ประธาน กกต. ย้ำให้ความเป็นธรรม พิธา ถือหุ้นไอทีวี จ่อรับรองเป็น ส.ส.

พิธา กกต.

ประธาน กกต.เผยตั้งคณะกรรมการไต่สวนปม พิธา ถือหุ้นไอทีวี ขีดเส้นสอบให้เสร็จโดยเร็วใน 20 วัน ย้ำให้ความเป็นธรรมทุกฝ่าย ชี้ต้องแยกการรับรองเป็น ส.ส.กับการไต่สวน โดยดูจากการเลือกตั้งสุจริต-เที่ยงธรรมหรือไม่

วันที่ 16 มิถุนายน 2566 ที่โรงแรมเซ็นทรา บาย เซ็นทารา ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติฯ ถนนแจ้งวัฒนะ นายอิทธิพร บุญประคอง ประธานกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ให้สัมภาษณ์กรณีที่นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคและแคนดิเดต นายกรัฐมนตรีพรรคก้าวไกล ถูกร้องเรียนให้ตรวจสอบการถือครองหุ้นบริษัทไอทีวี จำกัด (มหาชน) จะประกาศผลพิจารณารับรองไปก่อนหรือไม่ว่า

กรณีดังกล่าวเข้าสู่กระบวนการโดย กกต.ได้มีมติตั้งคณะกรรมการไต่สวนขึ้นมาตรวจสอบ ซึ่งจะดำเนินการโดยเป็นไปตามระเบียบการสืบสวน ไต่สวน กำหนดขั้นตอน และระยะเวลาในการดำเนินการไว้ชัดเจน

ย้ำว่าต้องให้ความเป็นธรรมทุกฝ่าย และต้องยึดถือกระบวนการตามขั้นตอนต่าง ๆ อย่างเคร่งครัด ส่วนจะต้องแยกระหว่างการประกาศรับรองผลกับการสืบสวนไต่สวนหรือไม่นั้น ยืนยันว่าไม่เกี่ยว เพราะ กกต.คำนึงถึงสาเหตุสำคัญคือการเลือกตั้งมีความสุจริตและเที่ยงธรรมหรือไม่

ส่วนกรณีบริษัทไอทีวี ล่าสุดออกแถลงการณ์เป็นเอกสารคำชี้แจง โดยมีทั้งเอกสารลงบันทึกการประชุมสามัญผู้ถือหุ้น และคลิปวิดีโอการประชุมผู้ถือหุ้นที่ถูกเผยแพร่ต่อสาธารณะ

รวมถึงเอกสารที่ยื่นให้กับคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ในฐานะผู้จัดการมรดกจะมีผลต่อการพิจารณาของ กกต.หรือไม่ นายอิทธิพรกล่าวว่า ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนตามอำนาจการตรวจสอบของคณะกรรมการการสืบสวนไต่สวน

ซึ่งได้ทำหน้าที่ ตามขั้นตอนจะมีการเรียกพยานหรือเอกสารได้ โดย กกต.จะไม่ก้าวก่ายหรือแทรกแซงการทำงาน ขั้นตอนของคณะกรรมการมีหน้าที่ให้ดำเนินการให้เสร็จโดยเร็วภายใน 20 วัน หากไม่ทันสามารถขอขยายระยะเวลาได้ครั้งละ 15 วัน ดังนั้น เรื่องนี้จะทำโดยเร็วไม่ได้ เพราะจะขัดต่อกระบวนการของกฎหมายที่กำหนด

เมื่อถามว่ามีการเรียกร้องให้ กกต.ดำเนินการตามรัฐธรรมนูญมาตรา 82 เพื่อให้ทันต่อการโหวตนายกรัฐมนตรี นายอิทธิพรกล่าวว่า เรื่องนี้พูดตอนนี้ไม่ได้ เพราะยังไม่ผ่านขั้นตอนการพิจารณา หรือการนำเสนอของใคร ทุกอย่าง กกต.ต้องตัดสินโดยมติในที่ประชุม เมื่อยังไม่มีเรื่องเข้ามาอาจจะไม่เหมาะสมถ้าหากพูดเรื่องนี้ไปก่อน

เมื่อถามย้ำว่า เรื่องนี้จะต้องให้มีผู้ร้องเรียนยื่นเรื่องเข้ามาก่อนหรือไม่ นายอิทธิพรกล่าวว่า ถ้าตามกฎหมายไม่จำเป็น เมื่อถามเพิ่มเติมว่าสามารถนำข้อมูลในชั้นของคณะกรรมการสืบสวนมายื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญตามมาตรา 82 ได้หรือไม่ นายอิทธิพรกล่าวว่า ตามทฤษฎีข้อมูลหลักฐานผลการตรวจสอบวินิจฉัยของคณะกรรมการสืบสวนเป็นอย่างไรจะต้องเสนอมาตามลำดับ เมื่อมาถึง กกต.จะต้องพิจารณาว่าข้อมูลเพียงพอ หรือว่าจะต้องดำเนินการอะไรเพิ่มเติม หรือสามารถตัดสินได้เลย

เมื่อถามอีกว่าเป็นไปได้หรือไม่ที่จะสามารถพิจารณาได้ทันก่อนการโหวตนายกรัฐมนตรี เพื่อป้องกันปัญหา ประธาน กกต.กล่าวว่า คิดอย่างนั้นไม่ได้ เพราะเมื่อเรื่องเข้าสู่กระบวนการ ถ้าเทียบกับระเบียบสืบสวนไต่สวน ก็เหมือนประมวลวิธีพิจารณาความอาญา หากไปเร่งก็จะไม่เป็นธรรม