พรรคสุวัจน์ จุดยืนเรื่องปฏิรูปกองทัพ ต้องลงทุน-ซื้ออาวุธ รอบคอบ

สุวัจน์ ลิปตพัลลภ
สุวัจน์ ลิปตพัลลภ

พรรคชาติพัฒนากล้า ตอบคำถามเรื่องจุดยืน-ข้อเสนอในการปฏิรูปกองทัพ เพิ่มบทบาทมากกว่าความมั่นคง ลงทุน-ซื้ออาวุธต้องรอบคอบ

วันที่ 13 มีนาคม 2566 ที่โรงแรมพูลแมน รางน้ำ บริษัท มติชน จำกัด (มหาชน) และบริษัทในเครือ เปิดเวทีแรกมติชน : เลือกตั้ง 66 บทใหม่ประเทศไทย #ประชันนโยบาย ภายใต้หัวข้อ “ย้ำจุดยืน ชูจุดแข็ง ประกาศจุดขาย” โดยคีย์แมนจาก 8 พรรคการเมืองเข้าร่วม

ได้แก่ คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ หัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ นายวราวุธ ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา นพ.พรหมมินทร์ เลิศสุริย์เดช ประธานคณะกรรมการด้านนโยบายและเศรษฐกิจ พรรคเพื่อไทย นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ ประธานยุทธศาสตร์การเมือง พรรคพลังประชารัฐ และนายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานพรรคชาติพัฒนากล้า

นายสุวัจน์ตอบคำถามเรื่องการปฏิรูปกองทัพ ว่ากองทัพมีภารกิจเกี่ยวกับความมั่นคงและเป็นส่วนราชการทั่วไป โดยรัฐธรรมนูญว่าด้วยการปฏิรูปมาตรา 258 เขียนไว้ชัดเจนว่า รัฐบาลมีหน้าที่ปรับปรุง ปฏิรูปการบริหารราชการแผ่นดินให้เกิดความทันสมัยและทันต่อความเปลี่ยนแปลง ซึ่งเป็นเรื่องปกติที่จะพูด กองทัพอาจจะมีข้อบกพร่อง และปฏิรูปให้ดี

“กองทัพมีหลายประเด็นที่ควรพูดถึง เช่น การเกณฑ์ทหาร ควรจะเกณฑ์ทหารหรือไม่อาจจะเป็นประเด็นที่เบาทันทีและทุกคนอยากเป็นทหารด้วยซ้ำไป เพราะเป็นอาชีพที่มีเกียรติ ปกป้องประเทศชาติ ถ้าเราทำให้กระบวนการการเกณฑ์ทหารมีรายได้ที่ดี เป็นอาชีพอย่างหนึ่ง ตำแหน่งหน้าที่ไปถึงสุงสุดได้ ถ้าเราสร้าง Intensive สร้างรายได้ที่เพียงพออาจจะต้องไม่ต้องเกณฑ์” นายสุวัจน์กล่าว

นายสุวัจน์กล่าวว่า เรื่องการลงทุนของกองทัพ ด้วยสถานการณ์เศรษฐกิจของประเทศ ใช้จ่ายงบประมาณไปแก้ไขวิกฤตโควิดไปเยอะ ปัญหาเรื่องหนี้สินประเทศ หนี้สินครัวเรือนสูง รัฐสวัสดิการ ประชานิยม งบประมาณจึงต้องใช้อย่างประสิทธิภาพจริง ๆ ในเรื่องกองทัพลงทุนอาวุธยุทโธปกรณ์ใช้เงินเยอะ ต้องคิดให้รอบคอบ อาวุธส่วนไหนที่ควรลงทุน มีความจำเป็นหรือไม่ และต้องคำนึงถึงงบประมาณเพียงพอหรือไม่ และสามารถชี้แจงให้สังคมรับทราบว่างบประมาณส่วนนี้จำเป็น ไม่มีไม่ได้ ไม่มีเรื่องอะไรที่ไม่โปร่งใส ให้สังคมสบายใจก็จะได้รับการสนับสนุน”

นายสุวัจน์กล่าวว่า ขณะเดียวกันกองทัพมี asset อยู่มาก เป็น asset ที่เกิดจากภาษี งบประมาณต่าง ๆ เวลาเกิดอุทกภัย ภัยสาธารณะแล้วทหารออกมาช่วย เครื่องจักร เครื่องมือของทหารที่ออกมาช่วย คือ การใช้ asset ของประเทศอย่างคุ้มค่า เวลาไม่รบก็ใช้ ใช้ในการช่วยเหลือสังคม สะท้อนให้เห็นว่า กองทัพมี asset อยู่เยอะ ถ้ามีนโยบายใช้ asset ของกองทัพให้ประชาชนเข้าใจ หรือเรื่องโรงแรม รีสอร์ต สนามกอล์ฟของกองทัพถ้านำมาทำให้มีประสิทธิภาพและเป็นประโยชน์ต่อส่วนรวมก็จะเป็นเรื่องที่ดี

“การปฏิรูปกองทัพ เป็นเรื่องที่ดีที่ทำให้ทหารได้รับการยอมรับและบทบาทของกองทัพจะไม่ใช่ความมั่นคงอย่างเดียว แต่ช่วยส่วนรวม ช่วยประชาชน เป็นการสร้างความรู้สึกที่ดีซึ่งกันและกัน” นายสุวัจน์กล่าว