วง 8 พรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาล ยังเคลียร์เก้าอี้ไม่ลงตัว หลังเพื่อไทย เอาเข้าที่ประชุม กก.บห.พรรคและ ส.ส.พรรคพรุ่งนี้ “หมอชลน่าน” รับปากได้คำตอบช่วงเที่ยง วันที่ 3 ก.ค.
วันที่ 2 กรกฎาคม 2566 ที่พรรคก้าวไกล นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคก้าวไกล พร้อมด้วย แกนนำ 8 พรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาล ร่วมแถลงภายหลังการหารือถึงตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎร
- เปิดค่าซ่อม “รถอีวี vs รถใช้น้ำมัน” แพงกว่ากันเท่าไร
- เปิด 10 อันดับที่ดินต่างจังหวัด แพงสุดในประเทศไทย
- ออมสิน จัดโปรฯเด็ดเงินฝากดอกเบี้ย 21% สลาก 1 ปี แจกทอง 10 กิโล
ทั้งนี้ นายพิธากล่าวว่า ที่ประชุม 8 พรรค มีการพูดคุยกันบ้างเล็กน้อย ซึ่งทุกอย่างเป็นไปด้วยดีและมีความคืบหน้าเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ แต่ต้องให้เกียรติพรรคที่ยังต้องพูดคุยกันอยู่
ส่วนจะรับได้หรือไม่หากจะต้องรอข้อสรุปจากพรรคเพื่อไทยไปเรื่อย ๆ นั้น นายพิธากล่าวว่า ก็ไม่ได้รอเรื่อย ๆ เราให้เกียรติพรรคเพื่อไทย ยังพอมีเวลาอยู่ โดยปกติ ทุกอย่างต้องค่อยเป็นค่อยไปและเป็นขั้นตอน เราไม่ควรเปิดประเด็นใหม่ เพราะมันจะกระทบกับการเจรจา ควรโฟกัสประเด็นที่มีอยู่ หากทำให้ประชาชนสับสน ก็ต้องขออภัย เรามีความปรารถนาดีตั้งใจจริง ในการจัดตั้งรัฐบาลและแก้ไขปัญหาให้กับประชาชน
ผู้สื่อข่าวถามว่าหากมีการเสนอชื่อบุคคลอื่นเป็นประธานสภาต่างจากที่ตกลงกันไว้ นายพิธากล่าวว่า อย่าเปิดประเด็นใหม่ การคาดการณ์ประเด็นใหม่อาจกระทบกับการจัดตั้งรัฐบาลและสร้างความสับสนให้ประชาชน รวมถึงความมั่นใจในสังคม เช่น เรื่องตลาดหุ้นด้วย
เมื่อถามย้ำว่าหาข้อสรุปที่ได้ไม่ตรงกันจะทำอย่างไร นายพิธากล่าวว่า ไม่อยากให้เปิดประเด็นใหม่ทุกอย่างมีกระบวนการอยู่
ด้าน นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทยกล่าวว่า คณะเจรจา 2 ฝ่าย ได้แจ้งความคืบหน้าในการหารือกันอย่างไม่เป็นทางการให้ที่ประชุมรับทราบ แต่พรรคเพื่อไทยมีกระบวนการทำงานหลากหลายของคนที่มาทำงานร่วมกันมาก และมีความเห็นต่างมากกับการทำงานภายในพรรคที่ต้องอาศัยข้อบังคับพรรค ซึ่งเป็นกระบวนการภายใน และจำเป็นต้องฟังความเห็นของสมาชิกพรรค เราจึงแจ้งต่อที่ประชุมในวันนี้ว่า จะต้องเข้าสู่กระบวนการพิจารณาของพรรคเพื่อไทย เป็นการภายในในวันที่ 3 กรกฎาคมนี้
ทั้งนี้ จะยึดเจตจำนงการจัดตั้งรัฐบาลประชาธิปไตยให้ได้ ซึ่งเรายังยึดมั่นแนวทางนี้อยู่ ยืนยันว่าเราจะร่วมมือกันจัดตั้งรัฐบาล ยึดหลักทุกฝ่ายทุกภาค ไม่ใช่เฉพาะพรรคก้าวไกลและพรรคเพื่อไทย ถือเป็นทางร่วมที่ต้องรับผิดชอบร่วมกัน และหากข้อสรุปไม่เป็นไปตามที่ประชาชนคาดหวัง จะกระทบต่อพรรคร่วมและการจัดตั้งรัฐบาล
“คณะเจรจาสองฝ่ายยอมรับและให้เกียรติ ในการทำงานร่วมกัน พรรคเพื่อไทยที่หลากหลายผสมผสานของคนเข้ามาทำงานในพรรคมาก ดังนั้นพรรคเป็นพรรคที่เห็นต่างเยอะ กระบวนการทำงานภายในของพรรค อาศัย ข้อบังคับพรรคจึงสำคัญ ซึ่งคณะเจรจาของก้าวไกลยอมรับว่าต้องรับฟังความเห็นของพรรคเพื่อไทย ทั้งนี้พรรคเพื่อไทยจะนำเข้าสู่กระบวนการภายในของพรรค 3 กรกฎาคม นำข้อเสนอจากคณะเจรจา 2 ฝ่ายหารือ ที่ประชุม ส.ส.และกรรมการบริหารพรรค ทั้งนี้ยึดมั่นใจเจตนารมณืในการตั้งรัฐบาลประชาธิปไตยของประชาชน ยืนยันว่าจะตั้งรัฐบาลร่วมกันให้ได้ เพื่อประโยชน์ของทุกฝ่าย ดังนั้นพรุ่งนี้จะมีข้อสรุปที่ดีร่วมกัน ไม่เกิน 12.00 น. เนื่องจากเวลา 13.00 น.ต้องเดินทางไปยังรัฐสภา”
เมื่อถามว่าจะเสนอชื่อประธานสภาคนอื่น โดยให้พรรคขั้วตรงข้ามเป็นผู้เสนอชื่อแทนพรรคเพื่อไทยหรือไม่ นพ.ชลน่านกล่าวว่า ตอบยาก แต่มั่นใจว่าทุกอย่างจะได้ข้อสรุปที่ดี ก่อนวันที่ 4 ก.ค. ส่วนกลัวว่าจะมีการฟรีโหวตเกิดขึ้นหรือไม่ ถือเป็นมุมมองที่หลากหลาย แต่ความเป็นพรรคมีความสำคัญที่สุด ถือว่ามีความสำคัญที่สุด
ขณะที่นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา หัวหน้าพรรคประชาชาติ กล่าวถึงพรรคประชาชาติยังอยากได้ตำแหน่งรองประธานสภา คนที่สอง ในฐานะพรรคอันดับสามหรือไม่ ว่า พรรคต้องการตั้งรัฐบาลเพื่อประชาชน ถ้าจัดตั้งรัฐบาลเพื่อประชาชนได้ก็ยินดีเสียสละในเรื่องต่าง ๆ ได้
ขณะนี้ 8 พรรคมอบให้พรรคก้าวไกลและพรรคเพื่อไทย ใช้เวลาที่เหลืออยู่ 40 กว่าชั่วโมงให้เป็นเวลาแห่งชัยชนะของประชาชน ไม่เช่นนั้น ฝ่ายที่ไม่ใช่ประชาธิปไตยพร้อมจะแทรกเข้ามา และหากเกิดข้อผิดพลาดขึ้นมา ประชาชนอาจไม่ให้อภัยพวกเราอีก ฉะนั้นเวลาที่เหลืออยู่ เราต้องทำให้ได้ เวลาไม่ใช่เงื่อนไข แต่หัวใจความเสียสละเพื่อประชาชนสำคัญยิ่งกว่า
“ผมมองว่าคนที่นั่งที่นี่ต้องทำเพื่อประชาธิปไตยให้สำเร็จ แม้เวลาน้อยต้องทำให้ได้ แม้เวลาจะน้อยบางทีเช้าจะโหวต 09.00 น. แต่ก่อนเวลาโหวตอาจจะจบด้วยดี ผมมองว่าหัวใจและความเสียสละเพื่อประชาธิปไตย มีความสำคัญอย่างยิ่งยวด” หัวหน้าพรรคประชาชาติ กล่าว
