
นายกฯ ลงพื้นที่เมืองคอนแล้ว ประชุม 5 ผู้ว่าฯภาคใต้ติดตามสถานการณ์น้ำท่วม เผย รบ.จัดการเร็ว จ่ายเยียวยาแล้ว 80% คาดหลัง 20 ธ.ค. สถานการณ์จะดีขึ้น กำชับ จนท.เตรียมพร้อม ‘น้ำ-ไฟ’ รับคนกลับบ้าน
น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ภารกิจแรกในการลงพื้นที่ จ.นครศรีธรรมราช เป็นประธานการประชุมติดตามสถานการณ์อุทกภัยและสั่งการช่วยเหลือผู้ประสบภัยในพื้นที่ภาคใต้ โดยมีนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และ รมว.มหาดไทย น.ส.ซาบีดา ไทยเศรษฐ์ รมช.มหาดไทย ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
นายกฯ กล่าวว่า วันนี้ดีใจมากที่มีโอกาสได้มาที่จังหวัดนครศรีธรรมมราช ทราบว่าผู้ว่าฯ ทุกจังหวัดจะต้องอยู่ในพื้นที่ของตัวเอง ซึ่งถือเป็นสิ่งสำคัญที่ต้องดูแลพื้นที่ให้ดี ที่ผ่านมารัฐบาลได้ติดตามสถานการณ์น้ำท่วมอย่างใกล้ชิดและได้รับรายงานโดยตรงจากหน่วยงานที่รับผิดชอบทุกหน่วย เพราะฉะนั้นถือว่าเหตุการณ์น้ำท่วมภาคใต้ทุกคนสามารถจัดการได้อย่างรวดเร็วมาก ๆ รัฐบาลได้ลงพื้นที่ทันทีตอนที่เกิดน้ำท่วมในช่วงแรก ถือว่าเป็นความช่วยเหลือที่เข้าถึงประชาชนได้อย่างรวดเร็ว และได้รับรายงานอีกประมาณไม่เกินวันที่ 20 ธ.ค. น้ำน่าจะแห้งทั้งหมด เพราะวันนี้มีฝนตกแค่ช่วงเช้า ถือว่าเป็นเรื่องที่ดีมาก ๆ
ทั้งนี้ ได้รับรายงานว่า ปัจจัย 4 ในการช่วยเหลือประชาชนเพียงพอ และสิ่งที่มีความสำคัญตั้งแต่ตอนที่เกิดเหตุการณ์น้ำท่วมทางภาคเหนือและภาคอีสาน รัฐบาลให้ความสำคัญกับชีวิตของประชาชนเป็นสิ่งแรก ที่เราจะต้องรักษาและดูแลเรื่องนี้ให้ดี
นายกฯ กล่าวต่อว่า ปัจจัย 4 อาหาร ยารักษา รองนายกฯจัดการทั้งหมด และทุกกระทรวงส่งความช่วยเหลือเข้ามา ต้องขอขอบคุณทุกภาคส่วนและทุกหน่วยงานที่ลงดูแลประชาชนอย่างเต็มที่ ที่ผ่านมาได้มอบหมายให้กระทรวงมหาดไทย กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ในการบริหารจัดการสถานการณ์ระดมความช่วยเหลือจากทุกภาคส่วน เร่งแก้ไขสถานการณ์ให้กลับเป็นปกติ
นอกจากนี้ เครื่องมือที่มีไม่เพียงพอ ทางกระทรวงมหาดไทยได้ประสานหน่วยงาน ต้องขอขอบคุณทุกหน่วยงานที่ช่วยกันอย่างเต็มที่ โดยเฉพาะผู้ว่าราชการจังหวัด
“ขอให้กำลังใจทุกคน เหตุการณ์ใกล้จะผ่านไปแล้ว และการเยียวยาถึงมือพี่น้องประชาชนแล้ว 80 กว่าเปอร์เซ็นต์ ถือว่าเร็วและดีมาก ๆ กว่าตอนที่เราอนุมัติงบฯ เยียวยาในภาคเหนือ ที่ขณะนี้เยียวยาไปได้แล้ว 99 เปอร์เซ็นต์ เหลืออีก 1 เปอร์เซ็นต์ที่ยังต้องยืนยันตัวตน” นายกฯ กล่าว
จากนั้น นายอนุทินกล่าวว่า ตั้งแต่มีสถานการณ์น้ำท่วมที่ภาคเหนือ จนถึงภาคใต้ ได้รับการสนับสนุนอย่างดีจากนายกฯ โดยเฉพาะการช่วยเหลือประชาชนในการคลายทุกข์ บรรเทาทุกข์ โดยนายกรัฐมนตรีได้อนุมัติงบประมาณฉุกเฉินในการช่วยเหลือประชาชนด้วยความรวดเร็ว และลงไปในพื้นที่ ถือเป็นขวัญและกำลังใจให้กับผู้ปฏิบัติงาน และการที่ได้ลงพื้นที่ประชาชนอดทนและเข้าใจ
รวมถึงซาบซึ้งที่รัฐบาลได้เร่งจัดการแก้ไข ตนคิดว่าไม่ใช่เรื่องอื่นมากไปกว่าการที่นายกฯ ได้เทคแอ็กชั่น จนกระทั่งสถานการณ์ได้เลื่อนลงมาจากภาคเหนือ ภาคอีสาน และภาคใต้ ซึ่งในภาคใต้จะประสบปัญหาเรื่องการไหลหลากของน้ำ รวมไปถึงดินโคลนถล่ม หากน้ำระบายได้สถานการณ์น้ำจะกลับคืนสู่ปกติโดยเร็วที่สุด แต่สิ่งสำคัญที่สุด นายกฯไม่ได้ชะลอเรื่องการช่วยเหลือประชาชน โดยได้ติดตามสถานการณ์ระหว่างเยือนมาเลเซีย ตนในฐานะผู้บัญชาการสถานการณ์ขอขอบคุณนายกฯ
จากนั้นนายกฯ สั่งการเพิ่มเติมว่า เข้าใจประชาชนเวลาที่ต้องรอมันยาวนาน รัฐบาลจึงเร่ง และนี่เป็นสิ่งที่อย่างน้อยรัฐบาลได้ช่วยสนับสนุน เพราะเมื่อเกิดสถานการณ์แล้วได้มีการอนุมัติงบฯ ลงไปก็เกิดความอุ่นใจ และไม่ต้องไปรอลุ้นว่าเมื่อได้รับผลกระทบแล้วจะได้รับเงินเยียวยาเท่าไหร่ แต่ทั้งนี้ก็ต้องผ่านความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรี (ครม.) ซึ่งก็ต้องขอขอบคุณ ครม.ด้วย และขอบคุณทุกภาคส่วนไม่ว่าจะเป็นข้าราชการ ทหาร ตำรวจ มูลนิธิ จิตอาสา ต่าง ๆ เพราะเวลาเกิดสถานการณ์น้ำท่วมไม่ว่าที่ไหนก็ตาม เมื่อเราระดมความช่วยเหลือจะสามารถลดทอนสถานการณ์ได้อย่างรวดเร็ว และได้เห็นน้ำใจของคนไทยยามยาก
นายกฯ กล่าวอีกว่า ขอเน้นย้ำว่าชีวิตของประชาชนเป็นเรื่องที่สำคัญที่สุด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของอาหาร ยา สถานที่พักพิง หรือศูนย์พักพิง ขอให้ดูแลประชาชนอย่างเต็มที่ ให้รู้สึกสบายกายและสบายใจ เพราะการที่เขาย้ายออกมาจากบ้านตัวเองก็มีความลำบากอยู่แล้ว จึงขอให้ทุกหน่วยงานช่วยกันดูแลเรื่องนี้อย่างดีที่สุด เมื่อเหตุการณ์บรรเทาลงแล้วก็จะได้กลับบ้าน และมีแรงในการซ่อมแซมบ้าน หากติดขัดรองนายกฯ อยู่หน้างานสามารถประสานงานกับทุกภาคส่วนในพื้นที่ได้ หากขาดเหลืออะไรก็ขอให้บอกมา
นายกฯ กล่าวต่อว่า ส่วนพื้นที่เสี่ยงภัย การแจ้งเตือนภัยขอให้ชัดเจน และทั่วถึง โดยเฉพาะสถานที่ท่องเที่ยวทั้งจังหวัดสุราษฎร์ธานี สงขลา ตรัง สตูล และยะลา เรื่องการแจ้งเตือนขอให้ทั่วถึง ชัดเจน และอย่างที่คาดการณ์กันไว้ว่าในวันที่ 20 ธ.ค.นี้ สถานการณ์จะดีขึ้น ก็ขอให้ระดมความช่วยเหลือทั้งน้ำและไฟ ขอให้กลับมาโดยเร็วที่สุด อะไรที่สามารถทำล่วงหน้าได้ก็ให้ทำเผื่อไว้ เมื่อน้ำไปแล้วทุกอย่างจะได้กลับมาเป็นปกติโดยเร็ว ขอให้วิกฤตนี้ผ่านไปโดยเร็วที่สุด