คอลัมน์ : Pawoot.com ผู้เขียน : ภาวุธ พงษ์วิทยภานุ
ที่ผ่านมา “อีลอน มัสก์” มีการเปิดตัวหุ่นยนต์ตัวใหม่ชื่อ Optimus ผมเชื่อว่าหุ่นยนต์เป็นเรื่องที่เราได้ยินมานานแล้ว แต่เมื่อเป็นอีลอน มัสก์ เป็นคนทำขึ้นมา จึงเป็นหุ่นยนต์ที่ได้รับการจับตามองเป็นพิเศษว่าจะเป็นอย่างไรบ้าง
ผมมีโอกาสได้ไปจีนเมื่อก่อนโควิด ได้แวะเยี่ยมโรงงานทำหุ่นยนต์ที่เมืองเสิ่นเจิ้น แต่ถ้าเรานึกถึงหุ่นยนต์อันดับต้น ๆ ของโลกผมนึกถึงบริษัทที่ชื่อว่า บอสตัน ไดนามิกส์ ที่เป็นบริษัทที่ทำหุ่นยนต์เหมือนสุนัขเดินได้ หรือเป็นคนตีลังกาได้ ทรงตัวได้ ฯลฯ
- รู้ไหม ? 31 มณฑลจีน ชอบสินค้าอะไรของไทย
- KBANK ปรับโครงสร้างใหญ่ ลดจำนวนบอร์ด ตั้ง 4 เอ็มดีเป็น “ผู้จัดการใหญ่” มีผล 1 พ.ค.67
- Apple เปิดตัว iPad Air-Pro รุ่นใหม่ 7 พฤษภาคมนี้
หากย้อนกลับไปก่อนหน้านั้นก็มีหุ่นยนต์ตัวหนึ่งที่ดังมากเป็นของฮอนด้าซึ่งพัฒนาขึ้น ชื่อว่า “อาซิโม”
จุดเด่นคือสามารถทรงตัว เดินไปมาได้ ตอนนี้อยู่ที่พิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์ในกรุงโตเกียว
ซึ่ง “ฮอนด้า” ได้ประกาศหยุดการพัฒนาหุ่นยนต์ตัวนี้แล้ว เพราะเห็นว่าเทคโนโลยีหุ่นยนต์ในโลกนี้ก้าวไปเร็วมากจนไม่จำเป็นที่จะต้องพัฒนาอาซิโมอีกแล้ว
ตอนนั้นเริ่มมีชื่อบริษัท บอสตัน ไดนามิกส์ ที่เริ่มพัฒนาหุ่นยนต์ขึ้นมาตั้งแต่ตัวใหญ่เหมือนวัวจนเล็กลงมาเหมือนสุนัข และมีแบบคน
ช่วงหลังเทคโนโลยีหุ่นยนต์แบบนี้จีนก๊อบปี้ไป ตอนนี้มีหุ่นยนต์คล้าย ๆ แบบนี้ขายใน AliExpress ราคาไม่ถึงแสนบาทก็สามารถซื้อได้แล้ว
บริษัทนี้กูเกิลซื้อกิจการไป และช่วงหลังได้รับการติดต่อโดยกระทรวงกลาโหมของอเมริกาให้เริ่มนำหุ่นยนต์พวกนี้ไปใช้ในทางทหาร และบริษัทนี้ดูเหมือนกูเกิลจะขายให้กับบริษัทรถยนต์ฮุนได
ตอนนี้เมื่อพูดถึงหุ่นยนต์ในยุคนี้จะเป็นได้หลายอย่างมาก คือ ทั้งแบบหุ่นยนต์ที่เป็นตัว ๆ เดินไปเดินมา
และอีกแบบ คือ ที่เป็นซอฟต์แวร์แบบแชตบอต หลัง ๆ มานี้เมืองไทยมีบริษัทที่ทำหุ่นยนต์ขึ้นมาเหมือนกัน เช่น หุ่นยนต์ที่ชื่อดินสอ
สิ่งที่น่าสนใจของหุ่นยนต์ของอีลอน มัสก์ที่พูดถึงข้างต้น คือ เขาทำออกมา 2 แบบ
เป้าหมายคือนำหุ่นยนต์ตัวนี้มาทำงานแทนงานที่ซ้ำ ๆ ของคน เช่น งานในโรงงาน
แต่จุดเด่นคือมือหุ่นยนต์ Optimus มี 5 นิ้ว สามารถหยิบจับได้ เคลื่อนไหวได้ เป็นจุดที่แตกต่างจากหุ่นยนต์ตัวอื่น ๆ เลย
อุปกรณ์ในหุ่นยนต์ Optimus ส่วนใหญ่ยังเป็นอุปกรณ์ตัวเดียวกับที่ใช้ในรถยนต์เทสลา
เพราะใช้ระบบ autopilot ในเทสลามาช่วยแยกแยะวัตถุต่าง ๆ มีกล้องรอบตัวมาช่วยประมวลผลด้วย AI พอหุ่นยนต์เริ่มเรียนรู้เริ่มสื่อสารและทำกิจกรรมต่าง ๆ กับวัตถุตรงนั้นได้
ในอนาคตไม่น่าเกิน 3-5 ปีข้างหน้า หุ่นยนต์ตัวนี้จะพัฒนาออกมาขายราคาไม่น่าเกิน 750,000 บาท และตลาดหุ่นยนต์ตัวนี้น่าจะใหญ่กว่าตลาดรถยนต์ด้วยซ้ำไป
ผมชอบเทคโนโลยีของเทสลาที่เป็นลักษณะ minor change ที่แม้จะมีรุ่นใหม่ ๆ ออกมาแต่ภาพรวมเหมือนเดิมหมด มีการอัพเดตซอฟต์แวร์ตลอดเวลา
เมื่อเจ้าพ่อนวัตกรรมอย่างอีลอน มัสก์ เข้ามาทำเรื่องของหุ่นยนต์แล้ว ต่อไปจะเริ่มเห็นได้ชัดว่าเรากำลังเข้าสู่ยุคของโรบอตกันอย่างจริง ๆ จัง ๆ แล้ว