
ผู้เขียน : ชัชพงศ์ ชาวบ้านไร่
และแล้ววันนี้ก็มาถึง “เศรษฐา ทวีสิน” คือนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 ของประเทศไทย หลายคนอาจเคยเห็นเศรษฐามาก่อนในฐานะผู้บริหาร บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) ยักษ์ใหญ่ในวงการอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งเป็นที่รู้จักในวงกว้าง
วันนี้ เมื่อเศรษฐาเปลี่ยนสถานะจากนักธุรกิจเป็นนายกรัฐมนตรีคนต่อไปของประเทศไทยแล้ว “ประชาชาติธุรกิจ” ขอเกาะกระแสพาทุกคนไปรู้จักตัวตนของเขาให้มากขึ้น ทั้งการดำเนินชีวิต และไลฟ์สไตล์ของนายกรัฐมนตรีคนใหม่แกะกล่อง
เศรษฐา ทวีสิน หรือเสี่ยนิด เกิดและโตในครอบครัวที่มีฐานะร่ำรวย เป็นลูกชายเพียงคนเดียวของ “ร้อยเอกอำนวย ทวีสิน” และ “ชดช้อย ทวีสิน” จากสกุล “จูตระกูล” โดยเศรษฐามีความเกี่ยวข้องทางเครือญาติกับตระกูลใหญ่ในแวดวงธุรกิจถึง 5 ตระกูล ได้แก่ ยิบอินซอย, จักกะพาก, จูตระกูล, ล่ำซำ และบุรณศิริ
จะทำอะไรต้องมีแพสชั่น
เศรษฐาให้สัมภาษณ์พิเศษกับ “ประชาชาติธุรกิจ” ด้วยน้ำเสียงจริงจังเมื่อช่วงปลายเดือนมกราคม 2566 ว่า “ผมจะทำอะไร ผมต้องมีแพสชั่นไม่งั้นผมไม่ทำ” ไม่ว่าจะเป็นเรื่องฟุตบอล เรื่องเด็ก เรื่องกรีน เรื่องความยั่งยืน หรือเรื่อง LGBTQ+ จะต้องมีแพสชั่นชัดเจน อยากทำให้ออกมาดี ให้เหมาะสมกับการที่ลงไปทำในสิ่งนั้น ๆ ต้องให้ความสำคัญกับมันจริง ๆ
“ถ้าไม่มีแพสชั่นไม่ทำดีกว่า เรื่องไหนไม่สนใจ ผมจะไม่ทำ” ซึ่งไม่ได้หมายความว่าเรื่องเหล่านั้นไม่สำคัญ แต่เพราะคนเราทำทุกอย่างไม่ได้ ถ้าจะไปทำงานการเมืองก็ต้องทำเพื่อประเทศชาติเป็นหลัก
“ผมคิดอยู่นานมากเหมือนกันนะครับ อย่างที่ทราบดีว่านักธุรกิจที่ก้าวเข้าสู่การเมือง และปรารถนาจะอยู่ในตำแหน่งที่สูงสุด ก็มีเสียงเตือนเยอะ วิบากกรรมเยอะ เป็นที่เพ่งเล็ง”
แม้จะอยู่ในวงการธุรกิจมานานกว่า 30 ปีแล้ว เริ่มต้นตั้งแต่พนักงาน 7 คน จนกลายเป็นบริษัทยักษ์ใหญ่พนักงานกว่า 4,000 คน แต่ธุรกิจกับการเมืองนั้นแตกต่างกันหลายอย่าง การสั่งพนักงานในบริษัทไม่เหมือนกับการสั่งข้าราชการ
ฉะนั้นหลาย ๆ อย่างจึงไม่ใช่เรื่องง่าย ไม่ใช่ว่าเราประสบความสำเร็จในวงการธุรกิจแล้วเราจะเป็นนักการเมืองที่ประสบความสำเร็จได้ ดังนั้น เราต้องฟังคนที่เขาปรามาสเรา
มีรสนิยม ลงรายละเอียด กล้าได้กล้าเสีย
อุปนิสัยของนายกฯคนนี้ แม้จะเป็นคนใจร้อน โผงผาง ดูดุ เสียงดัง และตรงไปตรงมา แต่ความโดดเด่นก็คือ เป็นคนลงรายละเอียด มีรสนิยม จึงสามารถสร้างแบรนด์แสนสิริให้เติบโตขึ้นมาได้อย่างยิ่งใหญ่ ด้วยความชอบด้านการตลาด กล้าได้กล้าเสีย จะขาดทุนหรือกำไรค่อยว่ากัน แต่ต้องทุ่มสร้างคอนเทนต์ไปก่อน
ในการให้สัมภาษณ์กับประชาชาติธุรกิจเมื่อต้นปีที่ผ่านมา เขาบอกว่า ธุรกิจสมัยนี้ต้องอาศัยความรวดเร็ว ฉับพลัน ทันเวลา ถ้าคุณตัดสินใจช้าไปหน่อยเดียวมันก็เจ๊ง แต่ก็ขึ้นอยู่กับแต่ละเรื่องด้วย บางเรื่องต้องช้าเพราะมันยังไม่สุก บางทีมันแล้วแต่สถานการณ์ เพราะฉะนั้นประสบการณ์ในการทำงานมีส่วนสำคัญมากในการที่จะตัดสินใจได้ช้าหรือเร็ว แต่ถ้าองค์ประกอบและข้อมูลพร้อม ผมเชื่อว่าต้องตัดสินใจเร็ว ต้องทำให้เร็ว หลาย ๆ อย่างมันต้องชัดเจน
“ซีอีโอแต่ละคนก็ต่างกันไป ผมอาจจะเป็นซีอีโอที่เข้าถึงได้ เป็นซีอีโอที่ลงรายละเอียด และให้อิสรภาพในการทำงานหลาย ๆ เรื่อง แต่บางเรื่อง เช่น แบรนดิ้ง ผมจะดูเอง ทั้งโปสเตอร์ บิลบอร์ด หรือโฆษณา ผมเชื่อว่าทุกคนยอมรับว่าแสนสิริมีแบรนดิ้งที่แข็งแกร่ง มีโฆษณาที่ดูแล้วเก๋เท่ และมีความสง่างาม
ผมไม่ได้เคลมว่าผมมีรสนิยมดีกว่า แต่เรื่องภาพลักษณ์ต้องมีคนตัดสิน ผมถือว่าผมสูงสุดและมันคือหน้าตาของผม ผมอยากหน้าตาแบบนี้ บ้านราคาแพงของแสนสิริต้องเป็นแบบนี้ ดังนั้น แล้วแต่ว่าซีอีโอคนไหน เขาเห็นว่าเรื่องอะไรสำคัญ”
แฟนลิเวอร์พูลตัวยงแต่ดูบอลแบบเป็นกลาง
เศรษฐาคลั่งไคล้ฟุตบอลมากและเป็นแฟน “หงส์แดง” ลิเวอร์พูลตัวยงอีกคนหนึ่งในเมืองไทย แต่การเชียร์ทีมรักของเขามีความน่าสนใจอยู่ไม่น้อย นายกรัฐมนตรีคนที่ 30 เคยกล่าวถึงเรื่องนี้ ในการให้สัมภาษณ์กับประชาชาติธุรกิจเมื่อต้นปี 2563 ว่า ความชอบฟุตบอลของเขาเริ่มจากการที่ชอบเล่นฟุตบอลที่โรงเรียนเมื่อสมัย 50 กว่าปีก่อน และทุกวันนี้ก็ยังเล่นอยู่
ย้อนกลับไปสมัยนั้นคงไม่มีใครไม่รู้จักหนังสือ “สตาร์ ซอคเก้อร์” และแน่นอน เศรษฐาก็เป็นหนึ่งในผู้อ่าน เขาบอกว่า ปลายยุค 70’s ถึงต้นยุค 80’s ทีมที่ยิ่งใหญ่ก็คือ ลิเวอร์พูล
“แต่จริง ๆ แล้วผมเป็นคนสนใจทีมที่เล่นสนุกมากกว่า ถ้าถามทีมที่เชียร์ก็คือ เชียร์ลิเวอร์พูล แต่ผมมั่นใจว่าผมเป็นแฟนลิเวอร์พูลที่ดูฟุตบอลได้แบบมีความเป็นกลาง และเข้าใจว่าอะไรถูกอะไรผิด
ตอนนั้นเป็นยุครุ่งเรืองของลิเวอร์พูล เล่นดุดัน สนุก เร้าใจ แต่ผมยืนยันเลยว่า ผมดูบอลได้อย่างเป็นกลาง ไม่ใช่ว่าเป็นแฟนพันธุ์แท้แล้วคุยด้วยเหตุด้วยผลไม่ได้ เวลาคนเราบ้าอะไรก็อยากให้มันออกมาดี แต่ว่าสิ่งที่คุณอยากให้เป็น กับสิ่งที่มันเป็น คุณต้องแยกให้ถูกมันถึงจะสนุก ถึงจะเข้าใจโลก”
“ประชาชาติธุรกิจ” เคยถามเศรษฐาเมื่อครั้งที่ลิเวอร์พูลคว้าแชมป์ลีกสูงสุดของอังกฤษในรอบ 30 ปี ว่าอยากบินไปดูทีมรักรับถ้วยแชมป์ไหม เศรษฐาในตอนนั้นตอบว่า
“ไม่เลย ไม่ไปแน่นอน ผมอยากไปดูความสนุก ผมไม่ได้ไปเพื่อดีใจ หรือไปเพื่อเซลฟี ผมไม่ใช่คนที่ต้องไปฉลอง นัดสุดท้ายสมมติเราไปเล่นกับวัตฟอร์ด มันจะสนุกที่ไหนล่ะ ผมไปดูแมนฯ ซิตี้ เล่นกับเลสเตอร์ ขับเคี่ยวกันมันกว่า” คำตอบน่าสนใจไม่น้อย
เศรษฐาเคยบอกว่าฟุตบอลนำมาปรับใช้กับการทำงานได้ มันก็เสริมกันไปซึ่งกันและกัน อย่างเช่นแง่คิดที่ว่า บางวันของคุณก็ขายดี บางวันของคู่แข่งก็ขายดี ก็เหมือนฟุตบอลที่วันนี้คุณแพ้ พรุ่งนี้คุณชนะ
“มันเหมือนกันคือคุณต้องตื่นขึ้นมาทำงานไม่ว่าจะแพ้หรือชนะ คุณก็ต้องทำงานหนัก ต้องขวนขวายหาจุดแข็งและจุดอ่อนของคุณ เจอจุดอ่อนก็ต้องพัฒนา ทำธุรกิจมันเหมือนกันหมด เพียงแต่คุณมีโอกาสจะทำอะไรเท่านั้นเอง”
เมื่อก่อนเศรษฐาเคยบอกว่าถ้าอยู่กรุงเทพฯ อยากเตะบอลให้ได้สัปดาห์ละ 3 ครั้ง หรือบ่อยกว่านั้น แต่วันนี้ที่ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีแล้ว เห็นทีจะเป็นไปได้ยาก เพราะภารกิจน่าจะรัดตัว และในส่วนของนโยบายด้านการกีฬาก็คงถูกคาดหวังไม่น้อย
นายกฯ ที่รักและดูแลสุขภาพ
เศรษฐา ทวีสิน เป็นหนุ่มใหญ่ที่มีไลฟ์สไตล์ชัดเจน โดยเฉพาะเรื่องการรักและดูแลสุขภาพของตัวเอง โดยมีคุณหมออ้อม พักตร์พิไล ทวีสิน ภริยาคู่ชีวิตช่วยดูแลอีกทางหนึ่ง
ท่านนายกฯคนใหม่เคยเปิดเผยกับทีมงานประชาชาติธุรกิจว่า เป็นคนป่วยบ่อยในวัยเด็ก และได้ตรวจพบว่าไตของตัวเองไม่แข็งแรง จึงต้องตัดออก ทำให้ชีวิตต้องมีไตข้างเดียว
เรื่องไตจึงเป็นที่มาของการรักษาสุขภาพให้ดีที่สุดและต้องแข็งแรง เพื่อให้ดำเนินชีวิตอย่างปกติ ไม่ว่าจะอยู่ในวัยไหน ดังนั้น เรื่องอาหารการกินจึงเป็นสิ่งสำคัญมาก ๆ อาหารแต่ละมื้อของท่านนายกฯ คนใหม่จึงต้องเริ่มด้วย “เมนูผัก” เป็นเมนูแรก เพื่อให้ตัวเองรู้สึกอิ่มสักนิดหนึ่งก่อน แล้วค่อยรับประทานอาหารปกติ
เศรษฐาตระหนักว่า ยิ่งบริโภคโปรตีนในปริมาณที่เยอะก็ต้องบริโภคไฟเบอร์ให้เยอะตามไปด้วย เพราะจะช่วยทำให้ระบบย่อยทำงานดี แล้วภายในร่างกายทั้งไตและตับก็ทำงานไม่หนักเกิน เป็นการถนอมร่างกาย ทำให้ร่างกายแข็งแรง ซึ่งเขาบอกอีกว่า ชีวิตตอนนี้อยู่ตัวแล้ว เพราะได้ดูแลตัวเองมาตลอด และบอกอีกว่า จะใช้ชีวิตอย่างไม่ประมาท
- รู้จักครอบครัวเศรษฐา ทวีสิน “พญ.พักตร์พิไล” สตรีหมายเลข 1 และ 3 ทายาทแสนล้าน
- เปิดประวัติ “น้อบ-ณภัทร” ลูกชายคนโต เศรษฐา ทวีสิน โปรไฟล์ไม่ธรรมดา
- ย้อนอ่าน “เศรษฐา” พูดเรื่องภาษีและความเหลื่อมล้ำ ในวันที่ยังไม่ได้เป็นนายกฯ
- เศรษฐา ทวีสิน มุมมองเศรษฐกิจ-สังคม หลักบริหารธุรกิจ-จัดการชีวิต ไม่มีสีเทา มีแต่ขาวกับดำ
- คุยกับ “เศรษฐา ทวีสิน” แฟนหงส์ที่ไม่ตื่นเต้นกับการที่ลิเวอร์พูลจะคว้าแชมป์ลีกในรอบ 30 ปี