้องการของนักท่องเที่ยวต่างชาติ
แม้ว่าในมุมของการฟื้นฟูกิจการ การบินไทยไม่ควรรีบเพิ่มเที่ยวบิน
แต่ในมุมเศรษฐกิจของประเทศที่ต้องการรายได้จากการท่องเที่ยว
การบินไทยมีความจำเป็นต้องเพิ่มเครื่องและเที่ยวบิน
เรื่องแบบนี้ทำได้ทันที เพียงแต่ต้องลงไปจัดการรายละเอียดเท่านั้นเอง
เหมือนกับการทำความสะอาดท่อ
เอาสิ่งที่อุดตันออกเพื่อให้น้ำเดินทางได้สะดวก
ยังไม่ต้องเปลี่ยนท่อใหม่ซึ่งต้องใช้เวลา
หรืออีกเรื่องหนึ่งที่ผมคิดว่าอาจได้เห็นจากรัฐบาลชุดนี้
นั่นคือการลดค่าไฟฟ้า
แม้จะมีข่าวเรื่องกลุ่มทุนใหญ่เข้ามามีบทบาทในการจัดตั้งรัฐบาล
และพยายามเข้าไปคุมกระทรวงพลังงาน
แต่ในทางการเมือง นโยบายการลดค่าไฟฟ้าที่พรรคเพื่อไทยเคยประกาศไว้ในการหาเสียงเลือกตั้ง
เป็นเรื่องที่มีผลทางการเมืองสูง
“เพื่อไทย” มีความจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องกู้ศรัทธาของประชาชนให้กลับมาเร็วที่สุด
และที่เร็วที่สุดคือ เรื่องอะไรที่แก้ปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนแบบตรง ๆ
ต้องรีบทำ
พรรคเพื่อไทยอาจเสียเครดิตเรื่องความน่าเชื่อถือทางการเมืองของพรรคเพื่อไทยในวันนี้
ตอนนี้สัญญาอะไร คนก็ไม่เชื่อแล้ว
แต่เรื่องฝีมือการบริหารงาน นโยบายอะไรที่ประกาศมา ทำได้จริง
เครดิตเรื่องนี้ยังมีอยู่
ดังนั้น คุณเศรษฐาคงต้องเน้นย้ำเรื่องนี้ให้เร็วที่สุด
เพื่อจะได้กลบรอยแผลในหัวใจของคนจำนวนมากเรื่องคำสัญญา “ไม่เอาลุง” ของพรรคเพื่อไทย
สร้าง “ความทรงจำใหม่” ในใจให้ได้ในช่วงที่เป็นรัฐบาล
ก่อนการเลือกตั้งครั้งหน้า
นี่คือเกมเดิมพันใหม่ของคุณเศรษฐาและพรรคเพื่อไทยในวันนี้