
มติที่ประชุม ส.ส.ก้าวไกล เสนอใช้กลไกสภาหาทางออก ยื่นญัตติทบทวนมติรัฐสภาตีความข้อบังคับฯ ข้อ 41 ปลดล็อกเสนอนายกฯซ้ำได้
วันที่ 25 กรกฎาคม 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในช่วงหนึ่งของการประชุม ส.ส.พรรคก้าวไกล ได้หารือถึงแนวทางของพรรคต่อกรณีที่ที่ประชุมรัฐสภามีมติเมื่อวันที่ 19 กรกฎาคม 2566 ตีความข้อบังคับการประชุมรัฐสภา ว่าการพิจารณาให้ความเห็นชอบบุคคลซึ่งสมควรได้รับแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรี อยู่ภายใต้การกำกับของข้อบังคับฯ ข้อ 41 ประกอบข้อ 151
- กรมอุตุฯเตือน มวลอากาศเย็นระลอกใหม่จากจีน อากาศเย็นลง-ลมแรง
- เปิดโผ 5 หุ้นจ่ายปันผล ขึ้นเครื่องหมาย XD ต้นเดือน ธ.ค. นี้
- DELTA แถลงการณ์ปมพนักงานประท้วงขอโบนัส 8.5 เดือน พร้อมเงิน 5 หมื่น
โดยเรื่องนี้มี ส.ส.แสดงความเห็นหลายคน สรุปไปในทางเดียวกันว่า พรรคก้าวไกลเห็นสอดคล้องกับนักวิชาการด้านนิติศาสตร์จำนวนมากที่ได้แสดงไว้ก่อนหน้านี้ว่า มติรัฐสภาดังกล่าวขัดต่อรัฐธรรมนูญ และสภาสามารถแก้ไขได้เอง
ไม่จำเป็นต้องส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญชี้ขาด เพราะเท่ากับทำให้ศาลรัฐธรรมนูญเข้ามาแทรกแซงการวินิจฉัยตีความของรัฐสภา หรือมีอำนาจเหนือสภาผู้แทนราษฎรที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชน
ดังนั้น พรรคก้าวไกลเห็นว่ากรณีนี้สามารถใช้กลไกสภาในการหาทางออก ผ่านการยื่นญัตติให้รัฐสภาทบทวนมติที่เคยมีไปแล้ว โดย ส.ส.พรรคก้าวไกลจะดำเนินการในการประชุมรัฐสภาครั้งถัดไป
ทั้งนี้ หากที่ประชุมรัฐสภามีมติเห็นชอบกับญัตติที่พรรคก้าวไกลเสนอ จะเป็นการปลดล็อกความผิดพลาดที่เคยเกิดขึ้น ทำให้การเสนอนายกฯไม่ต้องผูกพันกับมติเดิมของที่ประชุมอีกต่อไป สามารถเสนอบุคคลที่สมควรดำรงตำแหน่งนายกฯซ้ำได้