ครม.ยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล-VAT เทรดโทเค็นดิจิทัลย้อนหลัง 2 ปี

ครม.ยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล-VAT เทรดโทเคนดิจิทัลย้อนหลัง 2 ปี สูญรายได้ 35,279 ล้าน
ภาพจาก PIXABAY

ครม.อนุมัติร่าง พ.ร.ฎ. ยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลและ VAT จากการขายโทเค็นดิจิทัลเพื่อการลงทุน ย้อนหลังตั้งแต่วันที่ 14 พฤษภาคม 2561 เป็นต้นไป คาดปี’66-67 สูญรายได้ 35,279 ล้านบาท

วันที่ 7 มีนาคม 2566 ที่ทำเนียบรัฐบาล น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกา (พ.ร.ฎ.) ออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. …. ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ร่างพระราชกฤษฎีกาฉบับนี้เป็นการยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลและภาษีมูลค่าเพิ่มให้แก่บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลสำหรับเงินได้และมูลค่าของฐานภาษี (รายได้จากการขายลบต้นทุน)

น.ส.รัชดา ธนาดิเรก
น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี

อันเนื่องมาจากการขายโทเค็นดิจิทัลเพื่อการลงทุนที่เสนอขายต่อประชาชนตามกฎหมายว่าด้วยการประกอบสินทรัพย์ดิจิทัล และยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่มสำหรับการโอนขายโทเค็นดิจิทัลเพื่อการลงทุนที่ได้กระทำตั้งแต่วันที่ 14 พฤษภาคม 2561 เป็นต้นไป (ย้อนหลังไปถึงวันที่พระราชกำหนดการประกอบสินทรัพย์ดิจิทัล พ.ศ. 2561 มีผลใช้บังคับ)

เพื่อให้มาตรการภาษีของโทเค็นดิจิทัลเพื่อการลงทุนเท่าเทียมกับมาตรการภาษีของหลักทรัพย์ และส่งเสริมการลงทุนเพื่อสร้างแรงขับเคลื่อนทางเศรษฐกิจโดยการใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วยในการระดมทุน

ทั้งนี้ โทเค็นดิจิทัลเพื่อการลงทุน (Investment Token) คือ โทเค็นดิจิทัลที่กำหนดสิทธิของบุคคลในการเข้าร่วมลงทุนในโครงการหรือกิจการใด ๆ โดยผู้ถือโทเค็นเพื่อการลงทุน จะได้ผลตอบแทนในรูปแบบของส่วนแบ่งของกำไรและส่วนแบ่งรายได้

น.ส.รัชดากล่าวว่า ร่างพระราชกฤษฎีกามีสาระสำคัญ ดังนี้ 1.ผู้ได้รับสิทธิประโยชน์ คือ บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่ออกและเสนอขายโทเค็นดิจิทัลเพื่อการลงทุนต่อประชาชน (ในตลาดแรก) และบุคคลธรรมดา และบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่ซื้อขายโทเค็นดิจิทัลเพื่อการลงทุน (ในตลาดรอง)

2.สิทธิประโยชน์ทางภาษี ยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลและภาษีมูลค่าเพิ่มให้แก่บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล สำหรับเงินได้และมูลค่าของฐานภาษีอันเนื่องมาจากการโอนโทเค็นดิจิทัลเพื่อการลงทุนที่ออกเสนอขายต่อประชาชนตามกฎหมายว่าด้วยการประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล (ตลาดแรก)

ทั้งนี้ กรณีโทเค็นดิจิทัลที่ออกเสนอขายต่อประชาชนมีลักษณะของโทเค็นดิจิทัลเพื่อการลงทุนและโทเค็นดิจิทัลที่มีวัตถุประสงค์อื่น ให้บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลได้รับยกเว้นภาษีข้างต้นเฉพาะกรณีที่สามารถแยกส่วนของโทเค็นดิจิทัลเพื่อการลงทุน และโทเค็นดิจิทัลที่มีวัตถุประสงค์อื่นออกจากกันได้เท่านั้น และยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่มสำหรับการโอนโทเค็นดิจิทัลเพื่อการลงทุน (ตลาดรอง)

3.ระยะเวลาบังคับใช้ เริ่มตั้งแต่วันที่ 14 พฤษภาคม 2561 เป็นต้นไป (ย้อนหลังไปถึงวันที่พระราชกำหนดการประกอบสินทรัพย์ดิจิทัล พ.ศ. 2561 มีผลใช้บังคับ)

น.ส.รัชดากล่าวว่า ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับจากฎหมายฉบับนี้ เป็นการเพิ่มทางเลือกในการระดมทุนของผู้ประกอบธุรกิจในประเทศไทยด้วยโทเค็นดิจิทัลเพื่อการลงทุน เพิ่มเติมจากการระดมทุนด้วยเครื่องมือแบบดั้งเดิม เช่น กองทุนรวม อสังหาริมทรัพย์ พันธบัตร และหุ้นกู้ อันจะส่งผลดีต่อการระดมทุน การลงทุน และการจ้างงานในประเทศ

รวมทั้งการขยายตัวของเศรษฐกิจของประเทศ อีกทั้งยังส่งผลให้รัฐสามารถจัดเก็บภาษีที่เกี่ยวกับโทเค็นดิจิทัลเพื่อการลงทุนได้มากขึ้นในระยะยาว โดยมาจากการเติบโตของผู้ประกอบธุรกิจและธุรกิจเกี่ยวเนื่องที่ใช้โทเค็นเพื่อการลงทุนเป็นเครื่องมือในการระดมทุนในประเทศไทย

ทั้งนี้ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (สำนักงาน ก.ล.ต.) คาดการณ์ว่าในช่วงปี 2566 ถึงปี 2567 จะมีการออกและเสนอขายโทเค็นดิจิทัลเพื่อการลงทุนมูลค่ารวมประมาณ 128,000 ล้านบาท ซึ่งคิดเป็นภาษีเงินได้นิติบุคคลประมาณ 25,600 ล้านบาท

และภาษีมูลค่าเพิ่มประมาณ 8,960  ล้านบาท ดังนั้น ประมาณการการสูญเสียรายได้ของภาครัฐ ในช่วง 2 ปี ที่ สำนักงาน ก.ล.ต. คาดการณ์รวมภาษีเงินได้นิติบุคคลและภาษีมูลค่าเพิ่มอยู่ที่ประมาณ 35,279 ล้านบาท