ประวิตร วงษ์สุวรรณ กับ 2 ปีแห่งการกุมบังเหียน พรรคพลังประชารัฐ และปรากฏการณ์ลาออกครั้งใหญ่ – ส.ส.โดนปาฏิหาริย์ทางกฎหมาย เหลือ ส.ส.สังกัดพรรคไม่ถึง 100 คน
พรรคพลังประชารัฐ ก่อร่างสร้างตัวมาจากนักการเมืองที่มีพื้นเพความเป็นกลุ่ม-ก๊วน และมีรากเหง้ามาจากบ้านใหญ่ ที่มีเป้าหมายเดียวกัน แต่ต่างแรงบันดาลใจ
- ลูกแม่ค้าขายผัก-พ่อขับแท็กซี่ สู่เก้าอี้ “ปลัดพลังงาน” บทพิสูจน์ชีวิต “ดร.ประเสริฐ สินสุขประเสริฐ”
- KBANK ปรับโครงสร้างใหญ่ ลดจำนวนบอร์ด ตั้ง 4 เอ็มดีเป็น “ผู้จัดการใหญ่” มีผล 1 พ.ค.67
- เงื่อนไขปุ๋ยลดราคาเฟส 2 สูตรไหน-พืชชนิดใดบ้าง
นักการเมืองระดับชาติ ระดับท้องถิ่นที่มีชนักปักหลัง ที่อยู่ในกระบวนการถูกดำเนินคดีทุจริตค้างคามาตัั้งแต่ยุคก่อน รวมทั้งคดีการเมือง ไปจนถึงคดีอาญา ทั้งที่มีมูล-ไม่มีมูล ไม่ครบองค์ประกอบความผิด ต้องพลิกวิกฤติย้ายพรรค แลกกับการเป่าคดี
อาทิ คดีทุจริตโครงการรับจำนำข้าว คดีประวัติศาสตร์ที่ทำสถิติมีความเสียหายมากที่สุด ศาลฎีกา พิพากษาอุทธรณ์ในชั้นที่ประชุมใหญ่ศาลฏีกา จำคุกเพิ่มอีก 6 ปี รวมเป็น 48 ปี นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีตรมว.พาณิชย์ สมัยรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ – บิดา นายเดชนัฐวิทย์ ผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ คดีทุจริตโครงการรับจำนำข้าว อย่างไรก็ตามมีรายงานข่าวที่พูดกันในหมู่นักการเมืองว่า นายบุญทรงอาจได้รับการ “ลดโทษ” เหลือ 10 ปี
นอกจากนี้ ศาลฏีกา สนามหลวง พิพากษาตัดสิทธิเลือกตั้ง 10 ปี ตัดสิทธิลงรับสมัครเลือกตั้งตลอดชีวิต น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส.ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐในขณะนั้น ฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง คดีบุกรุกพื้นที่ป่าสงวนจังหวัดราชบุรี
ส่วนที่ศาลรัฐธรรมนูญมีมติเสียงข้างมาก 7 ต่อ 2 วินิจฉัยให้นายสิระ เจนจาคะ ส.ส.กทม.พรรคพลังประชารัฐ มีลักษณะต้องห้ามไม่ให้สิทธิรับสมัครเลือกตั้ง เป็นเหตุให้สมาชิกภาพความเป็น ส.ส.สิ้นสุดลง จากกรณีเคยต้องคำพิพากษาของศาลแขวงปทุมวันถึงที่สุดเมื่อปี 38
ศาลฏีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองมีคำสั่งให้ครอบครัว “บ้านใหญ่รัตนเศรษฐ” ประกอบด้วย นายวิรัช รัตนเศรษฐ ส.ส.บัญชีรายชื่อ-ภรรยา นางทัศนียา รัตนเศรษฐ ส.ส.นครราชสีมา และน้องเมีย-นางทัศนาพร เกษเมธีการุณ ส.ส.นครราชสีมา พรรคพลังประชารัฐ “หยุดปฏิบัติหน้าที่” ในคดีทุจริตก่อสร้างสนามฟุตซอลโรงเรียนในจังหวัดนครราชสีมา
คดีที่ศาลอาญา พิพากษาจำคุกนายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ และนายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ 7 ปี และ 6 ปี 16 เดือนตามลำดับ ในคดีชุมนุมขับไล่รัฐบาลน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นอกจากนี้ยังมีผลนายพุทธิพงษ์และนายณัฏฐพลขาดคุณสมบัติความเป็นรัฐมนตรี และพ้นจากตำแหน่งรมว.ดีอีเอส และรมว.ศึกษาธิการตามลำดับ
นอกจากนี้ยังมีศาลฏีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง พิพากษา จำคุก 1ปี ให้รอการลงโทษ 2 ปี น.ส.ธณิกานต์ พรพงษาโรจน์ ส.ส.กทม.พรรคพลังประชารัฐ คดีเสียบบัตรแทนกัน ขณะนี้อยู่ในชั้นอุทธรณ์ต่อที่ประชุมใหญ่ศาลฏีกา
ศาลฏีกาพิพากษาจำคุก 4 ปี ไม่รอลงอาญา อดีตแกนนำคนเสื้อแดง นปช.- พ.ต.ท.ไวพจน์ อาภรณ์รัตน์ ส.ส.กำแพงเพชร พรรคพลังประชารัฐ คดีชุมนุมล้มการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียน ที่จังหวัดพัทยา เมื่อปี 52
ศาลอุทธรณ์ภาค 4 จังหวัดขอนแก่น พิพากษาเพิกถอนสิทธิรับเลือกตั้ง 10 ปี นายเอกภาพ พลซื่อ ผู้สมัคร-ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ร้อยเอ็ด คดีผิดกฎหมายเลือกตั้ง พร้อมมกับต้องชดใช้เงินจำนวน 34 ล้านบาทให้กับคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ในการจัดการเลือกตั้ง นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดร้อยเอ็ด ใหม่
ประวิตร มา มวลมหามิตร โบกมือลา
ตั้งแต่ “พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ” ยึดพรรคพลังประชารัฐ-กุมบังเหียนหัวหน้าพรรค มวลมหามิตรที่ลงทุน-ลงแรงประกอบร่างขึ้นโครงเป็น “นั่งร้าน” ให้กับ “พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา” ก็ทยอยโบกมือลา-ยกธงขาวกับเกมชิงอำนาจภายในพรรค
กลุ่มแรก คือ กลุ่มสี่กุมาร นำทีมออกโดย “สมคิด จาตุศรีพิทักษ์” ที่ปรึกษาทางใจ ตามมาด้วยแกนนำสี่กุมาร นายอุตตม สาวนายน อดีตหัวหน้าพรรค – นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ อดีตเลขาธิการพรรค – นายสุวิทย์ เมษินทรีย์ อดีตรองหัวหน้าพรรค และ นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล อดีตโฆษกพรรค รวมถึงนายวัชระ กรรณิการ์
หลังจากนั้นลูกทีมก็ค่อย ๆ ทยอยออก เพื่อไปอยู่บ้านหลังใหม่ ชื่อ พรรคสร้างอนาคตไทย ได้แก่ นายวิเชียร เชาวลิต อดีตนายทะเบียนพรรค นายสันติ กีระนันท์ และนายสุพล ฟองงาม ส.ส.บัญชีรายชื่อ-กรรมการบริหารพรรค
การลาออกครั้งใหญ่ที่สุดของพรรคพลังประชารัฐ คือ การขับออก 21 ส.ส.กลุ่ม ร.อ.ธรรมนัส พหรมเผ่า เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐในขณะนั้น ประกอบด้วย
- ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ส.ส.พะเยา
- นายบุญสิงห์ วรินทร์รักษ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ
- นายไผ่ ลิกค์ ส.ส.กำแพงเพชร
- นายจีรเดช ศรีวิราช ส.ส.พะเยา
- นายปัญญา จินาคำ ส.ส.แม่ฮ่องสอน
- นายวัฒนา สิทธิวัง ส.ส.ลำปาง
- นายธนัสถ์ ทวีเกื้อกูลกิจ ส.ส.ตาก
- นายภาคภูมิ บูลย์ประมุข ส.ส.ตาก
- นายพรชัย อินทร์สุข ส.ส.พิจิตร
- นายเอกราช ช่างเหลา ส.ส.บัญชีรายชื่อ
- นายวัฒนา ช่างเหลา ส.ส.ขอนแก่น
- นายสมศักดิ์ คุณเงิน ส.ส.ขอนแก่น
- นายเกษม ศุภรานนท์ ส.ส.นครราชสีมา
- นายสมศักดิ์ พันธ์เกษม ส.ส.นครราชสีมา
- นางทัศนาพร เกษเมธีการุณ ส.ส.นครราชสีมา
- นายสะถิระ เผือกประพันธุ์ ส.ส.ชลบุรี
- นายณัฏฐพงษ์ จรัสรพีพงษ์ ส.ส.สุรินทร์
- นางจอมขวัญ กลับบ้านเกาะ ส.ส.สมุทรสาคร
- นายยุทธนา โพธสุธน ส.ส.บัญชีรายชื่อ
- พล.ต.ต.ยงยุทธ เทพจำนงค์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ
- นายธนะสิทธิ์ โควสุรัตน์ ส.ส.อุบลราชธานี
อีก 1 คน คือ มาดามเดียร์-วทันยา บุนนาค ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ แกนนำกลุ่มดาวฤกษ์ พร้อมกับการ ทิ้งบอมบ์ ก่อนจะย้ายไปพรรคประชาธิปัตย์
หลังจากนี้ยังต้องจับตาดูการขยับตัวของ 5 ส.ส.กทม.กลุ่มดาวฤกษ์ ได้แก่
- นายศิริพงษ์ รัสมี
- นางกรณิศ งามสุคนธ์รัตนา
- น.ส.ภาดาห์ วรากานนท์
- น.ส.ฐิติภัสร์ โชติเดชาชัยนันต์
- น.ส.ธณิกานต์ พรพงษาโรจน์ (อยู่ระหว่างอุทธรณ์)
ท่ามกลางกระแสข่าว ส.ส.ย้ายค่ายอีก บิ๊กล็อต จากเอฟเฟ็กต์งานเบิร์ธเดย์ “เนวิน ชิดชอบ” ครูใหญ่แห่งภูมิใจไทย โดยมี ส.ส.พลังประชารัฐ 7 คนที่ไปร่วมเป่าเทียนเค้กวันเกิด ประกอบด้วย นายมณเฑียร สงฆ์ประชา ส.ส.ชัยนาท
นายสัมฤทธิ์ แทนทรัพย์ ส.ส.ชัยภูมิ นายปฐมพงศ์ สูญจันทร์ ส.ส.นครปฐม นายอนุชา น้อยวงศ์ ส.ส.พิษณุโลก นายกฤษณ์ แก้วอยู่ ส.ส.เพชรบุรี นายสุชาติ อุสาหะ ส.ส.เพชรบุรี นายประทวน สุทธิอํานวยเดช ส.ส.ลพบุรี
โดยเฉพาะพื้นที่เสี่ยง-ส.ส.กลุ่ม กทม. ที่ต้องลุ้นกระแสพล.อ.ประยุทธ์จนวินาทีสุดท้าย-7 กุมภาพันธ์ 2566 อาทิ น.ส.พัชรินทร์ ซำศิริพงษ์ น.ส.กานต์กนิษฐ์ แห้วสันตติ นายจักรพันธ์ พรนิมิตร นายกษิดิ์ ชุติมันต์ นายชาญวิทย์ วิภูศิริ นายประสิทธิ์ มะหะหมัด
ไม่นับรวมคนที่ไม่มีพื้นที่ภายในพรรคจนต้องถอดใจย้ายสำมะโนครัวไปสร้างบ้านหลังใหม่ เช่น นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค ที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ไปตั้งพรรครวมไทยสร้างชาติ “แรมโบ้” นายเสกสกล อัตถาวงศ์ ไปตั้งพรรคเทิดไท นายปรพล อดิเรกสาร ไปอยู่พรรคสร้างอนาคตไทย “บิ๊กน้อย” พล.อ.วิชช์ เทพหัสดิน ณ อยุธยา ตั้งพรรครวมแผ่นดิน พ.อ.สุชาติ จันทรโชติกุล ที่ย้ายไปอยู่พรรคกล้า ปัจจุบันอยู่พรรคสร้างอนาคตไทย
นอกจาก ส.ส.ที่มีคดีเป็นชนักปักหลังทยอยถูกสอยเป็นใบไม้ร่วง และการลาออกครั้งใหญ่ นับตั้งแต่พล.อ.ประวิตรมาเป็นหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ โควตารัฐมนตรีที่เคยถูกพล.อ.ประยุทธ์ริบไปยังไม่สามารถทวงกลับมาได้
โดยเฉพาะเก้าอี้ รมช.เกษตรและสหกรณ์ และ รมช.แรงงาน จากการปลดฟ้าผ่า ร.อ.ธรรมนัส และนางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ ถูกพล.อ.ประยุทธ์ ยึดไปแล้วยังไม่ยอมคืน
4 ปีของพลังประชารัฐ 2 ปีที่มี พล.อ.ประวิตร เป็นหัวหน้าพรรค จาก ส.ส.121 ที่นั่ง ปัจจุบันเหลือไม่ถึง 100 เสียง สถานการณ์เลือกตั้งครั้งใหม่ ยังห่างไกลกับคำว่าสถาบันทางการเมือง