สุเทพ พ้นผิด มีกำลังใจเดินหน้าสร้างพรรคการเมืองคนดี

สุเทพ โล่งใจ-อโหสิกรรมคนกล่าวหา คดีฮั้วประมูลสร้างโรงพัก พร้อมเดินหน้าสร้างนักการเมืองดี มาทำงานเพื่อประชาชน

วันที่ 20 กันยายน 2565 กรณีศาลฎีกา แผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง มีคำพิพากษายกฟ้อง นายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตแกนนำกลุ่ม กปปส. และอดีตรองนายกรัฐมนตรี รัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ พร้อมพวกรวม 6 คน ในคดีทุจริตประมูลการสร้างโรงพัก 396 แห่ง ตามที่เสนอข่าวไปนั้น

เมื่อช่วง 12.00 น. นายสุเทพให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน หลังการฟังคำพิพากษาเสร็จสิ้น โดยยอมรับว่า ตนต้องตกอยู่ภายใต้กระแสการโจมตีว่าเป็นคนเลว คนทุจริต เกือบ 10 ปี อดทนอดกลั้นและอาศัยความจริงเข้ามาต่อสู้ ประเทศไทยมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ และรู้ว่าเราตั้งใจทำความดีให้กับชาติบ้านเมือง และประชาชน จะได้รับการคุ้มครอง

“ในระบอบประชาธิปไตยที่อำนาจอธิปไตยแบ่งเป็นสามฝ่าย อำนาจตุลาการของศาล ยังเป็นที่พึ่งหลักของบ้านเมืองได้ คนที่ยึดมั่นในหลักการ ยึดมั่นในระบบขอให้มีกำลังใจ สำหรับตนทนทุกข์ทรมานใจมานาน ตอนนี้หมดทุกข์ หมดโศก พ้นเคราะห์ จะเดินหน้าทำงานให้กับประเทศชาติและประชาชนตามอุดมการต่อไป

ในชีวิตของตนทุ่มเททำงานให้กับบ้านเมืองและประชาชนด้วยความสุจริต ไม่มีใจที่จะคิดคตทรยศต่อแผ่นดิน ไม่ใช่คนทุจริตคอร์รัปชั่น ทุกอย่างได้พิสูจน์แล้ว ใครที่เคยกล่าวหาโจมตี ตนขอโหสิให้”

เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงการเดินหน้าฟ้องกลับผู้ที่เกี่ยวข้อง นอกเหนือจาก นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อดีตอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) นายสุเทพกล่าวว่า ยังไม่ได้คิด และจะเดินทางไปไหว้ศาลหลักเมือง และพระแก้วมรกตก่อน เพราะเวลาต่อสู้คดีตนได้ตั้งสัตย์อธิษฐาน ตนใช้ความจริงในการต่อสู้ ไม่ได้คิดหรือว่าโทษอะไรใครทั้งสิ้น

ADVERTISMENT

นายสุเทพยังกล่าวถึงเส้นทางการเมืองนับจากนี้ว่า ตนต้องการสนับสนุนพรรคการเมืองของประชาชนที่แท้จริง ตนได้ร่วมก่อตั้งพรรครวมพลัง ที่มี ส.ส. 5 คน และมีรัฐมนตรี 1 คน เราทำประโยชน์ให้กับประชาชนมามาก ช่วงที่ก่อตั้งพรรคตนถูกโจมตีจากข้อมูลเท็จ แต่วันนี้ตนพ้นผิด มีกำลังใจในการเดินหน้าทางการเมืองต่อไป ยืนยันไม่ลงสมัครรับเลือกตั้ง แต่จะขอสร้างนักการเมืองที่ดีมาทำงานเพื่อประชาชน

“อะไรที่ช่วยได้ก็ช่วย เคยลั่นสัจจะวาจาไว้แล้วตอนเดินขบวน ว่าจะไม่กลับไปยุ่งทางการเมือง ส่วนสมาชิกพรรคที่จะสนับสนุนให้ พล.อ.ประยุทธ์ กลับมาเป็นนายกฯอีกครั้ง ตนก็ไม่ทราบว่าจะรอดหรือไม่ ต้องรอการตัดสินวันที่ 30 กันยายน ตนไม่มีพาวเวอร์อะไรมีแต่หัวใจ ทุกอย่างที่ทำทำเพื่อหัวใจ หัวใจที่รักชาติ รักแผ่นดิน รักประชาชน ยืนยัน ตนไม่มีอำนาจอะไรที่จะไปช่วยใครได้”