การเมือง

เพื่อไทย วางคิว อุ๊งอิ๊ง-เศรษฐา หาเสียงคู่ ขายนโยบายเศรษฐกิจชุดใหม่

อุ๊งอิ๊ง – เศรษฐา

เพื่อไทย จัดคิว แพทองธาร-เศรษฐา ลงพื้นที่หาเสียงคู่กัน ขายนโยบายเศรษฐกิจชุดใหม่ ไม่รอ “ประยุทธ์” ยุบสภา

วันที่ 9 มีนาคม 2566 ที่พรรคเพื่อไทย นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ผู้อำนวยการครอบครัวเพื่อไทย กล่าวว่า พรรคเพื่อไทยเตรียมลงพื้นที่และจัดเวทีปราศรัยที่ จ.พิจิตร และพิษณุโลก ระหว่างวันที่ 11-12 มีนาคมนี้ นอกจากการนำเสนอนโยบายเพื่อแก้ปัญหาให้พี่น้องประชาชนแล้ว

ไฮไลต์สำคัญในครั้งนี้จะเป็นครั้งแรกที่ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ประธานคณะที่ปรึกษาด้านการมีส่วนร่วมและนวัตกรรม และหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย และนายเศรษฐา ทวีสิน ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย จะขึ้นเวทีปราศรัยครั้งแรกในวันที่ 11 มีนาคม

นอกจากนี้ยังมีแกนนำพรรคเข้าร่วม นำโดย นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน และหัวหน้าพรรค นายชูศักดิ์ ศิรินิล รองหัวหน้าพรรค ซึ่งจะขึ้นปราศรัยร่วมด้วยในฐานะคนจังหวัดพิจิตร นายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม และหัวหน้าพรรค นายจาตุรนต์ ฉายแสง กรรมการยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย นายสุธรรม แสงประทุม คณะทำงานขับเคลื่อนนโยบายพรรค และตนร่วมปราศรัยบนเวที

นายณัฐวุฒิกล่าวต่อว่า ส่วนวันที่ 12 มีนาคม เดินทางไป จ.พิษณุโลก เพื่อกราบสักการะพระพุทธชินราช ก่อนเดินทางไปเปิดเวทีปราศรัยที่อาคารวังเป็ดร่วมใจ วัดวังเป็ด อ.บางระกำ และเปิดเวทีปราศรัยใหญ่ที่สวนกลางเมือง อ.เมือง จ.พิษณุโลก ตั้งแต่ 17.00 น. เป็นต้นไป

อุ๊งอิ๊ง – เศรษฐา

และในสัปดาห์ถัดไป พรรคเพื่อไทยมีโปรแกรมลงพื้นที่กรุงเทพมหานครอย่างต่อเนื่อง โดยจะมีนายเศรษฐา เข้าร่วม ส่วนบางพื้นที่จะมี น.ส.แพทองธารร่วมกับนายเศรษฐา รวมถึงยังคงขึ้นเวทีปราศรัยในช่วงสุดสัปดาห์อย่างต่อเนื่องจนกว่าจะถึงกำหนดคลอด

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในวันศุกร์ที่ 17 มีนาคม พรรคเพื่อไทยเตรียมเปิดนโยบายเศรษฐกิจชุดใหม่ ให้นายเศรษฐา และ น.ส.แพทองธาร ลงหาเสียงคู่กันเรียกคะแนนในพื้นที่ กทม. และต่างจังหวัด ซึ่งต่อเนื่องจากนโยบายที่ประกาศไปแล้ว เช่น

การปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 600 บาทต่อวัน เงินเดือนปริญญาตรี 25,000 บาทต่อเดือน ภายใน 4 ปี นโยบาย 1 ครอบครัว 1 ซอฟต์พาวเวอร์ สร้างรายได้ 200,000 บาทต่อครอบครัวต่อปี สร้างแรงงานทักษะสูง 20 ล้านตำแหน่ง มีรายได้จากการท่องเที่ยว 3 ล้านล้านบาท

แหล่งข่าวในพรรคเพื่อไทยระบุว่า พรรคจะเปิดนโยบายชุดใหม่ในวันที่ 17 มีนาคมนี้ทันที ไม่จำเป็นต้องรอให้ พล.อ.ประยุทธ์ ยุบสภาก่อน เพราะถึงอย่างไรการยุบสภาก็ไม่เกินวันที่ 22 มีนาคม