เพื่อไทย ออกโรงปกป้องเศรษฐา จับตาเกมแฉชูวิทย์ ปมภาษีที่ดินแสนสิริ

อนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด
อนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด

เพื่อไทย ป้องเศรษฐา คุณสมบัตินายกฯ ครบถ้วนตามรัฐธรรมนูญ ไม่ฝ่าฝืนจริยธรรมใด ๆ จวก “ล้มนิด ชุบชีวิตใคร”

วันที่ 4 สิงหาคม 2566 ที่รัฐสภา นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณี นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ แถลงข่าวว่านายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคเพื่อไทย ทำนิติกรรมอำพรางเลี่ยงภาษีว่า นายชูวิทย์จะตรวจสอบเรื่องอะไรก็เป็นสิทธิ แต่เท่าที่จำได้นายชูวิทย์แหย่เรื่องนี้มาตั้งแต่แรก แต่ไม่ลงมือเปิดข้อมูล มาเลือกลงมือในจังหวะเวลานาทีสำคัญก่อนโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี

คำถามคือ ถ้าทำกันจนการโหวตนายเศรษฐา มีปัญหา ใครคือผู้ได้ประโยชน์ เพราะอาชญากร ย่อมได้ประโยชน์จากอาชญากรรมที่ตัวเองก่อขึ้น ความพยายามในการดิสเครดิตแคนดิเดตนายกฯรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทย เป็นไปเพื่อเปิดทางไปสู่ปฏิบัติการ “ล้มนิด ชุบชีวิตใคร” หรือไม่

เพื่อชุบชีวิตคนที่หมดโอกาสไปแล้วให้ฟื้นคืนชีพกลับสู่เส้นทางลุ้นเป็นนายกรัฐมนตรีหรือไม่ พรรคเพื่อไทยยืนยันว่านายเศรษฐามีคุณสมบัติครบถ้วนตามรัฐธรรมนูญ ไม่ได้ละเมิดกฎหมาย ไม่ได้ฝ่าฝืนจริยธรรมใด ๆ ตามที่กล่าวอ้าง ถ้านายชูวิทย์ติดใจสงสัยในกรณีดังกล่าวสามารถตรวจสอบได้ที่กรมสรรพากร

“ประเทศชาติและประชาชนเสียโอกาสไปมากแล้ว ปล่อยให้ประเทศไทยได้ไปต่อ ประเทศไม่ควรขาดรัฐบาลนานเกินไป” นายอนุสรณ์กล่าว

เมื่อถามว่า กลัวว่ากรณีดังกล่าวจะซ้ำนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกลหรือไม่ นายอนุสรณ์กล่าวว่า การนำประเด็นแต่ละประเด็นไปพิจารณามีความแตกต่างกัน เราไม่สามารถนำไปเทียบได้ว่าใครเคยโดนแล้วคนอื่นจะต้องโดนเช่นกัน ถึงตอนนี้ก็ยังยืนยันว่านายเศรษฐามีคุณสมบัติเพียงพอที่จะสามารถเข้าสู่การโหวตนายกรัฐมนตรีได้

เมื่อถามถึงเอกสารที่นายชูวิทย์เปิดเผยออกมาไม่น่าเชื่อถือใช่หรือไม่ นายอนุสรณ์กล่าวว่า พรรคเพื่อไทย ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับธุรกรรมใด ๆ ของแสนสิริ เพราะฉะนั้นเอกสารที่นายชูวิทย์ต้องไปตรวจสอบ และไปวัดกับทีมกฎหมายของแสนสิริ รวมถึงไปตรวจสอบกับกรมสรรพากร เราไม่ได้อยู่ในฐานะที่บอกได้ว่าเอกสารของนายชูวิทย์เชื่อถือได้หรือไม่ได้

เมื่อถามว่า หากเป็นความจริงจะกระทบต่อพรรคเพื่อไทยหรือไม่ นายอนุสรณ์กล่าวว่า เท่าที่ตนติดตามการแถลงของทีมกฎหมายแสนสิริ ก็ไม่ได้มีความหนักใจในเรื่องนี้ สิ่งที่นายชูวิทย์เปิดเผยออกมาก็สามารถคาดการณ์ได้อยู่แล้ว เราต้องคิดตามว่าบริษัทชั้นนำ การทำธุรกรรมต้องสามารถตรวจสอบได้อยู่แล้ว

ดังนั้น การร้องเรียนจึงเป็นสิทธิ์ แต่ก็จะต้องไปว่ากันตามข้อเท็จจริงทางกฎหมาย ขณะเดียวกัน ก็จะมีหน่วยงานรัฐเข้าไปตรวจสอบ ถ่วงดุล เพื่อที่จะสามารถพิจารณาข้อมูลของแต่ละฝ่าย

เมื่อถามว่าจะกระทบต่อการตั้งรัฐบาลของพรรคเพื่อไทยหรือไม่ นายอนุสรณ์กล่าวว่า หากไม่มีปรากฏการณ์โรคเลื่อน วันนี้ก็คงจะมีการโหวตนายกรัฐมนตรี แต่การที่นายชูวิทย์นำข้อมูลมาเปิดเผยในช่วงเวลานี้ ทั้งที่เจ้าตัวเคยพูดว่ามีหลักฐานมานานแล้ว จึงอดสงสัยไม่ได้ว่าเป็นส่วนหนึ่งของแผน “ล้มนิด ชุบชีวิตใคร” หรือไม่ ซึ่งพรรคการเมืองอื่นก็ไม่มีใครติดใจในประเด็นดังกล่าว