ประยุทธ์ : ปราศรัยรื้อประเทศไทย โหนทหารเสือราชินี ทำต่อ ทำใหม่ ทำเพิ่ม

Photo by Lillian SUWANRUMPHA / AFP

เมื่อวันที่ 9 มกราคม 2566 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม เดิมพันชีวิตครั้งใหม่กับพรรครวมไทยสร้างชาติ

ลงสมัครเป็นสมาชิกพรรคการเมืองครั้งแรกในชีวิต และยังสมัครประเภท “สมาชิกตลอดชีพ”

ประยุทธ์ ขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรีเมื่อปี 2562 ด้วยการปราศรัยใหญ่บนเวทีพรรคพลังประชารัฐ แค่ 7 นาทีกว่า ๆ

ต่อไปนี้คือคำเปิดใจปราศรัยให้กับสังกัดใหม่ 30 นาที บันทึกเป็นประวัติศาสตร์อีกหน้าหนึ่งของการเมืองไทย

สมาชิกพรรคครั้งแรก

พล.อ.ประยุทธ์เริ่มต้นกล่าวว่า เป็นครั้งแรกในชีวิตในการสมัครเป็นสมาชิกพรรคการเมือง และพรรคที่สมัครสมาชิกในวันนี้คือ พรรครวมไทยสร้างชาติ อยากเรียนว่ายังไงตนก็ลบภาพลักษณ์ของเราไม่ได้เพราะเป็นทหารมาทั้งชีวิต แต่ก็ปรับตัวมาตลอดทุกปี ที่นายกฯมีวันนี้ได้เพราะพวกเรา เพราะเราคือประเทศไทย

“ผมไม่เคยตื่นเต้นกับอะไรมาก่อนเลย สารภาพจริง ๆ พูดคุยกับผู้บริหารพรรคทั้งหมด ผมบอกว่าผมตื่นเต้น ปกติผมไม่เคยกลัวอะไรอยู่แล้ว เป็นทหารมาทั้งชีวิต กลัวได้อย่างไร ใช่ไหม แต่วันนี้ผมกลัวความรักที่ผมได้จากท่านและความรักที่ผมให้กับท่าน จะเพียงพอกันไหม เพราะผมรักทุกคนจริง ๆ เพราะเราคือเจ้าของแผ่นดินผืนนี้ใช่ไหม”

ทหารเสือ ต้องสุจริต ไม่โกหก

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า สิ่งสำคัญที่สุดคือยึดมั่นในชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ นี่คือหัวใจของคนไทยทั้งชาติ ดังนั้น สถาบันเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดเพื่อประโยชน์ประเทศชาติและประชาชน ตนเป็นทหารมาทั้งชีวิต ผ่านการถวายสัตย์ปฏิญาณไม่รู้กี่ครั้ง

“ผมได้รับการสั่งสอนมาจะต้องซื่อสัตย์ สุจริต และผมเคยเป็นทหารอยู่กรมทหารราบที่ 21 รักษาพระองค์ จะมีเครื่องหมายที่ติดหน้าอกเสมออยู่อันหนึ่ง คือหลักสูตรทหารเสือ ถ้าไปดูจะมีเสือ 2 ตัวและมีหัวใจอยู่ตรงกลาง ทำไมหัวใจอันนั้นเป็นสีม่วง ทำไมไม่เป็นสีแดง เพราะผู้บังคับบัญชาจะต้องมีหัวใจแห่งความซื่อสัตย์ ความหมายของหัวใจสีม่วงคือหัวใจของคนใกล้ตาย ต้องไม่โกหก ต้องสุจริต ดังนั้น คนใกล้ตายก็ไม่โกหก”

ไม่อยากเป็นใหญ่-มีอำนาจ

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า หลายคนอาจสงสัยว่ามาทำไม อยากเป็นอะไรต่อหรือเปล่า ไม่ใช่อยากเป็นใหญ่ ไม่อยากมีอำนาจ อำนาจผมมีมาเยอะแล้ว มีมาทั้งชีวิตราชการของตน ดังนั้น อำนาจมาพร้อมความรับผิดชอบ การมีอำนาจต้องใช้อำนาจให้ถูกต้อง เป็นธรรม เป็นตามกระบวนการ แล้วทุกอย่างจะเดินหน้าได้ด้วยดี

“ดังนั้นวันนี้ ไม่ใช่เพราะอยากเป็น ไม่อยากเป็นผู้ยิ่งใหญ่ ไม่อยากได้ผลประโยชน์ใด ๆ ผมยืนยันไม่เคยรับผลประโยชน์ใด ๆ ทั้งสิ้น และผมจะไม่พูดกับคนเหล่านี้ เพราะนึกถึงพวกเราวันนี้ที่มายืนตรงนี้เพราะผมเคารพกระบวนการประชาธิปไตยของประเทศไทย ไม่ใช่เพราะว่าผมอยากอยู่ต่อ แต่มาพูดกับทุกคนว่าประเทศไทยต้องไปต่อ ต้องบนพื้นฐานมีเสถียรภาพ ความมั่นคง เพื่อไปสู่ความเจริญรุ่งเรืองให้ได้ในอนาคตอันใกล้ ให้เร็วที่สุด”

“ปัญหาของประเทศนั้นผมอยู่มาหลายปี ผมทราบ และผมพยายามแก้อย่างต่อเนื่อง มันมากจริง ๆ ดังนั้น ถ้าผมมีโอกาสจะแก้ปัญหาเหล่านั้นต่อไปให้มากขึ้นเรื่อย ๆ เมื่อผมเข้าใจอย่างนี้จึงมาการเมือง ผมจะหาใคร เพื่อจะเดินหน้าไปสู่การเมืองที่เป็นประชาธิปไตยจริง ๆ อย่างที่เขาว่ากัน ทั้งที่ดินทำกิน ที่อยู่อาศัย ค่าครองชีพ ความเหลื่อมล้ำ ความไม่เป็นธรรม ยาเสพติด ทุจริต คอร์รัปชั่น การปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบของเจ้าหน้าที่บ้านเมือง”

“และปัญหาที่เป็นปัญหาการดำรงชีวิตของประชาชน ตลอดจนการพัฒนาประเทศ ความสัมพันธ์กับต่างประเทศ ทั้งหมดนี่คือโลกในปัจจุบัน โลกใบนี้ไม่ใช่โลกเหมือนเดิม เปลี่ยนแปลงหลาย ๆ อย่าง ทั้งประเด็นความมั่นคง ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ในเรื่องปัญหาของภูมิภาค ทั้งหมดคือโลกของเราในวันนี้ ถ้าเราจะเข้าไปอยู่ในห่วงโซ่ของประเทศอื่น ๆ เราต้องทำให้เราเข้มแข็งก่อน ร่วมมือกันพัฒนาประเทศ ขจัดอุปสรรคที่มีอยู่มากมาย เราแก้ได้แน่ ถ้ารวมใจ รวมคนไทย รวมไทยสร้างชาติ”

ประเทศไทยต้องไปต่อ

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า หลายคนหาว่าตนไม่เคารพกระบวนการ วันนี้ตนก็จำเป็น แต่เหตุผลคือ ประเทศไทยต้องไปต่อ ไปต่อสู่อนาคตที่มั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน จึงตัดสินใจว่าจะมาพรรคการเมืองหรือเปล่า คิดแล้วคิดอีก คิดมาหลายเดือนแล้ว คิดแล้วคิดอีก วันนี้ตัดสินใจแน่นอน

“ตั้งแต่ปี 2562 เราเข้าสู่การเลือกตั้งตามรัฐธรรมนูญ 2560 แต่เรามีงานของเราที่ไม่จบ โอเค ใครจะทำก็ได้ แต่ขึ้นอยู่กับพวกเรา (ประชาชน) เป็นผู้ตัดสิน ผมเองก็จำเป็นก้าวเข้ามาสู่ตรงนี้ หลายอย่างเราต้องทำต่อ ทำใหม่ ทำเพิ่ม”

สิ่งสำคัญที่เราต้องทำในวันนี้ ทำอย่างไรให้โครงการต่าง ๆ ที่ค้างคาเดินหน้าต่อให้ได้ หลาย ๆ อย่างค้างอยู่แล้ว ทั้งเรื่องโครงสร้างพื้นฐานทางกายภาพ ทางดิจิทัล ต้องสานต่อ วันนี้โลกเปลี่ยนไปเยอะ เราต้องอยู่ให้ได้ รอดไปพร้อมกัน แล้วฟันฝ่าอุปสรรคไปด้วยกัน ดังนั้น เราทุกคนต้องยืนตรงนี้ ยืนในนามรวมไทยสร้างชาติ

“ผมตัดสินใจจะมาอยู่ที่นี่ แม้จะเหนื่อยจะเครียด ผมก็พยายามอดทน เพื่อทำสิ่งที่ดีกว่า แต่ทุกอย่างขึ้นกับประชาชน ประชาชนเป็นผู้ตัดสินใจ แต่สิ่งที่เราทำได้ดีขณะนี้คือ ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ความสัมพันธ์ในภูมิภาค การประชุมอาเซียน การประชุมเอเปค เราออกข้อตกลงต่าง ๆ มากมาย นั่นคือการยอมรับของเขา ต่างประเทศยอมรับประเทศไทย อยู่ที่เรากันเองจะรักษาไว้ได้ไหม”

34 ปีที่ตัดความสัมพันธ์กับซาอุดีอาระเบีย แต่วันนี้ดีกว่าเดิม ทุกอย่างดีกว่าเดิม ตนยืนยัน เราต้องเริ่มกันเดินหน้า ร่วมใจเป็นหนึ่งเดียวคือรวมไทยสร้างชาติ ถ้าผมจะทำให้ได้ ให้ประเทศชาติเดินไปข้างหน้าต่อ

“ผมไม่เคยลืมความเดือดร้อนของท่าน วันนี้รัฐบาลจำเป็นต้องแก้ปัญหาในลักษณะวิธีที่ว่าอยู่ให้รอด ปลอดภัย พอมีพอกิน แล้วไปสู่ความมั่งคั่งอย่างยั่งยืน นั่นคือการเดินตามยุทธศาสตร์ของเรา ซึ่งมันอาจดูช้าไปหน่อย แต่มันเกิดขึ้นไปเยอะแล้ว”

“2 อย่างที่ใครเป็นนายกฯ ต้องคำนึงถึงคือความเท่าเทียมในเรื่องของโอกาส ไม่ว่ายากดี มีจน ทุกคนมีสิทธิเข้าถึงการบริการภาครัฐ ความเท่าเทียมด้านกฎหมาย อีกทั้งผู้ที่มีรายได้น้อยย่อมได้รับการดูแลเป็นพิเศษ กลุ่มเปราะบาง กลุ่มพิการก็ต้องดูแล ผมพยายามทำอย่างเต็มที่”

3 นโยบายรวมไทยสร้างชาติ

พล.อ.ประยุทธ์ยังกล่าวว่า นโยบายหลักของพรรครวมไทยสร้างชาติ คือ 1.รื้อ ไม่ใช่รื้อทุกอย่าง ต้องดูว่าระเบียบกฎหมายอะไรที่ต้องแก้ไขบ้างที่เขาเรียกว่ากฎหมายกิโยติน บางอย่างไม่ดีก็ต้องเลิก เพื่อให้ทันสมัย เป็นสากล นั่นคือการรื้อ

2.ลดภาระต่าง ๆ ของประชาชนในการดำรงชีวิต 3.ปลดเปลื้องภาระค่าครองชีพและหนี้สินด้วยรูปแบบใหม่ ๆ สร้างสังคมใหม่ของชาติเป็นการเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ด้วยวิธีการที่เหมาะสมและเป็นธรรมที่ไม่ทำให้เกิดปัญหาในอนาคตด้วย

“วันนี้ทำเพื่ออนาคต ไปสู่อนาคตที่มั่นคง ปลอดภัย และยั่งยืน โดยไม่ทิ้งภาระให้กับใครไว้ข้างหน้า นั่นคือหลักการของผม ประเทศไทยต้องไปต่อ ส่งมอบจากรุ่นสู่รุ่น พ่อสู่ลูก หลาน เหลน โหลนในวันข้างหน้า ทุกคนต้องช่วยกันสร้างชาติของเรา”

“และต้องมีพรรคการเมืองที่เป็นที่พึ่งของประชาชนอย่างแท้จริง เป็นพรรคการเมืองที่สู้ทุกปัญหาให้ประชาชน เป็นพรรคการเมืองที่พึ่งพาได้ทุกโอกาส เป็นพรรคการเมืองที่ทำงานเพื่อประเทศชาติและประชาชนอย่างแท้จริง และจะต้องเป็นพรรคการเมืองที่เติบโตเป็นสถาบันการเมืองและเป็นสถาบันหลักของประเทศต่อไป ทั้ง 4 ข้อ เป็นสิ่งที่ผมตัดสินใจมาอยู่กับพรรครวมไทยสร้างชาติ”

“ขอสัญญาว่ายืนยัน จะทำหน้าที่ของผมให้ดีที่สุดไม่ใช่เพื่อตัวผมเอง ประเทศไทยต้องไปต่อ” พล.อ.ประยุทธ์ทิ้งท้าย