โฆษกประชาธิปัตย์ดับข่าวสมคบคิดตั้งรัฐบาลเพื่อไทย โต้แทน ชวน ไม่เป็นกลาง

ราเมศ รัตนะเชวง

ราเมศ-โฆษกประชาธิปัตย์ โต้แทน ชวน หลีกภัย ปฏิบัติหน้าที่ประธานสภาไม่เป็นกลาง ดับข่าว สมคบคิดเพื่อไทยจัดตั้งรัฐบาล เขี่ยก้าวไกล-รวมไทยสร้างชาติ เป็นฝ่ายค้าน จับตาแก้ ม.112 ยกเลิกโทษจำคุกหมิ่นศาล-ผู้พิพากษา สั่ง ส.ส.สอบตก เก็บข้อมูล สรุปสาเหตุแพ้เลือกตั้ง

สยบข่าวสมคบคิดตั้งรัฐบาลเพื่อไทย

วันที่ 27 พฤษภาคม 2566 ที่พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) นายราเมศ รัตนะเชวง รักษาการโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ แถลงข่าวถึงกรณพาดพิงพรรคประชาธิปัตย์ไปร่วมวางแผน ไปร่วมพูดคุย ที่สนามกอล์ฟแห่งหนึ่ง เป็นแผนสอง ให้พรรคก้าวไกลกับพรรครวมไทยสร้างชาติไปเป็นฝ่ายค้าน และมีพรรคเพื่อไทย พรรคพลังประชารัฐ พรรคประชาธิปัตย์ พรรคภูมิใจไทยเป็นฝ่ายรัฐบาล ตนยืนยันทุกคนในพรรคไม่มีใครไปร่วมกระบวนการคิดหรือเจรจากับพรรคการเมืองใดทั้งสิ้น

“ต้องออกมายืนยันครั้งแล้ว ครั้งเล่า แต่ถ้าเกิดมีกระแสข่าวที่ออกมาว่าพรรคประชาธิปัตย์ได้ไปดำเนินการประสานเพื่อร่วมรัฐบาลกับพรรคการเมืองใด ผมก็ต้องออกมายืนยันว่า ไม่เป็นความจริง” นายราเมศกล่าว

นายราเมศกล่าวว่า กระบวนการของพรรคในการเลือกหัวหน้าพรรค เลือกตั้งคณะกรรมการบริหารพรรคยังไม่เสร็จสิ้น ขณะนี้ทุกคนที่อยู่ในกระบวนการในการเลือกหัวหน้าพรรคคนใหม่

“เราไม่ไปประสาน หรือร่วมคิด ร่วมทำ เพื่อให้มีการเปลี่ยนแปลง หรือไปร่วมจัดตั้งรัฐบาล ไม่มีทั้งสิ้น เป็นข่าวบิดเบือนและทำให้เกิดความเสียหายกับพรรคประชาธิปัตย์” นายราเมศกล่าว

โต้แทน ชวน วางตัวกลาง

นายราเมศแถลงว่า ส่วนกรณีนายรังสิมันต์ โรม โฆษกพรรคก้าวไกลพาดพิงการทำหน้าที่ของนายชวน หลีกภัย อดีตประธานสภาผู้แทนราษฎรและอดีตประธานรัฐสภา หน้าที่ของประธานสภาไม่มีหน้าที่ไปช่วยเหลือพรรคการเมืองใดที่จะไปผลักดันร่างกฎหมายต่าง ๆ ไม่มีอำนาจหน้าที่วินิจฉัยหรือสั่งการนอกเหนือรัฐธรรมนูญและข้อบังคับการประชุมสภา และต้องวางตัวเป็นกลางในการปฏิบัติหน้าที่

“การทำหน้าที่ของนายชวน ในฐานะประธานสภาผู้แทนราษฎรและประธานรัฐสภา ทำหน้าที่ได้อย่างสมบูรณ์ มีความตรงไปตรงมา ให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายค้านหรือฝ่ายรัฐบาล ยึดหลักความเป็นกลางในการวินิจฉัยในที่ประชุมแต่ละครั้ง ผมคิดว่าเป็นการทำหน้าที่ได้อย่างสมบูรณ์ที่สุด” อดีตเลขานุการประธานสภา นายชวน หลีกภัย กล่าว

“การมากล่าวหาว่า ทำไมไม่ร่วมผลักดันกฎหมายบางฉบับ จะมาร่วมผลักดันได้อย่างไร ร่างพระราชบัญญัติแก้ไขประมวลกฎหมายอาญา เป็นสิ่งที่น่าเป็นห่วง ในเมื่อร่างกฎหมายนั้นไม่ถูกต้อง การยกเลิกมาตรา 112 การยกเลิกความผิดดูหมิ่นเจ้าพนักงาน การยกเลิกฐานดูหมิ่นศาล จึงมีการวินิจฉัยว่าร่างกฎหมายดังกล่าววขัดและแย้งต่อบัญญัติรัฐธรรมนูญ ถึงได้ไม่มีการบรรจุในระเบียบวาระการประชุม

ถ้าเกิดจะไปทำหน้าที่โดยอำเภอใจเพื่อสนับสนุนหรือผลักดันในสิ่งที่ไม่ถูกต้อง ตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎรจะมีปัญหาในการปฏิบัติหน้าที่ เพราะไม่สามารถไปช่วยเหลือ ผลักดันสิ่งที่ขัดรัฐธรรมนูญ หรือสิ่งที่ขัดข้อบังคับได้” นายราเมศกล่าวและทิ้งท้ายว่า

“ที่พูดในลักษณะว่า ประธานสภา นายชวน หลีกภัย ไม่ได้ผลักดัน ไม่ได้ให้ความสำคัญในเรื่องของกฎหมายที่เสนอโดยภาคประชาชน บิดเบือนทั้งสิ้น พูดเอาดีใส่ตัว เอาชั่วใส่คนอื่น” นายราเมศกล่าว

นายราเมศแถลงเพิ่มเติมว่า ร่างกฎหมายที่พรรคประชาธิปัตย์เป็นห่วงมากที่สุด คือ การเสนอร่างแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญาไว้เมื่อวันที่ 15 มิถุนายน 2564 เสนอโดยพรรคก้าวไกล โดยนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ เมื่อวันที่ 25 มีนาคม 2564 ซึ่งขณะนี้พรรคประชาธิปัตย์และฝ่ายกฎหมายได้รวมรวมข้อมูล ข้อเท็จจริง เก็บรายรายละเอียดไว้ทั้งหมดแล้ว

“รายละเอียดที่น่ากังวลอย่างมาก เช่น การยกเลิกความผิดจำคุกฐานดูหมิ่นเจ้าพนักงาน ให้เหลือเพียงโทษปรับเพียงอย่างเดียว และสิ่งที่น่ากังวลต่อไปอีก คือ ยกเลิกอัตราจำคุกในความผิดดูหมิ่นศาลหรือผู้พิพากษา เราไม่เห็นด้วย ไม่ใช่ไปปกป้องอำนาจตุลาการ แต่หลักการความถูกต้อง กระบวนการที่ทำให้กระบวนการยุติธรรม อำนาจตุลาการ สามารถพิจารณาคดีด้วยความตรงไปตรงมา เป็นธรรม ปราศจากการกดดันจากทุกฝ่าย เรามีกฎหมายคุ้มครองตุลาการแค่นี้ ผมคิดว่ามันไม่ไปหนักส่วนไหนของใครหรอกครับ” นายราเมศกล่าวและว่า

“หากมีการเสนอต่อสถาผู้แทนราษฎร พรรคประชาธิปัตย์จะเป็นพรรคที่จะมาร่วมต่อสู้ในเรื่องนี้ให้เต็มที่และถึงที่สุด” นายราเมศกล่าว

เก็บข้อมูลหาสาเหตุแพ้เลือกตั้ง

นายราเมศแถลงตบท้ายว่า ขณะนี้พรรคประชาธิปัตย์อยู่ระหว่างกระบวนการเลือกหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์และคณะกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ ซึ่งรอคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ประกาศรับรองจำนวนตัวเลข ส.ส. รวม 25 เสียงอย่างเป็นทางการ จะกลับมาพัฒนา ฟื้นฟู กำหนดแนวทางและกิจกรรมทางการเมืองของพรรคในวันข้างหน้า


ซึ่งแต่ละเขตเลือกตั้งมีข้อเท็จจริงแตกต่างกัน พรรคจึงได้ย้ำกับผู้สมัคร ส.ส. ตัวแทนพรรคประจำจังหวัด ประจำเขตเลือกตั้ง ตัวแทนสาขา เก็บรวบรวมข้อมูล ข้อเท็จจริงทั้งหมดเพื่อนำมาสรุปเป็นบทวิเคราะห์ว่า การแพ้เลือกตั้งในหลายจังหวัด หลายพื้นที่เกิดขึ้นจากสาเหตุใด เพื่อเสนอก กก.บห.พรรคชุดใหม่และสมาชิกพรรคต่อไป