สุราก้าวหน้า

เหล้า-เบียร์
คอลัมน์ : Market-think
ผู้เขียน : สรกล อดุลยานนท์

กลายเป็นข่าวใหญ่ระดับที่สื่อบางสำนักใช้คำว่า “มติประวัติศาสตร์”

นั่นคือ เรื่อง พ.ร.บ.สุราก้าวหน้า ที่ ส.ส.พรรคก้าวไกลเสนอ

พ.ร.บ.นี้ผ่านสภาผู้แทนราษฎรวาระที่ 1 ไปแล้วครับ

ผิดความคาดหมายมาก

เพราะคิดว่าพรรคร่วมรัฐบาลจะโหวตคัดค้านตามแนวทางของรัฐบาลที่จะดึงถ่วง พ.ร.บ.สุราก้าวหน้า

ก่อนหน้านี้ก็ดึงถ่วงขอนำเรื่องไปพิจารณา 3 เดือนก็นำเข้าสภา

แต่ปรากฏว่า ส.ส.รัฐบาลจำนวนไม่น้อยยกมือหนุน พ.ร.บ.ฉบับนี้ของพรรคก้าวไกลจนผ่านวาระที่ 1

ใครที่อยู่ในแวดวงสุรา-เบียร์ จะรู้ดีว่าการจะผลิตเหล้าหรือเบียร์ในเมืองไทยนั้นเป็นเรื่องที่ยากมาก

น่าจะยากที่สุดเมื่อเทียบกับทุกอุตสาหกรรม

“เหล้า-เบียร์” เป็นอุตสาหกรรมที่ผูกขาดอย่างแท้จริง เพราะมีเจ้าใหญ่อยู่ไม่กี่เจ้า

และเจ้าใหญ่นี้ก็เป็นนายทุนใหญ่ของพรรคการเมือง

และเป็น “เจ้าที่” สิ่งศักดิ์สิทธิ์ของกรมสรรพสามิต-กรมโรงงานอุตสาหกรรมมายาวนานกว่า 30-40 ปี

เคยสังเกตไหมครับว่าอธิบดีกรมสรรพสามิตแทบทุกคน เมื่อเกษียณอายุราชการจะมีงานใหม่รองรับทันที

หากไม่เป็นที่ปรึกษา ก็เป็นกรรมการบริษัทในเครือของยักษ์ใหญ่วงการสุรา

ถ้าใช้ศัพท์วงการข้าว เขาเรียกว่า “ตกเขียว” ครับ

ทำแบบนี้มาอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้คนที่อยู่ในกรมนี้รู้เลยว่าถ้าดูแลผมตอนที่มีตำแหน่ง

เมื่อเกษียณแล้วผมจะดูแลคุณเอง

ส่วนกลยุทธ์การผูกขาดนั้น ใช้วิธีการให้รัฐตั้งกฎระเบียบที่เหมือนกำแพงสูงลิ่ว ไม่ใช่แค่เพียงคนธรรมดาทั่วไปจะปีนข้ามไปไม่ได้แล้ว

แม้แต่นักธุรกิจใหญ่รายอื่นก็เข้ามาไม่ได้

เพราะไม่ใช่เพียงแค่เงินทุนจดทะเบียน ขนาดโรงงาน กำลังการผลิตมหาศาลเท่านั้น

ยังมีเรื่องกฎหมายสิ่งแวดล้อมและอื่น ๆ อีกมากมาย

อุตสาหกรรมเหล้า-เบียร์ มียอดขายระดับหมื่นล้านบาท เชื่อเถอะครับมันเย้ายวนใจ นักธุรกิจคนไหนก็อยากเข้ามา

แต่ทำไมไม่มีใครเข้ามาแข่งเลย

คำตอบง่าย ๆ ก็คือ เพราะเข้ามาไม่ได้

กำแพงอุปสรรคที่เจ้าใหญ่สร้างขึ้นมานั้นสูงลิบลิ่ว ระดับที่นักธุรกิจใหญ่ ๆ รายไหนก็เข้ามาไม่ได้

ไม่ใช่แค่ประชาชนคนธรรมดาเท่านั้น

ทั้งที่ประเทศอื่น การผลิตเหล้าหรือเบียร์นั้นเหมือนกับสินค้าธรรมดาทั่วไป

ยิ่งมีการแข่งขัน สินค้าก็จะมีความหลากหลาย คุณภาพก็ยิ่งดีขึ้น

เราสามารถพัฒนาจนกลายเป็นสินค้าส่งออกไปสบาย ๆ เลยครับ

เพราะเราเป็นประเทศเกษตรกรรม

“วัตถุดิบ” ของเราหลากหลายมาก

ถ้าญี่ปุ่นมีเหล้าสาเกที่ผลิตจากข้าวเป็นหมื่นยี่ห้อ และส่งออกกว่า 90%

ทำไมเราจะทำไม่ได้

การเปิดเสรีสุราจะเป็นการเพิ่มทางเลือกให้กับ “ข้าวไทย”

ช่วยแก้ปัญหาข้าวล้นตลาด ราคาต่ำจนรัฐบาลต้องประกันราคาข้าว หรือจำนำข้าว

เช่นเดียวกับสินค้าเกษตรอื่น ๆ สับปะรดที่บ่นว่าตกต่ำเหลือกิโลละ 1 บาท

หรือลำไยที่ถูกล้งเท กดราคาซื้อ

แค่เปิดประตู ทำลายกำแพงผูกขาดนี้ได้ เราจะมีทางเลือกใหม่ให้กับสินค้าเกษตร

ขายเป็นผลไม้ปกติ หรือหมักทำไวน์

มูลค่าต่างกันมากนะครับ

ตอนนี้คนไทยที่มีฝีมือทำคราฟต์เบียร์ที่ได้รางวัลระดับโลก ต้องไปผลิตคราฟต์เบียร์ที่ประเทศเพื่อนบ้านไทย

ผลิตเสร็จแล้วส่งเข้ามาในเมืองไทย

เสียภาษีนำเข้าเหมือนเป็นเบียร์นอก

ทั้งที่ประเทศอื่น เรื่องนี้เป็นเรื่องธรรมดา เป็นสินค้าตัวหนึ่งที่ใคร ๆ ก็ผลิตได้

จับตาเรื่อง พ.ร.บ.สุราก้าวหน้าให้ดีนะครับ

ชนะในวาระ 1 ไม่ใช่จะชนะในวาระต่อไปง่าย ๆ

สงครามครั้งนี้เดิมพันสูงมาก

ไม่ง่ายครับ ไม่ง่าย