วราวุธ ชูไทยศูนย์กลางคาร์บอนเครดิต จุดแข็งว้าว ชาติไทยพัฒนา

วราวุธ
ศูนย์ภาพเครือมติชน

ชาติไทยพัฒนา ชูนโยบายว้าวไทยแลนด์ สร้างไทยเป็นศูนย์กลางคาร์บอนเครดิต สร้างงาน-รายได้อย่างยั่งยืน

วันที่ 13 มีนาคม 2566 เวทีแรกของแคมเปญ “มติชน : เลือกตั้ง 2566 บทใหม่ประเทศไทย” ซึ่งจัดที่โรงแรม พูลแมน คิง เพาเวอร์ กรุงเทพฯ (รางน้ำ) ภายใต้หัวข้อ “ย้ำจุดยืน ชูจุดขาย ประกาศจุดแข็ง” ที่มีตัวแทนจาก 8 พรรคการเมืองร่วมขึ้นเวทีประชันนโยบาย นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในฐานะหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.) กล่าวว่า

พรรค ชทพ. เชื่อว่าจุดแข็งจะต้องเป็นนโยบายที่สามารถแก้ปัญหาวันนี้และอนาคตพร้อมกัน ไม่ใช่แก้ปัญหาในวันนี้แต่ไปสร้างปัญหาในอนาคต

ต้องเป็นแนวนโยบายที่สามารถแก้ไขตั้งแต่คนระดับรากหญ้าจนถึงระดับประเทศ นี่คือสิ่งที่เรานำเสนอเกี่ยวกับ Asia-Pacific Regional Carbon Credit Center ศูนย์นี้จะทำหน้าที่วัด ประเมิน ศึกษา ซื้อขายพัฒนาเทคโนโลยีเกี่ยวกับคาร์บอนเครดิต คำถามมีอยู่ว่า พอมีศูนย์นี้แล้วดีกับคนไทยอย่างไร เป็นการสอดคล้องกับนโยบาย WOW Thailand ของ ชทพ.

W : Wealth ความมั่งคั่ง การที่ทำให้มีคาร์บอน เครดิต แนวคิดนี้การพัฒนานี้จะทำให้เกิดรายได้ให้กับประชาชนการ พี่น้องเกษตรกร เพิ่มมูลค่าผลผลิต มีคาร์บอน เครดิตในผืนนาของตัวเอง จะทำให้ภาคธุรกิจไทยนั้นมีแต้มต่อในเวทีระดับนานาชาติ ซึ่งในอนาคตอันใกล้ กำแพงภาษีเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อมกำลังจะเกิดขึ้นทั่วโลก ภาครัฐบาล ความน่าเชื่อถือจะเกิดขึ้น และจะเป็นหมุดหมายการเรียนรู้เรื่องสิ่งแวดล้อมให้กับทั่วโลก

O : Oppotunity โอกาส คำว่าคาร์บอน เครดิต เซ็นเตอร์ จะเป็นทั้งโอกาส ความหวังของประเทศไทย พลิกบทบาทของประเทศไทยในการที่จะให้คนสร้างโอกาส อาชีพ และภาคการเกษตรของประเทศไทย สามารถที่จะต่อยอดไปถึงระดับนานาชาติ ทำให้การเกษตรมีความมั่งคั่ง มีรายได้เพื่อดึงลูกหลานไทยกลับเข้ามาอยู่ภาคการเกษตรใหม่ การลงทุนทั้งภาคธุรกิจ ทั้งต่างชาติ การทำงานนอกสถานที่ การใช้ชีวิตหลังเกษียณ

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ประเทศไทยจะเป็นศูนย์กลางแห่งการเรียนรู้ แนวคิด และการปฏิบัติเรื่องคาร์บอน เครดิต ท้ายที่สุดเกี่ยวกับเรื่อง W : Welfare ดูแลสุขภาพพี่น้องประชาชนที่จะเดินหน้าไปด้วยกัน การมีคาร์บอน เครดิตขึ้นมา จะทำให้ฝุ่น PM 2.5 ในประเทศไทยหายไป

การที่เราจะมีสุขภาพที่ดีขึ้น การที่ภาคเกษตรจะเป็นภาคเกษตรอย่างยั่งยืน สิ่งต่าง ๆ เหล่านี้สามารถเกิดขึ้นได้ จะเป็นการแข่งขันที่ยุติธรรมากขึ้นบนเวทีนานาชาติ แนวคิดเหล่านี้ไม่ใช่แนวคิดที่ไกลเกินตัว

สิ่งที่ พรรค ชทพ. นำเสนอไม่ใช่สิ่งที่จะพูดขึ้นในอนาคต ไม่ใช่สิ่งที่เราจะทำ เกิดขึ้นแล้วในประเทศไทยหลายจังหวัด ชาวนาได้รายได้จากการขายคาร์บอน เครดิต ไร่ละ 500 บาท/ปี ประเทศไทยมีพื้นที่นาอยู่ 60 ล้านไร่ คิดเป็นเงินเกือบ 30,000 ล้านบาท ที่จะมาอยู่ในกระเป๋าของชาวนา ไม่ใช่กระเป๋าของนายทุน นี่คือแนวคิดของประเทศไทย เป็นแนวคิดของพรรค ชทพ. ที่บอกว่า แนวนโยบายที่ดี

ไม่ใช่ดูแลแค่คนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง แนวนโยบายที่ดีจะต้องดูแลตั้งแต่คนตัวเล็ก ไปอุ้มเขาขึ้นมาให้ก้าวทันระดับนานาชาติ ดูแลคนระดับภาคธุรกิจให้สามารถทำงานเทียบเท่ากับประเทศอื่น ๆ ได้ ที่สำคัญ จะต้องเป็นนโยบายพลิกโฉมประเทศไทยให้ไปยืนอยู่ท่ามกลางนานาอารยประเทศ โดยที่ไม่ต้องไปอายใคร

“แนวคิดของพรรค ชทพ. ที่เราทำกันอยู่ทุกวันนี้เราไปยืนอยู่บนเวทีโลกมาแล้ว วันนี้เรากำลังจะเปลี่ยนโฉมหน้าโลกใบนี้ให้ประเทศอื่น ๆ เห็น เราจะอุ้มคนตัวเล็ก อำนวยความสะดวกคนตัวโต เราจะทำให้ประเทศไทยยั่งยืนจนถึงชั่วลูกชั่วหลาน นี่คือแนวคิดของ WOW Thailand คิดไปจนถึงอนาคต ตั้งแต่ระดับรากหญ้าไปจนถึงระดับนานาชาติ” นายวราวุธกล่าว