สนธิรัตน์ ย้ำจุดแข็ง พปชร. มี พล.อ.ประวิตร เป็นนายกฯ ไม่ขัดแย้ง

สนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ มติชนเลือกตั้ง 66

พลังประชารัฐ ชู 3 จุดแข็ง สนธิรัตน์ ย้ำมี พล.อ.ประวิตร เป็นนายกฯ ไม่ขัดแย้ง

วันที่ 13 มีนาคม 2566 ที่โรงแรมพูลแมน รางน้ำ บริษัท มติชน จำกัด (มหาชน) และบริษัทในเครือ เปิดเวทีแรกมติชน : เลือกตั้ง 66 บทใหม่ประเทศไทย ประชันนโยบาย ภายใต้หัวข้อ “ย้ำจุดยืน ชูจุดแข็ง ประกาศจุดขาย” โดยคีย์แมนจาก 8 พรรคการเมืองเข้าร่วม ได้แก่ คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ หัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ นายวราวุธ ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา นพ.พรหมมินทร์ เลิศสุริย์เดช ประธานคณะกรรมการด้านนโยบายและเศรษฐกิจ พรรคเพื่อไทย นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ ประธานยุทธศาสตร์การเมือง พรรคพลังประชารัฐ และนายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานพรรคชาติพัฒนากล้า

นายสนธิรัตน์ พูดในรอบสุดท้ายถึงจุดแข็งของพรรคพลังประชารัฐ ว่า ถ้าเลือกพรรคพลังประชารัฐจะมีพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐเป็นนายกรัฐมนตรี เลือกพรรคพลังประชารัฐจะมี 3 สิ่งที่เกิดขึ้นในประเทศไทยจากนี้ไป สิ่งที่ 1 ถ้าเลือกพรรคพลังประชารัฐ มีเราจะไม่มีความขัดแย้ง นี่คือจุดยืนที่สำคัญของพรรคพลังประชารัฐ

เรายอมรับว่า 17 ปีของการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง สาเหตุหนึ่งที่ทำให้ประเทศเราถอยหลังและถดถอยมักจะเกิดความขัดแย้งไม่ว่าจะฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งจะชนะก็ตาม พรรคพลังประชารัฐมุ่งมั่นให้เป็นพรรคสร้างสมดุลทางการเมือง เป็นพรรคที่ประสงค์ไม่ให้เข้าสู่ความขัดแย้ง เพราะไม่เกิดประโยชน์ทั้งพรรคการเมืองและประชาชน นโยบายที่พูดมาทั้งหมดจะไม่มีความขัดแย้ง ประเทศจะไม่กลับไปที่เดิม

“ทำไมพรรคพลังประชารัฐมั่นใจ พล.อ.ประวิตรเปิดใจในจดหมายน้อย ว่าการทำการเมืองครั้งนี้ มีความประสงค์นำพาคนไทยและการเมืองไทยให้ก้าวข้ามความขัดแย้งทางการเมือง พล.อ.ประวิตร เป็นหัวหน้าพรรคการเมืองที่หลายฝ่ายยอมรับว่า มีบารมี มีประสบการณ์ สามารถโอบกอดรวบรวมทุกขั้วทางการเมืองเพื่อผ่านความขัดแย้งและส่งผ่านการเมืองไทยไปสู่ข้างหน้าได้ ดังนั้นหากมีเราจะไม่มีความขัดแย้ง”นายสนธิรัตน์กล่าว

นายสนธิรัตน์กล่าวว่า มีที่สอง มีเรา ค่าครองชีพลดทันที ปฏิรูปพลังงาน ด้วยการปฏิรูปราคาน้ำมัน ปรับโครงสร้างราคาแก๊ส ประชาชน 14 ล้านคนจะมีรายได้ 700 บาท ทันทีที่พรรคพลังประชารัฐเป็นรัฐบาล สร้างอาชีพ ให้โอกาส ฝึกทักษะ คนไทยทุกช่วงวัยได้รับการดูแล เบี้ยผู้สูงอายุ 3,000-5,000 บาท

มีที่สาม มีเราเศรษฐกิจฐานรากต้องฟื้น ปัญหาปากท้อง นำพาทุกคนสร้างงานที่ฐานราก มีเรามีที่ดินทำกิน มีเราไม่มีแล้ว โครงการโรงไฟฟ้าชุมชนต้องกระจายสู่ชุมชนฐานราก กองทุนประชารัฐ เติมเงินเติมทุน ตั้งตัวได้ ยกระดับเศรษฐกิจเครื่องยนต์เดิม เป็นเศรษฐกิจสร้างสรรค์ เติมโครงสร้างอีอีซี และเติมจุดแข็งด้านการเกษตร ธุรกิจอาหาร ธุรกิจอีวี