สมศักดิ์ รับเสี่ยผับจีนบริจาค พปชร. 3 ล้าน นิพิฏฐ์ ชี้เสี่ยงถูกยุบพรรค

สมศักดิ์ นิพิฏฐ์ พรรคพลังประชารัฐ

สมศักดิ์ เทพสุทิน พลังประชารัฐ ยอมรับเสี่ยผับจีนฉาวย่านยานนาวา มีชื่อบริจาคให้พรรค 3 ล้านจริง ด้าน นิพิฏฐ์ สร้างอนาคตไทย ชี้พลังประชารัฐเสี่ยงถูกยุบพรรค กรณีเงินบริจาคดังกล่าว

วันที่ 28 ตุลาคม 2565 จากกรณีที่มีข่าวว่านายชัยณัฐร์ กรณ์ชายานันท์ เจ้าของสถานบันเทิงย่านยานนาวา ที่มีกรณีเปิดสถานบริการไม่ได้รับอนุญาต และพบมีการมั่วสุมยาเสพติดเป็นจำนวนมาก เมื่อ 26 ตุลาคมที่ผ่านมา ได้บริจาคเงินสนับสนุนให้พรรคพลังประชารัฐจำนวน 3 ล้านบาท เมื่อปี 2564 นั้น

มติชนรายงานว่า นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ในฐานะประธานยุทธศาสตร์พรรค พปชร. กล่าวถึงการตรวจสอบกรณีการมีชื่อนายชัยณัฐร์ กรณ์ชายานันท์ บริจาคเงินให้พรรคพลังประชารัฐ จำนวน 3 ล้านบาท เมื่อปี 2564 ว่าได้มีการตรวจสอบแล้ว เป็นเรื่องจริง การที่บุคคลจะบริจาคเงินให้กับพรรค พรรคก็ไม่สามารถจะรู้รายละเอียดส่วนลึกของแต่ละบุคคลได้ เราตรวจดูว่าเงินมาในรูปแบบที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ได้กำหนดไว้ ซึ่งถูกต้องครบถ้วน ส่วนเป็นบุคคลไหนอย่างไรเราไม่มีเวลาจะไปตรวจสอบได้ เป็นเรื่องของเจ้าหน้าที่บ้านเมืองที่ว่ากันไปตามข้อเท็จจริง

เมื่อถามว่า มีการตั้งข้อสังเกตว่าเป็นสินบนทางการเมือง เนื่องจากหลังจากนั้นนายชัยณัฐร์ได้รับสัญชาติและมีกิจการในประเทศไทย ทั้งที่เป็นคนจีน นายสมศักดิ์กล่าวว่า ถ้าหากว่าไม่ได้เข้าบัญชีอย่างถูกต้องตามระเบียบค่อยคิดว่าจะเป็นอะไร อย่างไร แต่เงินนี้เข้ามาตามตรอกออกตามประตู เราก็ไม่ได้คิดว่าได้เงินมาจากไหนอย่างไร ส่วนที่กำลังจะมีการเลือกตั้งก็เป็นไปตามระเบียบที่ กกต.วางไว้ ว่าเรื่องการบริจาคต้องมีคุณสมบัติอย่างไร อันนี้เขาไม่ได้ผิด

เมื่อถามว่า พปชร.ไม่ได้รู้จักกับนายชัยณัฐร์เป็นการส่วนตัวใช่หรือไม่ นายสมศักดิ์ยืนยันว่าไม่รู้จักเป็นการส่วนตัวแน่นอน ถ้ามีก็ถูกยุบพรรค

เมื่อถามว่า ขณะนี้ข่าวกระจายไปแล้วว่ามีการเชื่อมโยงกับคนในพรรค พปชร. นายสมศักดิ์ตอบว่า ข่าวก็มีได้ทุกวัน เมื่อมีเราก็ตรวจสอบ สอบถาม ซึ่งเราได้สอบถามกับสมาชิกของเราแล้วก็ไม่มีใครสนิทเป็นพิเศษ เขาอาจจะศรัทธาในแนวนโยบายของพรรคก็เลยบริจาค ซึ่งก็มีหลายคนที่บริจาคให้กับพรรค พอตรวจสอบแล้วก็ไม่ได้พบผิดปกติอะไร

นิพิฏฐ์ สร้างอนาคตไทย ชี้ “พลังประชารัฐ” เสี่ยงถูกยุบเรื่องเงินบริจาค 3 ล้าน

ด้านนายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ รองหัวหน้าพรรคสร้างอนาคตไทย โพสต์ถึงกรณีดังกล่าวผ่านเฟซบุ๊กว่า “*แปลงสัญชาติ แล้วบริจาคเงินให้พรรคการเมือง

สมศักดิ์ เทพสุทิน ยอมรับว่านายชัยณัฏร์ เจ้าของผับดังย่านยานนาวาที่มีคนจีน 100 กว่าคน เข้าไปมั่วสุมยาเสพติดบริจาคเงินให้พรรคพลังประชารัฐ 3,000,000 บาทที่เป็นข่าวใหญ่ในขณะนี้ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รับว่า เจ้าของผับบริจาคเงินให้พรรคพลังประชารัฐ 3,000,000 บาท เป็นเรื่องจริง

ผมตกใจ เพราะ

1.นายชัยณัฏร์เป็นคนสัญชาติจีน ทราบตามข่าวต่อมาว่าได้ขอแปลงสัญชาติ จนได้สัญชาติไทย และน่าจะได้สัญชาติไทย ตาม พ.ร.บ.สัญชาติ ม.12

2.ปัญหามีต่อไปว่า ขณะบริจาคนายชัยณัฏร์สละสัญชาติจีนแล้วหรือยัง เพราะตาม พ.ร.บ. หากยังถือ 2 สัญชาติ แล้วมาบริจาคเงินให้พรรคการเมือง สุ่มเสี่ยงต่อการเลี่ยงกฎหมาย พรรคการเมืองที่รับบริจาคจะมีความผิดตาม ม.74 อันอาจนำไปสู่การยุบพรรคได้ ตามม.92

3.ต้องดูว่าผับของนายชัยณัฏร์จัดตั้งเป็นนิติบุคคลชื่ออะไร มีใครถือหุ้น สัดส่วนเป็นเช่นไร มีนอมินีถือหุ้นแทนต่างด้าวหรือไม่ ถ้าเป็นเช่นนั้น ต้องดูลึกไปอีกว่า เงิน 3 ล้านของนายชัยณัฏร์เป็นเงินส่วนตัว หรือเงินที่ถอนมาจากนิติบุคคล ที่มีนอมินีเป็นผู้ถือหุ้น เพราะถ้าเป็นเช่นนั้น นิติบุคคลที่เปิดผับก็ถือนิติบุคคลต่างด้าวนั่นเอง บริจาคเงินก็ผิดตามม.74(2) ยุบพรรคได้

4.พฤติกรรมของนายชัยณัฏร์ เข้าข่ายถูกเพิกถอนสัญชาติตามม.19 แล้ว

เรื่องนี้ เป็นเรื่องที่นายกรัฐมนตรี ผู้ที่ได้รับการเสนอชื่อโดยพรรคพลังประชารัฐต้องตอบ, รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยผู้อนุญาตให้แปลงสัญชาติ ต้องตอบ สุดท้าย กกต.ก็ต้องตอบ แต่ที่เอ่ยนามมาทั้งหมด เราจะเชื่อถือใครได้บ้าง เมื่อเรื่องนี้เกิดขึ้นกับพรรคพลังประชารัฐ”