จุดแข็งเพื่อไทย นพ.พรหมินทร์ย้ำ 310 ส.ส. เสนอชื่อนายกฯ บริหารเป็น

นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช
นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช

เพื่อไทยชูบันได 3 ขั้น สกัดอำนาจ ส.ว. เลือกนายกฯ เสนอชื่อแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีที่บริหารเป็น

เมื่อวันที่ 13 มีนาคม 2566 เวทีแรกของแคมเปญ “มติชน : เลือกตั้ง 2566 บทใหม่ประเทศไทย” ซึ่งจัดที่โรงแรมพูลแมน คิง เพาเวอร์ กรุงเทพฯ (รางน้ำ) ภายใต้หัวข้อ “ย้ำจุดยืน ชูจุดขาย ประกาศจุดแข็ง” ที่มีตัวแทนจาก 8 พรรคการเมืองร่วมขึ้นเวทีประชันนโยบาย ทั้งนี้ นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช คณะกรรมการยุทธศาสตร์และทิศทางการเมือง พรรคเพื่อไทย กล่าวชูจุดขายพรรคว่า ตนจะนำเสนอบันได 3 ขั้น

คือ 1.ที่เราต้องนำเสนอเรื่องแลนด์สไลด์ คือเราต้องมีพรรคใหญ่ที่สามารถชนะเลือกตั้งแล้วยืนอย่างมั่นคงในการที่จะเป็นรัฐบาล เป้าหมายแรกที่เราจะนำเสนอคือการจัดตั้งรัฐบาลที่ต้องมีเสียงไม่ต่ำกว่า 250 จัดตั้งรัฐบาลประชาชน และหากได้ ส.ส. 310 เสียง จะเป็นหลักประกันเพื่อจะสกัดกั้นการตั้งรัฐบาลเสียงข้างน้อยที่สนับสนุนโดยวุฒิสมาชิก (ส.ว.)

ฉะนั้น เราต้องมีอำนาจและเสียงข้างมากในสภา เพื่อจัดตั้งรัฐบาลที่สามารถเอาชนะเสียง 250 ของวุฒิสภาได้อย่างเบ็ดเสร็จเด็ดขาด ซึ่งเป็นก้าวสำคัญในการทวงคืนประชาธิปไตย

2.การที่เราจะชูธงเพื่อให้ได้เสียงของประชาธิปไตยมาคือ เราต้องกางธงเพื่อให้ได้รายได้ของประชาชนและความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ซึ่งพรรคเพื่อไทยได้เสนอนโยบายต่าง ๆ ที่ครอบคลุมในทุกส่วนของสังคม ตั้งแต่รายได้ขั้นต่ำ พี่น้องเกษตรกร ประชาชนทั้งประเทศ เอสเอ็มอี อุตสาหกรรม และภาคอื่น ๆ เราจะเอาเงินรายได้ที่เกิดขึ้นมาดูแลพี่น้องประชาชน เราไม่นิยมการเอาปลาให้กินแค่มื้อเดียว แต่เราจะสอนวิธีทำมาหากิน เอาวิธีการตกปลาให้ประชาชนทุกกลุ่มเพื่อให้ยืนอยู่ได้ตลอดไป

นพ.พรหมินทร์กล่าวต่อว่า 3.การแก้รัฐธรรมนูญ 2560 ที่ยึดอำนาจของประชาชนไป เราจะใช้กระบวนการประชาธิปไตยคือ การตั้งสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (สสร.) เราจะหยุดการสืบทอดอำนาจ สร้างอำนาจและเพิ่มอำนาจให้ประชาชน สร้างกลไกที่เป็นประชาธิปไตย กระจายอำนาจและตรวจสอบ ถ่วงดุล ทั้งนี้ เราต้องมีผู้สมัคร ส.ส.ที่ใกล้ชิดกับประชาชน รู้ทุกข์สุข และนำเสนอวิธีการแก้ปัญหาให้ รวมถึงต้องมีนโยบายที่แข็งแรง

พรรคเรามีความพร้อมและยังสามารถนำเอาศักยภาพที่ซ่อนเร้นมาทำให้เกิดประโยชน์อย่างเต็มที่ เพื่อให้สามารถยืนยันว่าเราคิดใหญ่ เราทำเป็น เราจึงเสนอตัวแทนที่จะเข้าเป็นนายกรัฐมนตรี เพื่อเป็นหลักประกันของการที่จะเข้าไปเป็นตัวแทนบริหารที่มีความเชี่ยวชาญด้านต่าง ๆ แม้วันนี้ตนจะมาคนเดียว

แต่นโยบายดี ๆ ของพรรคเกิดจากคณะทำงานของพรรคเราช่วยกันระดมสมอง เราได้ทำงานกันมาเป็นหมื่นชั่วโมง สิ่งสำคัญที่เป็นเป้าหมายของเราคือ เอาอำนาจคืนมา ฉะนั้น เราต้องคิดใหญ่ คิดครบ เป็นกลคิดเชิงยุทธศาสตร์ เห็นต่างประเทศเข้ามายันภาคการผลิตและภาคต่าง ๆ นำเสนอวิธีการที่เป็นรูปธรรม นำเสนอยุทธศาสตร์ นำเสนอมาตรการพร้อมที่จะทำงาน และเรามีประสบการณ์ที่ผสมผสานจากคนที่มีประสบการณ์กับคนรุ่นใหม่ เพื่อยึดคืนอำนาจของประชาชน ย้ำว่าพรรคเพื่อไทย เราคิดใหญ่ ทำเป็น เพื่อไทยทุกคน