“บิ๊กตู่” ดูน้ำท่วมสกลฯ ย้ำ เถียงกันเรื่องเขื่อนแตกไร้สาระ ชี้น้ำเยอะ จังหวัดอื่นก็ท่วม

เมื่อเวลา 07.30 น. วันที่ 2 สิงหาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) พร้อมด้วย พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นายสุธี มากบุญ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย และ พล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) เดินทางจากท่าอากาศยานทหาร 2 กองบิน 6 ไปยังสนามบินค่ายกฤษณ์สีวะรา จ.สกลนคร เพื่อตรวจติดตามสถานการณ์น้ำท่วมใน จ.สกลนคร โดยจุดแรกนายกฯรับฟังบรรยายสรุปปัญหาและการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมจากนายวิทยา จันทร์ฉลอง ผู้ว่าราชการจังหวัดสกลนคร และรับฟังสถานการณ์น้ำจากนายสัญชัย เกตุวรชัย อธิบดีกรมชลประทานที่ค่ายกฤษณ์สีวะรา

โดยนายกฯ กล่าวภายหลังการรับฟังบรรยายสรุปว่า ที่มาวันนี้ไม่ได้มาเพื่อตำหนิใคร แต่ขอชื่นชมทุกคนตั้งแต่ระดับรัฐมนตรีลงมาถึงผู้ปฏิบัติที่ช่วยกันทำหน้าที่ ขอให้ทุกคนร่วมมือกันเพราะทุกคนคือข้าราชการของแผ่นดิน สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงรับสั่งมาว่าขอให้ช่วยกันทำให้สถานการณ์ดีขึ้นโดยเร็ว และได้ทรงรับสั่งให้รัฐบาลมองการแก้ไขปัญหาอย่างยั่งยืนให้เกิดขึ้นให้ได้ รวมถึงทรงห่วงใยเรื่องการกักเก็บน้ำในทุกพื้นที่โดยให้มีการสำรวจความแข็งแรงของเขื่อนต่างๆ ให้เพิ่มขึ้น เพราะเป็นที่ทราบกันดีว่าอย่างอ่างเก็บน้ำห้วยทรายขมิ้นสร้างมานานกว่า 60 ปี อาจเท่าอายุตนประมาณ 63 ปีด้วยซ้ำ ซึ่งหากเก็บน้ำในสถานการณ์ปกติคงรับน้ำไหว แต่เมื่อสถานการณ์มากกว่าปกติก็รับน้ำไม่ได้ อีกประการที่พระองค์ท่านทรงรับสั่งคือให้ช่วยกันหาหญ้าแฝกปลูกไว้ริมอ่างเก็บน้ำเราเองต้องรับใส่เกล้าไว้ด้วย รวมถึงการขุดลอกทางระบายน้ำต่างๆ และพระองค์ทรงรับสั่งว่าให้นำแนวทางของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 ที่พระราชทานไว้มากมายมาแก้ไขปัญหาอย่างยั่งยืน พระองค์ท่านทรงติดตามทั้งข่าวโทรทัศน์ ข่าวถวายรายงานทั้งหมดและพระองค์ทรงทราบทุกอย่าง ตั้งแต่ที่พระองค์รับสั่งไว้กับตนสมัยรายงานตั้งแต่เป็นรัฐบาลแรก คือให้รัฐบาลดูแลประชาชนให้ดีที่สุด ทำให้ประชาชนพึงพอใจ มีอะไรที่สถาบันพอจะช่วยได้พระองค์ก็จะทรงพระราชทานความช่วยเหลือมาให้ เราก็จะเห็นว่าพระองค์ทรงพระราชทานสิ่งต่างๆ มาแล้วในขณะนี้ ไม่ว่าจะเป็นการตั้งศูนย์อาหารประชาชน และเพิ่มศูนย์อาหารสัตว์มาแล้วด้วย จะเห็นได้เราพระองค์ทรงห่วงใยและติดตามทุกเรื่อง และทรงเข้าใจถึงปัญหาทั้งหมด

นายกฯกล่าวต่อว่า สิ่งที่คนไทยต้องเข้าใจคือพื้นที่นี้เป็นพื้นที่หนึ่งที่เรากำลังเผชิญกับปัญหาอุทกภัย เป็นหนึ่งในหลายพื้นที่ในประเทศที่ต้องมีปัญหาแบบนี้ในอนาคตอาจจะใหญ่หรือเล็กกว่านี้ตนก็ไม่ทราบ เพราะมันเกิดสภาวะอากาศโลกเปลี่ยนแปลง ทั้งน้ำแข็งในขั้วโลกละลาย ระดับน้ำในโลกก็สูงขึ้น นี่คือปัญหาที่โลกกำลังเปลี่ยนแปลง ภาวะโลกร้อน ครั้งนี้ที่ไทยโดนพายุเซินกาซึ่งไทยได้รับผลกระทบกว่า 35 จังหวัดโดยจ.สกลนคร ได้รับความเดือดร้อนมากที่สุด ตนจึงขอขอบคุณทุกคนที่ช่วยกันทำงานหนัก ขอบคุณด้วยใจจริงจากตนและคณะรัฐมนตรี (ครม.)

“ที่ผ่านมาก่อนหน้านี้ก็ได้มีการแนวทางความห่วงใยให้เตรียมกันไว้ตามแนวทางของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวที่พระราชทานไว้กับเราถึงแก้ปัญหาได้เร็วขึ้น โดยเฉพาะโครงการจิตอาสาที่ทุกคนร่วมมือและช่วยเหลือกัน เห็นหรือไม่ว่าเราต้องร่วมมือกัน จะแตกแยกกันไม่ได้ จะด้วยการเมืองหรือเหตุผลอื่นก็แล้วแต่ เพราะเราต่างต้องช่วยเตรียมเพื่อเผชิญกับภัยต่างๆ ที่เกิดขึ้น” นายกฯกล่าว

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า วันนี้น้ำที่มาจากเทือกเขาภูพานมหาศาลก็ขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปดูด้วยว่าป่าไม้บนเทือกเขาเป็นอย่างไร แล้วเมื่อน้ำลงมาก็มาดูกันว่าเราจะเก็บกักน้ำได้จำนวนเท่าไร เมื่อเรากักเก็บน้ำได้น้อย แต่น้ำลงมา 500 ล้านลูกบาศก์เมตร แต่อ่างเก็บน้ำห้วยทรายขมิ้นที่กักเก็บได้แค่ 240 ล้านลูกบาศก์เมตร ก็คงรับไม่ไหว ทำให้เอ่อล้นและระบายน้ำออกมา เมื่อการระบายไม่ทันกับน้ำที่ลงมามากและไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน แต่ที่ราชการชี้แจงว่าเขารับไหวก็เพราะเขาคิดว่าฝนจะตกไม่มากขนาดนี้ พอมากขึ้นก็ต้องแก้ไขกัน เพราะฉะนั้นความเข้าใจของประชาชนจึงสำคัญ เพราะเราต้องเตรียมการรับมือให้ได้ เมื่อเกิดปัญหาเราก็ต้องไปแก้ไขถึงโครงสร้างการบริหารจัดการน้ำการเกษตร น้ำเพื่อการอุปโภคบริโภคที่รัฐบาลกำลังทำอยู่ หากเราแก้ไขแบบเดิมก็เป็นแบบวัวหายล้อมคอก แต่วันนี้เราจะสร้างเขื่อนก็ยังลำบาก บางเขื่อนก็เก่าทำให้รับน้ำมากกว่านี้ไม่ได้ เราก็เตรียมการไม่ทันเพราะเราติดปัญหาหลายอย่าง ทั้งสร้างเขื่อน อ่างเก็บน้ำ ก็ติดปัญหาที่ประชาชนทั้งหมด แต่หากรัฐบาลบังคับใช้กฎหมายเต็มที่ก็เดือดร้อนกันอีก เมื่อเราจะปฏิรูปอะไรก็ติดที่ประชาชนทั้งหมด ดังนั้นเราต้องทำความเข้าใจประชาชนให้มากขึ้น สถานการณ์วันนี้เป็นเพียงตัวอย่างที่ทุกคนต้องเรียนรู้ วันนี้เราอาจจะยังพอรับได้แต่ถ้ามากกว่านี้ เราต้องเตรียมตัว เช่น ถ้าประชาชนไม่รู้ว่าส่วนราชการแจ้งมาเพราะอะไร เพราะเขาไม่เข้าใจตั้งแต่ต้น การสร้างความรับรู้นั้นสำคัญ เราต้องลงละเอียดแบบที่ตนพูด จากนั้นเมื่อเราแจ้งเตือนน้ำว่าถึงระดับไหนแล้ว อันตรายแล้วหรือไม่ จะบอกว่ารับไหวตลอดนั้นไม่ได้ ซึ่งไม่ใช่การปัดความรับผิดชอบ แต่เป็นการเปิดเผยข้อมูลให้ประชาชนทราบ พร้อมกับให้เขารู้ว่าเขาจะอยู่อย่างไร

นายกฯกล่าวต่อว่า วันนี้เราอยู่ในขั้นตอนการช่วยเหลือ ระบายน้ำ ต่อไปคือการฟื้นฟูช่วยเหลือระยะยาว ซึ่งรัฐบาลก็มีหลายมาตรการการเยียวยาออกมา ทั้งจากกระทรวงเกษตรฯ กระทรวงมหาดไทย และกระทรวงการคลัง ซึ่งเราต้องทำให้รวดเร็วและต้องเร่งสำรวจพื้นที่ ซึ่งอาจจะต้องใช้วิธีการประชาคมด้วย เดี๋ยวจะเกิดปัญหาการใช้จ่ายงบประมาณ ยืนยันว่าประโยชน์ต้องอยู่กับประชาชนเท่านั้น ส่วนประโยชน์ของรัฐบาลคือเราต้องมีเสถียรภาพ ทำให้สามารถดูแลประชาชนได้ อย่าให้ปัญหานี้ทำให้รัฐบาลมีปัญหา ต่อไปเมื่อมีน้ำท่วมเราก็มีปัญหาน้ำแล้งเพราะเราไม่สามารถกักเก็บน้ำได้ ซึ่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเคยรับสั่งไว้แล้วว่าไทยไม่ได้ขาดน้ำ แต่มีปัญหาเรื่องการกักเก็บน้ำต่างหาก อันนี้คงโทษใครไม่ได้ ตอนตนขึ้นเครื่องบินมาที่นี่ ตนมองว่าเรามีปัญหาการใช้พื้นที่ เราต้องกำหนดให้ได้ว่าพื้นที่ไหนเป็นอย่างไร ตรงไหนเป็นที่ลุ่ม ที่ดอน ที่น้ำท่วม ที่แล้งซ้ำซาก ตรงไหนเป็นทิศทางน้ำ เราต้องทำใหม่ทั้งหมด ส่วนที่ตนจะให้งบประมาณเพิ่มเติมคือส่วนอ่างเก็บน้ำห้วยทรายขมิ้น และเมื่อเราซ่อมแซมแล้วก็ต้องมีดูกันว่าจะสามารถกักเก็บน้ำได้เพิ่มหรือไม่ จาก 240 ลูกบาศก์เมตรเป็น 300 ลูกบาศก์เมตร และเราก็ต้องไปดูว่าเขื่อนตื้นหรือไม่ เพราะมันตื้นทุกที่เนื่องจากเรายังไม่ได้ขุดลอก วันนี้เราไม่มีน้ำเลยต้องรอกักเก็บใหม่ ต้องรอฝนใหม่ ดังนั้นเมื่อเรากำลังซ่อมตรงนี้ก็ขอให้ขุดลอกส่วนอื่นๆ ให้ลึกเพื่อรองรับฝนใหม่ เดี๋ยวจะให้ทหารมาช่วยจะได้ทำเสร็จเร็วขึ้น แต่ไม่ได้มาแย่งงาน

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ส่วนลำน้ำที่เราต้องให้ความสนใจเป็นพิเศษคือลําน้ำก่ำและลำน้ำอูน เพราะเป็นแหล่งที่น้ำจะลงมา ก็ขอให้ไปดูด้วยว่าเราจะเพิ่มมาตรการกักเก็บน้ำได้อย่างไร วันนี้ในเมื่อเราทำใหม่ไม่ได้ก็ต้องใช้ของเก่าไปก่อน แต่ทำให้ดีขึ้น วันหน้าเราค่อยไปดูว่าจะแก้ไขอย่างไร ยืนยันว่าการออกกฎหมายไม่ได้หวังให้ประชาชนเดือดร้อน จึงเป็นหน้าที่ของหน่วยงานที่จะชี้แจงให้ประชาชนเข้าใจ วันนี้ตนไม่ได้มาด้วยเรื่องการเมือง แต่มาด้วยความเป็นคนไทยและทหารเก่า

“วันนี้เราใช้เรื่องสูบน้ำเพื่อผลักดันน้ำถึง 40-50 เครื่อง ถามว่าหากเกิดขึ้นพร้อมๆ กันหลายจังหวัดเราจะมีเครื่องมือเพียงพอหรือไม่ ก็เดือดร้อนหมด แล้วขอร้องสื่อด้วยว่าอะไรที่ไม่ถึงกับคอขาดบาดตายอย่ามาโต้แย้งกันเลย ใช่เขื่อนแตกไม่แตก มันไร้สาระ เพราะมันเป็นเรื่องของน้ำเกินปริมาณที่เราจะรับได้ และขอให้เข้าใจว่าไม่ใช่แค่ จ.สกลนคร ที่น้ำท่วม จังหวัดอื่นก็ท่วม ประเทศอื่นก็ท่วมกันหมด เพราะมันเป็นมรสุม เป็นพายุมา จึงขอให้ทุกคนช่วยกันโดยใช้พระบารมีของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถในรัชกาลที่ 9 และพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 เราเป็นข้าราชการของพระองค์ท่านทุกพระองค์ ต้องทำงานให้สมศักดิ์ศรี ข้าราชทุกระดับต้องดูแลลูกน้องให้เยอะๆ ไม่ใช่ลูกน้องมาดูแลนาย ผมเลยไม่อยากมาไง เพราะมาก็ต้องมาดูแลนายกฯอีก ผมก็เป็นข้าราชการเหมือนๆ กับท่าน แต่ผมไม่ได้เล่นการเมือง อย่างผู้ว่าฯคราวที่แล้วมาหน้าขาว มาวันนี้หน้าดำก็เข้าใจ อาจเหนื่อย ถ้าไม่ดำล่ะมีเรื่อง เพราะคนทำงานจะหน้าขาวไม่ได้เพราะเราต้องอยู่กับประชาชน จะสบายมากล่ะมีเรื่อง เพราะเราต้องช่วยกันเหมือนนิ้วมือทั้งห้านิ้ว ฝากกำลังใจถึงพี่น้องชาวอีสานด้วย ยืนยันว่ารัฐบาลไม่ได้ทิ้งคนจน แต่ผมจะดูแลคนจนทั้งประเทศ ดูแลคนจนทุกจังหวัด แต่ทุกอย่างต้องค่อยเป็นค่อยไปไม่เช่นนั้นก็จะเกิดความเหลื่อมล้ำได้ ขอให้เข้าใจ วันนี้ไม่ต้องชมชอบรัฐบาล แต่ขอให้ชมชอบประเทศของท่านก็พอ” นายกฯกล่าว

 

ที่มา มติชนออนไลน์