มาดามเดียร์ เปิดใจ ซบประชาธิปัตย์ ขึ้นแท่น ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์

มาดามเดียร์

มาดามเดียร์ เปิดใจ เลือก ประชาธิปัตย์ พรรคเก่าแก่ 76 ปี เป็นสถาบันการเมือง-ไม่มีเจ้าของ ไม่ถูกครอบงำ-ไม่มีอำนาจถูกขาด ขึ้นแท่น ว่าที่ ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ นำทัพ 3 ประสาน องอาจ-ดร.เอ้ นำทัพเลือกตั้ง ส.ส.กทม.

วันที่ 22 กันยายน 2565 ที่พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) น.ส.วทันยา บุนนาค อดีต ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ หรือ “มาดามเดียร์” แถลงข่าวเปิดตัวเข้าร่วมงานทางการเมืองกับพรรคประชาธิปัตย์ โดยผู้บริหารพรรคและแกนนำพรรคประชาธิปัตย์ อาทิ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรค นายนิพนธ์ บุญญามณี รองหัวหน้าพรรค นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรค รับผิดชอบ กทม. นายสุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ อดีตผู้สมัครผู้ว่าฯกรุงเทพมหานคร (กทม.) ให้การต้อนรับ

นายจุรินทร์กล่าวต้อนรับมาดามเดียร์ ว่า ถือเป็นโอกาสสำคัญ ที่พรรคประชาธิปัตย์มีโอกาสต้อนรับนักการเมืองรุ่นใหม่ที่มีศักยภาพที่มีชื่อว่า วทันยา บุนนาค หรือ มาดามเดียร์ มาดามเดียร์เป็นนักการเมืองหญิงที่มีศักยภาพคนหนึ่งของประเทศ จบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ถือเป็นรุ่นน้องของตนด้วย เป็นอดีตเชียร์ลีดเดอร์ฟุตบอลประเพณีธรรมศาสตร์-จุฬา ครั้งที่ 61 เคยเป็นผู้บริหารสื่อดิจิทัล ทั้งสปริงนิวส์ และปัจจุบันคือ เครือเดอะเนชั่น

นอกจากนั้นยังเป็นอดีตผู้จัดการทีมฟุตบอลทีมชาติไทย อายุไม่เกินอายุ 23 ปี เมื่อเข้าสู่แวดวงการเมืองก็ต้องถือว่า มาดามเดียร์เป็นดาวเด่นคนหนึ่งของสภาผู้แทนฯ และเป็นผู้หนึ่งที่มีบทบาทสำคัญในการทำหน้าที่ผู้แทนราษฎรได้เป็นอย่างดี เป็นที่ยอมรับของสภาและคนไทยทั้งประเทศ

“วันนี้จึงถือเป็นเกียรติสำหรับพรรคประชาธิปัตย์จะได้มีโอกาสต้อนรับนักการเมืองที่มีศักยภาพคนหนึ่งของประเทศมาร่วมงาน ร่วมอุดมการณ์กับพรรคประชาธิปัตย์ และที่สำคัญจะมาช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้กับทีมกรุงเทพมหานครเป็นการเฉพาะ โดยจะมาช่วยการเดินหน้าขับเคลื่อนทีมกรุงเทพมหานคร ร่วมกับนายองอาจ และนายสุชัชวีร์ มาช่วยขับเคลื่อนและทำให้พรรคประชาธิปัตย์เดินหน้าไปสู่เสียงสนับสนุนที่มากขึ้นเป็นลำดับในกรุงเทพมหานครต่อไป”

นายจุรินทร์กล่าวว่า มาดามเดียร์แจ้งความจำนงลงสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อของพรรคประชาธิปัตย์ในการเลือกตั้งครั้งต่อไป นำความสำเร็จมาสู่พรรคในการเลือกตั้งครั้งหน้า ส่วนลำดับ ส.ส.บัญชีรายชื่อ เป็นหน้าที่ของกรรมการบริหารพรรค (กก.บห.) ที่จะพิจารณาเช่นเดียวกับทุกคน

ด้าน น.ส.วทันยากล่าวว่า เป็นก้าวย่างที่สำคัญในชีวิตของเดียร์ในการทำงานการเมือง เหตุผลที่ตัดสินใจเลือกพรรคประชาธิปัตย์ เดียร์ศรัทธาในระบบความเป็นสถาบันของพรรคประชาธิปัตย์ ตลอด 76 ปีที่เติบโตเคียงข้างกับคนไทยทุกยุคทุกสมัย ได้พิสูจน์ถึงความเป็นสถาบันทางการเมืองที่เป็นที่พึ่งให้กับคนไทย พรรคประชาธิปัตย์เป็นพรรคที่สมาชิกทุกคนมีอิสระทางความคิด มีสิทธิมีเสียงเท่า ๆ กัน ไม่มีบุคคลใดเป็นเจ้าของ ไม่มีอำนาจนำใดมาผูกขาดครอบงำ

“ท่าทีที่เป็นมติพรรคที่ออกมาล้วนแล้วต้องผ่านการถกอภิปรายของสมาชิกพรรค และมีการโหวตโดยนำเสียงส่วนใหญ่ของสมาชิกพรรคมาใช้ อันนี้เป็นจุดสำคัญ หากเดียร์ต้องการทำงานการเมืองขับเคลื่อนระบอบประชาธิปไตยต่อไป พรรคการเมืองเป็นหนึ่งในสถาบันการเมืองที่สำคัญของการขับเคลื่อนกลไกระบอบประชาธิปไตย ดังนั้น ตัวตนของนักการเมืองก็ควรเป็นจุดเริ่มต้นที่จะสะท้อนสัญลักษณ์ของความเป็นประชาธิปไตยตั้งแต่ภายในพรรค”

น.ส.วทันยากล่าวว่า สิ่งแรกที่พรรคประชาธิปัตย์แตกต่างจากพรรคพลังประชารัฐ คือ พรรคพลังประชารัฐเป็นพรรคก่อตั้งขึ้นใหม่เมื่อปี’62 ขณะที่พรรคประชาธิปัตย์ก่อตั้ง 2489 หรือ 76 ปีแล้ว กว่าจะเดินมาถึงทุกวันนี้ ส่วนความสัมพันธ์กับ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ยังให้ความเคารพนับถือเช่นเดิม ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง

“สิ่งหนึ่งที่เห็นชัดเจน คือ พรรคประชาธิปัตย์ได้พิสูจน์ต่อหน้าประชาชนทุกคนถึงความเป็นสถาบันของพรรคการเมืองที่เป็นตัวแทนและเป็นที่พึ่งพาและเติบโตขึ้นมาพร้อมกับคนทุกยุคทุกสมัย เดียร์หวังเป็นอย่างยิ่งว่า ตัวเดียร์เองในฐานะคนรุ่นใหม่จะเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในการลดทอนช่องว่างระหว่างรุ่นเก่ากับรุ่นใหม่ที่เกิดขึ้นในเวลานี้” น.ส.วทันยากล่าว

น.ส.วทันยากล่าวว่า สิ่งที่เดียร์จะให้คำมั่นสัญญา ในการเข้ามาทำงานการเมืองของเดียร์ครั้งนี้ ตั้งใจทำงานโดยยึดมั่นบนความสุจริตและถูกต้องต่อไป

น.ส.วทันยากล่าวว่า การแสดงเจตจำนงเป็น ผู้สมัคร ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ในการเลือกตั้งครั้งหน้าจะอยู่ลำดับใด ขึ้นอยู่กับคณะผู้บริหารพรรคจะพิจารณาความเหมาะสม ส่วนในอนาคตจะมี ส.ส.กทม. พรรคพลังประชารัฐ (กลุ่มดาวฤกษ์) ตามมาอยู่กับพรรคประชาธิปัตย์หรือไม่นั้น ยังไม่มีการพูดคุยใด ๆ ทั้งสิ้น เพราะต้องเคารพการตัดสินใจของ ส.ส.ทุกคน ซึ่งเชื่อว่ามีวิจารณญาณในการตัดสินใจว่าจะเข้าร่วมกับพรรคการเมืองใด


ผู้สื่อข่าวถามว่า รู้สึกอย่างไรกับการถูกจับตาความเป็นสื่อในครอบครัวกับการมาทำงานการเมือง น.ส.วทันยากล่าวว่า ไม่ได้กังวล เพราะการถือหุ้นของสื่อมวลชน ตัวเดียร์เองและครอบครัวได้เคลียร์ความชัดเจนและปฏิบัติตามกฎหมายในทุกประการ ตั้งแต่วันแรกก่อนที่จะเข้าไปสมัครในพรรคพลังประชารัฐเมื่อ 3 ปีที่แล้ว