นักการเมืองตัวพ่อ ชวน ไม่ร่วมรัฐบาลอิ๊งค์ เล่าเรื่องลึกตั้ง ผบ.ทบ.

ชวน ไม่ร่วมรัฐบาลอิ๊งค์ เล่าเรื่องลึก แต่งตั้ง ผบ.ทบ.

หลังโปรดเกล้าฯ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี ผ่านไปแล้ว 8 วัน พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ยังรอยืนยัน การร่วมรัฐบาลอย่างระทึก

ท่ามกลางข่าวการเมืองที่ท่วมกระดานหุ้น ระหว่างพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กับพรรคประชาธิปัตย์ ส่วนเสี้ยวของพรรคไหนจะได้เข้าร่วมรัฐบาล

เพราะทั้ง 2 พรรค แตกเป็นเป็น 2 เสี้ยว กรณีพลังประชารัฐ มีเสี้ยวที่เสนอชื่อรัฐมนตรี ตามมติพรรคของพลเอก-แต่อีกเสี้ยว เสนอชื่อรัฐมนตรี ตามมติของผู้กอง โดยจะใช้แท็กติก “โควตาคนนอก” เพื่อหลบกติกาของ ป.ป.ช. และป้องกันการถูกร้องเรียน

ส่วนเสี้ยวใหญ่ของประชาธิปัตย์ มากที่สุดก็คงต้อง “เห็นชอบ” ให้ส่งชื่อรัฐมนตรี เข้าร่วมรัฐบาล เสี้ยวที่เล็กยิ่งกว่าเล็กคือ ส่วนที่ “ไม่เห็นชอบ” แต่ต้อง “งดออกเสียง”

แต่สำหรับ นายชวน หลีกภัย วัย 86 ปี อดีตนายกรัฐมนตรี-อดีตประธานรัฐสภา 2 สมัย อยู่ในวงการเมืองมาตั้งแต่อายุครบเกณฑ์ 30 ปี เป็น สส.มาแล้ว 17 สมัย ใช้สิทธิลงมติ “งดออกเสียง” ให้แพทองธาร เป็นนายกรัฐมนตรี แต่ออกเสียงนอกพรรคกึกก้องทั่วทั้งสภาผู้แทนราษฎร ไปแล้วว่า “ไม่เห็นชอบ” ในการ “ร่วมรัฐบาล”

ความเป็นนักการเมืองระดับ “ตัวพ่อ” เขาไม่ฝืนมติพรรค แต่ยืนยัน “หลักการ” ของตัวเองอย่างแข็งขัน “ไม่เห็นด้วยกับการร่วมรัฐบาล” ด้วยเหตุผล ดังนี้

ADVERTISMENT
  • ไม่อยากทรยศคนใต้ เพราะเคยรณรงค์ให้ประชาชนในภาคใต้ไม่เลือกพรรคเพื่อไทย
  • รักษาคำพูด คำไหนคำนั้น เคยยึดหลักการว่า พรรคชนะที่ 1 ต้องได้ตั้งรัฐบาล ประชาธิปัตย์เคยแพ้ 2 เสียง ก็ไม่จัดตั้ง
  • เป็นนัการเมืองตัวจริง ไม่ใช่นักฉวยโอกาส ไม่ใช่นักกินเมือง ไม่ใช่นัดปล้นเมืองโกงเมือง
  • รู้สึกเจ็บร้อนแทนพรรคประชาธิปัตย์ ที่มีเกียรติยศมีศักดิ์ศรีมายาวนาน ไม่เคยถูกประณามว่า เป็นพรรคอะไหล่ พรรคที่คอยเสียบ

ชวน หลีกภัย ในฉายา “มีดโกนอาบน้ำผึ้ง” ติดตัวเขามาตังแต่การเข้าเป็น สส.สมัยแรก วัย 30 ปี ในยุคจอมพลถนอม กิตติขจร เป็นนายกรัฐมนตรี ด้วยการอภิปรายไม่ไว้วางใจเรื่อง “งบฯราชการลับ” ของกระทรวงกลาโหม

การบริหาราชการแผ่นดิน ที่อาจกล่าวได้ว่าเป็นการเริ่มต้น “ปฏิรูปกองทัพ” เริ่มต้นขึ้นเมื่อ นายชวน เป็นนายกรัฐมนตรี ควบ รมว.กลาโหม ในช่วงหลังวิกฤตต้มย้ำกุ้ง ครั้งนั้น รมว.กลาโหมใช้ “งบฯลับ” ไม่หมดทั้งก้อน แต่กลับเหลือคืนส่งกระทรวงการคลัง เป็นเงินของแผ่นดิน

ADVERTISMENT

ชวน หลีกภัย ให้สัมภาษณ์ “optimise magazine” เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งประธานรัฐสภา ไว้ว่า ยุคที่เขาเป็น รมว.กลาโหม เขาสั่งตัดงบฯของกองทัพ สั่งยุบสำนักงานผู้ช่วยทูตทหารในต่างประเทศ ลดจำนวนนายพลลง 80,000 อัตรา และปรับเกณฑ์การขึ้นเป็นนายพลใหม่ สั่งให้กองทัพอากาศคืนเครื่องบินขับไล่ F-18 ทั้งฝูงที่สั่งซื้อจากสหรัฐอเมริกา

ความเป็นนักการเมืองตัวพ่อ ไม่ว่าใครพาดพิงนักการเมือง ชวน หลีกภัย จะขุดเรื่องเก่ามาเล่าเพิ่ม ไม่เว้นกรณีการแต่งตั้ง อดีตผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.)

“ตอนเป็นรัฐมนตรีกลาโหม ผมตั้ง พลเอกสุรยุทธ์ จุลานนท์ เป็น ผบ.ทบ. ทั้งที่ท่านไม่อยู่ในกลุ่ม 5 เสือ ผมเรียกปลัดกระทรวงมา เรียกผู้บัญชาการสูงสุดมาว่าคนไม่อยู่ใน 5 เสือตั้งเป็น ผบ.ทบได้ไหม ถามป๋า (พลเอกเปรม) ถามนาวาตรีประสงค์ สุ่นศิริ ทุกคนบอกได้ เราเห็นแล้วว่าคนนี้ซื่อสัตย์สุจริต มาช่วยกันปรับกองทัพ”

“ผมไม่ยอมให้พ่อค้าขายอาวุธเข้ามายุ่งเลย ยกเลิกนายพลแดดเดียว แบบตั้งนายพลวันนี้ พรุ่งนี้ปลด ให้ผลัดกันเป็น พลเอกชวลิต (ยงใจยุทธ) มาเตือนเลยนะว่า นายกฯ ทำอย่างนี้ไม่พ็อปพูลาร์นะ ทหารเขาไม่ชอบ ผมบอก ผมรู้พี่ แต่ว่าถ้าผมไม่ทำ ใครจะทำ พี่นั่นแหละเป็นคนพูดว่ากองทัพต้อง ‘จิ๋วแต่แจ๋ว’ แต่พี่ทำไม่ได้เพราะพี่มีรุ่น ผมไม่มีรุ่น ไม่ใช่ จปร. เลยทำได้ไม่ต้องเกรงใจใคร”

“ผมถามพลเอกสุรยุทธ์ว่าจะปรับสิ่งเหล่านี้ต้องใช้เวลากี่ปี ท่านบอกว่าใช้เวลา 4 ปี ท่านก็ได้อยู่ 4 ปี น่าเสียดาย พอพ้นยุคเราไปแล้ว นายพลแดดเดียวเกิดมากมาย ปกติแม่ทัพภาคคนหนึ่งเป็น 2 ปี นี่ 8 เดือน เปลี่ยน 6 เดือน เปลี่ยน ยังไม่ได้ทำงานเลย ภาคใต้ถึงได้เละหมด”

แม้ว่าเรื่องราวหลายเหตุการณ์ในอดีต มี “บริบท” ในขณะนั้นกำกับ แต่ความเป็นนักการเมืองทุกเม็ด ของนายชวน หลีกภัย เขาจึงไม่เคยลืม ทุกเรื่อง-ทุกเม็ด

“…ผมเสียดายว่าบางเรื่องพอผมพ้นตำแหน่งไปแล้ว นโยบายก็เปลี่ยน อย่างสมัยท่านพลเอกสุรยุทธ์เป็นนายกฯ ท่านก็ไม่ให้นักการเมืองมายุ่งเกี่ยวกับการโยกย้าย แต่ความจริงตัวท่านเองได้เป็น ผบ.ทบ. ก็เพราะนักการเมือง เพราะถ้าไม่มีผม ท่านก็ไม่ได้เป็น พลเอกเชษฐา ฐานะจาโร ไม่ได้เสนอชื่อท่านเป็น ผบ.ทบ. ผมเป็นคนเชิญท่านเชษฐามาคุยว่า ให้เสนอชื่อพลเอกสุรยุทธ์ เพราะถ้าไม่เสนอ ผมจะเปลี่ยนชื่อเอง เพราะอำนาจยังอยู่ที่ผม…”

“…แล้วผมก็เชิญคนที่พลเอกเชษฐาตั้งใจจะเสนอเข้ามา บอกว่า ท่านไปขอบคุณพลเอกเชษฐาเสีย เพราะพลเอกเชษฐาเสนอชื่อท่าน แต่ผมเป็นคนเปลี่ยน ท่านจะเอาตำแหน่งอื่นแทนไหม ท่านก็ตกใจ ไม่คิดว่าผมจะตรงไปตรงมาขนาดนี้ เรื่องอื่นผมไม่พยายามไปแทรกแซงอะไรทั้งสิ้น แต่บอกให้มีความเป็นธรรม มีวันหนึ่ง ปลัดกระทรวงมาหาแล้วบอกว่า ท่านครับ คนนี้เป็นญาติของคุณทักษิณ ชินวัตร จะขึ้นมาได้ยศนี้ ท่านว่าอย่างไร ผมบอกไม่ต้องมาขออนุญาต ดูว่าอาวุโสถึงไหม แล้วมีพฤติกรรมที่มีปัญหาไหม ถ้าไม่มีปัญหา ก็ตั้งไปได้เลย”

คำว่า “นักการเมือง” สำหรับนายชวน หลีกภัย คืออาชีพที่ถ้าใครจะด่า ต้องระบุตัวตน เพราะเขามักจะพูดเสมอว่า ทุกอาชีพ ทุกวงการมีทั้งคนดีและไม่ดี นักการเมืองก็เช่นกัน

“…ส่วนตัวผมเชื่อว่าตัวบุคคลกับสถาบัน มันต้องแยกให้ออก ทุกองค์กรล้วนมีดีและร้าย เราไปยึดว่าอาชีพนั้นไม่ดี ไปเหมาว่าทุกคนต้องมีปัญหาหมดไม่ได้ อย่างท่านประยุทธ์ (จันทร์โอชา) ท่านก็วิจารณ์นักการเมืองในทางลบตลอดมา ผมก็ท้วง ตอนนั้นมีงานในวังนั่งติดกัน ผมก็พูดเลยว่าท่านว่านักการเมืองไม่ดี มันก็มีจริงนะท่าน ทหารเลวก็มีนะท่าน ผมไม่ได้เหมารวม แต่เวลาท่านพูดท่านไม่เคยยกเว้น เพราะนักการเมืองที่ดีก็มี มันผิดข้อเท็จจริง พูดกันหนักเลย ปลัดตกใจเหมือนกัน”

“แล้วนับแต่นั้นเป็นต้นมา พลเอกประยุทธ์ ก็ไม่เคยมาด่านักการเมืองเลย จริง ๆ แล้วมันอยู่ที่คน เหมือนพลเอกสุรยุทธ์แก้ พ.ร.บ.จัดระเบียบราชการกระทรวงกลาโหม ห้ามนักการเมืองเข้ามาแต่งตั้งนายทหารระดับสูง แต่ลืมนึกไปว่า ที่ท่านได้เป็น ผบ.ทบ.เพราะนักการเมือง ดังนั้น มันอยู่ที่คน มันอยู่ที่คนเรามองอะไรยุติธรรมหรือไม่เท่านั้นเอง”