เมื่อเจ้าพ่อนวัตกรรม มาทำ “หุ่นยนต์” เรากำลังเข้าสู่ยุคของโรบอตแล้ว

Optimus
คอลัมน์ : Pawoot.com
ผู้เขียน : ภาวุธ พงษ์วิทยภานุ

ที่ผ่านมา “อีลอน มัสก์” มีการเปิดตัวหุ่นยนต์ตัวใหม่ชื่อ Optimus ผมเชื่อว่าหุ่นยนต์เป็นเรื่องที่เราได้ยินมานานแล้ว แต่เมื่อเป็นอีลอน มัสก์ เป็นคนทำขึ้นมา จึงเป็นหุ่นยนต์ที่ได้รับการจับตามองเป็นพิเศษว่าจะเป็นอย่างไรบ้าง

ผมมีโอกาสได้ไปจีนเมื่อก่อนโควิด ได้แวะเยี่ยมโรงงานทำหุ่นยนต์ที่เมืองเสิ่นเจิ้น แต่ถ้าเรานึกถึงหุ่นยนต์อันดับต้น ๆ ของโลกผมนึกถึงบริษัทที่ชื่อว่า บอสตัน ไดนามิกส์ ที่เป็นบริษัทที่ทำหุ่นยนต์เหมือนสุนัขเดินได้ หรือเป็นคนตีลังกาได้ ทรงตัวได้ ฯลฯ

หากย้อนกลับไปก่อนหน้านั้นก็มีหุ่นยนต์ตัวหนึ่งที่ดังมากเป็นของฮอนด้าซึ่งพัฒนาขึ้น ชื่อว่า “อาซิโม”

จุดเด่นคือสามารถทรงตัว เดินไปมาได้ ตอนนี้อยู่ที่พิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์ในกรุงโตเกียว

ซึ่ง “ฮอนด้า” ได้ประกาศหยุดการพัฒนาหุ่นยนต์ตัวนี้แล้ว เพราะเห็นว่าเทคโนโลยีหุ่นยนต์ในโลกนี้ก้าวไปเร็วมากจนไม่จำเป็นที่จะต้องพัฒนาอาซิโมอีกแล้ว

ตอนนั้นเริ่มมีชื่อบริษัท บอสตัน ไดนามิกส์ ที่เริ่มพัฒนาหุ่นยนต์ขึ้นมาตั้งแต่ตัวใหญ่เหมือนวัวจนเล็กลงมาเหมือนสุนัข และมีแบบคน

ช่วงหลังเทคโนโลยีหุ่นยนต์แบบนี้จีนก๊อบปี้ไป ตอนนี้มีหุ่นยนต์คล้าย ๆ แบบนี้ขายใน AliExpress ราคาไม่ถึงแสนบาทก็สามารถซื้อได้แล้ว

บริษัทนี้กูเกิลซื้อกิจการไป และช่วงหลังได้รับการติดต่อโดยกระทรวงกลาโหมของอเมริกาให้เริ่มนำหุ่นยนต์พวกนี้ไปใช้ในทางทหาร และบริษัทนี้ดูเหมือนกูเกิลจะขายให้กับบริษัทรถยนต์ฮุนได

ตอนนี้เมื่อพูดถึงหุ่นยนต์ในยุคนี้จะเป็นได้หลายอย่างมาก คือ ทั้งแบบหุ่นยนต์ที่เป็นตัว ๆ เดินไปเดินมา

และอีกแบบ คือ ที่เป็นซอฟต์แวร์แบบแชตบอต หลัง ๆ มานี้เมืองไทยมีบริษัทที่ทำหุ่นยนต์ขึ้นมาเหมือนกัน เช่น หุ่นยนต์ที่ชื่อดินสอ

สิ่งที่น่าสนใจของหุ่นยนต์ของอีลอน มัสก์ที่พูดถึงข้างต้น คือ เขาทำออกมา 2 แบบ

เป้าหมายคือนำหุ่นยนต์ตัวนี้มาทำงานแทนงานที่ซ้ำ ๆ ของคน เช่น งานในโรงงาน

แต่จุดเด่นคือมือหุ่นยนต์ Optimus มี 5 นิ้ว สามารถหยิบจับได้ เคลื่อนไหวได้ เป็นจุดที่แตกต่างจากหุ่นยนต์ตัวอื่น ๆ เลย

อุปกรณ์ในหุ่นยนต์ Optimus ส่วนใหญ่ยังเป็นอุปกรณ์ตัวเดียวกับที่ใช้ในรถยนต์เทสลา

เพราะใช้ระบบ autopilot ในเทสลามาช่วยแยกแยะวัตถุต่าง ๆ มีกล้องรอบตัวมาช่วยประมวลผลด้วย AI พอหุ่นยนต์เริ่มเรียนรู้เริ่มสื่อสารและทำกิจกรรมต่าง ๆ กับวัตถุตรงนั้นได้

ในอนาคตไม่น่าเกิน 3-5 ปีข้างหน้า หุ่นยนต์ตัวนี้จะพัฒนาออกมาขายราคาไม่น่าเกิน 750,000 บาท และตลาดหุ่นยนต์ตัวนี้น่าจะใหญ่กว่าตลาดรถยนต์ด้วยซ้ำไป

ผมชอบเทคโนโลยีของเทสลาที่เป็นลักษณะ minor change ที่แม้จะมีรุ่นใหม่ ๆ ออกมาแต่ภาพรวมเหมือนเดิมหมด มีการอัพเดตซอฟต์แวร์ตลอดเวลา

เมื่อเจ้าพ่อนวัตกรรมอย่างอีลอน มัสก์ เข้ามาทำเรื่องของหุ่นยนต์แล้ว ต่อไปจะเริ่มเห็นได้ชัดว่าเรากำลังเข้าสู่ยุคของโรบอตกันอย่างจริง ๆ จัง ๆ แล้ว