เมื่อวันที่ 27 ธันวาคม น.ส.รสนา โตสิตระกูล อดีต ส.ว.กทม.และอดีตสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ โพสต์ข้อความทางเฟซบุ๊กเรื่อง “ป.ป.ช. แกล้งมือตกสอบนาฬิกาหรู ใช่หรือไม่ !?” ระบุว่า
การที่ ป.ป.ช. ยกคำร้องเรื่องนาฬิกาของ พล.อ ประวิตร วงษ์สุวรรณ โดยอ้างว่านาฬิกาทั้งหมดที่ พล.อ ประวิตรใส่เป็นการยืมเพื่อนคือนายปัฐวาสนั้น แล้วปิดคดีไปดื้อๆ แสดงการมือตกของ ป.ป.ช. ซึ่งไม่ใช่การตรวจสอบแบบมืออาชีพ ใช่หรือไม่
- ประกาศแล้ว! พระราชกฤษฎีกาเงินช่วยค่าครองชีพผู้รับเบี้ยหวัดบำนาญ รับ 11,000 บาทต่อเดือน
- บังคับใช้แล้ว! หลักเกณฑ์การดำเนินงาน 30 บาทรักษาทุกที่ ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว
- อะไรทำให้ “ทองคำ” แพง สงคราม หรือการเก็งกำไร ?
ป.ป.ช แถลงว่า “จากการตรวจสอบการสำแดงราคานาฬิกา ปรากฏข้อเท็จจริงว่า นายปัทวาส สุขศรีวงศ์ มีนาฬิกาเป็นจำนวนมาก ได้ให้เพื่อนในกลุ่มโรงเรียนยืมนาฬิกาไปใส่เป็นประจำ มีนาฬิกาที่ตรวจสอบ 22 เรือน พบหลักฐาน 21 เรือน และพบว่าเป็นผู้ซื้อในต่างประเทศ 1 เรือน ซื้อต่อ 1 เรือน ที่เหลือไม่พบหลักฐาน โดยทางกรมศุลฯไม่สามารถตรวจพบได้”
ข้อมูลที่ตรวจสอบแสดงว่านาฬิกา 21 เรือน นำเข้ามาโดยผิดกฎหมาย ไม่ได้มีการเสียภาษีนำเข้าอย่างถูกต้อง ซึ่งต้องยึดนาฬิกาทั้งหมดให้ตกเป็นของแผ่นดินเฉกเช่นเดียวกับที่กรมศุลกากรจับและยึดคนนำเข้านาฬิกาหรูโดยหลบเลี่ยงการเสียภาษี ป.ป.ช. จะทำหรือไม่?
ข้ออ้างว่า พลเอกประวิตรยืมนาฬิกาเพื่อนใส่เป็นประจำ จนกระทั่งเพื่อนตายแล้วเมื่อต้นปี แต่ปลายปีแล้ว พล.อ ประวิตรก็ยังใส่นาฬิกานั้นอยู่ ป.ป.ช. วินิจฉัยกรณีนี้ไว้อย่างไร
นอกจากนี้ ป.ป.ช. มีการคำนวณผลประโยชน์ที่ พล.อ ประวิตรได้รับจากการยืมนาฬิกาว่ามีมูลค่าเกิน 3,000 บาทตามข้อห้ามของกฎหมาย ป.ป.ช.หรือไม่? และ ป.ป.ช.ได้นำประเด็นนี้มาตรวจสอบด้วยหรือไม่ ?
กรณีที่นายสุพจน์ ทรัพย์ล้อม อ้างว่ายืมรถคนอื่นมาใช้ โดยที่ทะเบียนรถก็เป็นชื่อของคนอื่นจริงๆ แต่ ป.ป.ช. ก็ยังไม่เชื่อ และทำสำนวนส่งฟ้องศาลฯ แต่เหตุใดกรณีนี้จึงเชื่อง่ายๆ ว่า นาฬิกาที่พลเอกประวิตรใส่ เป็นการยืมเพื่อน ทั้งที่นาฬิกาดังกล่าวไม่มีเอกสารยืนยันว่าเป็นของใคร
การผ่านพิธีกรรมตรวจสอบแล้วปิดคดีดื้อๆ ไปแบบนี้ จะถือได้หรือไม่ว่าเป็นการใช้อำนาจตามอำเภอใจ เพราะเข้าใจผิดว่าอำนาจเป็นของตน จะใช้อย่างไรก็ได้ ใช่หรือไม่?
การใช้อำนาจต้องมีเหตุผลรองรับที่วิญญูชนรับฟังได้ ดังนั้น ป.ป.ช.ควรมีการเปิดเผยคำวินิจฉัยส่วนตนของคณะกรรมการ ป.ป.ช. ทั้ง 8 ท่าน ระหว่างเสียงข้างมาก 5 ท่านที่ให้ยกคำร้องว่าไม่มีมูล และเสียงข้างน้อย 3 ท่าน ว่าให้มีการหาข้อมูลเพิ่มนั้น กรรมการทั้ง 8 ท่าน ให้เหตุผลไว้อย่างไรบ้าง?
คดีนี้เป็นคดีอื้อฉาวที่สังคมให้ความสนใจอย่างสูง การตัดสินคดีที่ขัดสายตาประชาชนผู้เสียภาษีทั้งประเทศเช่นนี้ ย่อมนำความเสื่อมมาสู่องค์กรตรวจสอบคอร์รัปชั่นระดับชาติอย่าง ป.ป.ช. ใช่หรือไม่?