
คอลัมน์ : Market-think ผู้เขียน : สรกล อดุลยานนท์
เห็นผลประกอบการช่อง 3 แล้ว ต้องยอมรับเลยว่า พลานุภาพของ “สรยุทธ สุทัศนะจินดา” นั้นแรงจริง ๆ
เพียงแค่กลับมาออกจอเล่าข่าวตั้งแต่ต้นเดือนพฤษภาคม 2564
รายได้ค่าโฆษณาช่วงข่าวก็กลับมาเฟื่องฟูอีกครั้งหนึ่ง
ปี 2564 ช่อง 3 พลิกจากขาดทุนต่อเนื่อง 3 ปี กลับมามีกำไรอีกครั้ง
ตัวเลขกำไร 761 ล้านบาท จากรายได้ 5,680 ล้านบาท น่าจะเป็นแค่จุดเริ่มต้นความรุ่งเรืองของช่อง 3 อีกครั้ง
เพราะถ้าจุดเรื่องข่าวติดแล้ว
กำไรจะพุ่งขึ้นทันที
เพราะค่าใช้จ่ายการทำข่าวเป็นต้นทุนคงที่
ทั้งเงินเดือนนักข่าว และทีมงานช่างภาพ
สมมุติว่าวันละ 2 ล้านบาท
ถ้าออกอากาศวันละ 1 ชม. ต้นทุนก็เท่ากับชั่วโมงละ 1 ล้าน
แต่ถ้า 10 ชม. ต้นทุนก็เหลือชั่วโมงละ 1 แสนบาท
ดังนั้น ถ้าสามารถขยายเวลารายการข่าวเพิ่มขึ้น ต้นทุนเฉลี่ยก็จะต่ำลง
จะเพิ่มขึ้นก็แค่ค่าผู้ประกาศข่าวในห้องส่ง
รายการข่าวจะขยายเวลาเพิ่ม เรตติ้งต้องดี โฆษณาต้องขายได้
ซึ่งตอนนี้ ช่อง 3 ทำสำเร็จแล้ว
ตอนนี้สัดส่วนรายได้จากรายการข่าวอยู่ที่ 1,305 ล้านบาท หรือ 27% ของรายได้โฆษณาทั้งหมดของช่อง 3
จากเดิมเมื่อปี 2563 รายได้จากข่าวแค่ 951 ล้านบาท หรือ 20% ของรายได้
จาก 20% เป็น 27% นั้นแค่จุดเริ่มต้น
เพราะตอนที่รุ่ง ๆ รายได้จากข่าวสูงถึงกว่า 30%
ละครโทรทัศน์หรือรายการเกมโชว์นั้นถ้าเพิ่มเวลาออกอากาศ ค่าใช้จ่ายในการถ่ายทำจะเพิ่มขึ้น สูงกว่าต้นทุนของการเพิ่มเวลาของรายการข่าว
แค่ “สรยุทธ” กลับมาอ่านข่าวเรื่องเล่าเช้านี้ ทุกวันจันทร์-ศุกร์ และเรื่องเล่าเสาร์-อาทิตย์ วันเสาร์และวันอาทิตย์
ช่อง 3 ขายโฆษณาสนุกเลยครับ
ส่วนลดที่เคยให้ก็ลดน้อยลง ขายได้เพิ่มขึ้น 40-50%
และนอกจากได้ “สรยุทธ” คืนจอแล้ว ตอนนี้ช่อง 3 มีซูเปอร์สตาร์คนใหม่ คือ “กรรชัย กำเนิดพลอย” และรายการโหนกระแส
ต้องยอมรับตอนนี้ “โหนกระแส” มาแรงจริง ๆ
แรงพอ ๆ กับตอนที่ “สรยุทธ” ทำรายการ “เจาะข่าวเด่น”
“หนุ่ม-กรรชัย” ไม่เด่นเรื่องข่าวการเมืองเหมือน “สรยุทธ” แต่เขาเด่นในเรื่องข่าวกระแส เรื่องบันเทิง เรื่องข่าวชาวบ้าน
ซึ่งแมสกว่าข่าวการเมือง
ตอนนี้เวลามีข่าวดัง ๆ อะไรขึ้นมา ทุกคนจะจับตามองว่าเมื่อไรตัวละครในข่าวจะไปออกรายการ “โหนกระแส” ให้ “หนุ่ม-กรรชัย” สัมภาษณ์
และอาจเป็นเพราะ “กรรชัย” มาจากวงการบันเทิง
เขาจึงมีความวาไรตี้สูงกว่า “สรยุทธ”
และคิดหามุม “ดราม่า” ได้
ทำให้รายการนี้อยู่ในกระแสตลอดเวลา
รายการ “โหนกระแส” ตอนสัมภาษณ์คุณแม่ “แตงโม” ทำเรตติ้งสูงมาก
และหลังจบรายการทางช่อง 3 เขายังสัมภาษณ์ต่อในเพจของ “โหนกระแส” ซึ่งมีคนดูสด ๆ ตอนนั้นถึง 1 ล้านคน
ยิ่งย้ำว่า “โหนกระแส” นั้นแรงจริง ๆ
และเป็นรายการทอล์กข่าวที่สามารถขายโฆษณาได้เต็ม 100%
เดือนเมษายนนี้ ทางช่อง 3 จะปรับเพิ่มเวลาช่วงข่าว
รายการขันข่าวเช้าตรู่ เสาร์-อาทิตย์ เวลา 06.00-07.00 น. เพิ่มขึ้น 25-30 นาทีต่อวัน
รายการเรื่องเล่าเสาร์-อาทิตย์ เวลา 10.15-12.15 น. เพิ่มขึ้น 15 นาทีต่อวัน
รายการเรื่องเด่นเย็นนี้ เสาร์-อาทิตย์ เวลา 17.30-18.20 น. เพิ่มขึ้น 30 นาทีต่อวัน
ส่วน “โหนกระแส” นั้น เชื่อว่าช่อง 3 คงกำลังคิดอยู่ว่าจะเพิ่มรายได้จากช่วงนี้ได้อย่างไร
หรือต่อยอดไปสู่อะไรได้อีก
ปี 2565 แม้เศรษฐกิจจะย่ำแย่ แต่อาจเป็นปีทองของช่อง 3 เมื่อรายการข่าวฟื้นตัวขึ้นมาแล้ว
ปีที่แล้วแค่ “สรยุทธ” กลับมาแค่ 6-7 เดือน ยังทำกำไรได้ขนาดนี้
ปีนี้จะขนาดไหน
ยิ่งมีแม่เหล็กตัวใหม่ คือ “หนุ่ม-กรรชัย” เข้ามาเสริมด้วย
ปีนี้ ช่อง 3 น่าจับตามองมาก