ปิดประตู พรรคทักษิณ เป็นรัฐบาล เพื่อไทยและพวก เหมือนจะชนะ…แต่แพ้

วันเลือกตั้ง 24 มี.ค. งวดเข้ามาทุกขณะ เกมเดิมพันชิงแต้มเลือกตั้งเดินหน้าอย่างเข้มข้นระหว่างพรรคฝ่ายที่เรียกตัวเองว่า “ฝ่ายประชาธิปไตย” อันประกอบด้วย เพื่อไทย-ไทยรักษาชาติ-อนาคตใหม่-เสรีรวมไทย-ประชาชาติ -เพื่อชาติ

กับพรรคฝ่ายที่สนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรี อย่าง พรรคพลังประชารัฐ พรรครวมพลังประชาชาติไทย และพรรคที่ยังสงวนท่าทีจนถึงหลังเลือกตั้ง

ทว่าก่อนถึงวันเปิดหีบลงคะแนน เป็นฝ่ายประชาธิปไตยที่เพลี่ยงพล้ำไปก่อน โดยเฉพาะกับพรรคไทยรักษาชาติ (ทษช.) เพราะเสนอชื่อที่ “มิบังควร” เป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี

เป็นเหตุให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญยุบพรรค แม้ ทษช.จะยื่นพยานไป 19 ปาก เป็นกรรมการบริหารพรรค 14 ปาก และบุคคลภายนอก 5 ปาก พร้อมข้อต่อสู้ 20 หน้ากระดาษ เป็นข้อต่อสู้ในชั้นศาล แต่ศาลเปิดโอกาสให้คู่กรณี แถลงปิดคดีด้วยวาจาเท่านั้น

เบื้องต้นฝ่าย ทษช.วางตัว “ร.ท.ปรีชาพล พงษ์พานิช” หัวหน้าพรรคแถลงปิดคดี และตัดสินทันทีในวันที่ 7 มี.ค.

“สุรชัย ชินชัย” ทนายความต่อสู้คดียุบพรรค ทษช.ประเมินคำตอบของศาลว่า คาดว่าจะมีคำตัดสิน 2 แนวทาง คือ ยกคำร้อง หรือยุบพรรคก็เป็นได้ “เมื่อคำวินิจฉัยสิ้นสุดแล้วก็ถือเป็นที่สิ้นสุด ไม่สามารถยื่นคำร้องหรืออุทธรณ์ใด ๆ ได้อีก เราเคารพศาล”

หากในวันที่ 7 มี.ค. ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยยุบ ทษช. กรรมการบริหารทั้ง 14 คน มีสิทธิถูกเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งตลอดชีวิต ตามที่บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญ กับพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง 2560

ข้อสำคัญคือ ผู้สมัครของ ทษช.ทั้ง 175 คนในระบบเขต และ 108 คนในปาร์ตี้ลิสต์จะหมดสิทธิลงเลือกตั้ง

สถานะพรรคชี้ขาดชัยชนะฝ่ายประชาธิปไตย ที่ต่อสู้กับเผด็จการในเกมเลือกตั้ง ตามที่ “จาตุรนต์ ฉายแสง” ประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์พรรค ตั้งเป้าไว้ อาจไม่เป็นไปตามคาด

“ถ้า ทษช. ล้มเหลว ผมคิดว่ายากมากที่พรรคการเมืองฝ่ายประชาธิปไตยจะถึงขั้นได้ตั้งรัฐบาล” จาตุรนต์ กล่าว 

เพราะก่อนเจอวิบากกรรม ทษช.ถูกวางไว้ให้มีสถานะเป็น “พรรคน้อง” คอยเก็บแต้มปาร์ตี้ลิสต์ให้กับพรรคพี่-เพื่อไทย ตามที่เคยตั้งเป้าไว้ว่าจะได้ ส.ส.อย่างน้อย 50 ที่นั่ง เป็นแต้มต่อให้ฝ่ายประชาธิปไตย เมื่อถูกยุบ…แผนแตกแบงก์พันเป็นแบงก์ร้อยก็ถูกพับเก็บ

กระทบถึงพรรคพี่-เพื่อไทย ที่ส่งผู้สมัครเขตแค่ 250 ที่ บวกกับปาร์ตี้ลิสต์แค่ 97 คน เพราะหวังพรรคน้อง “ทษช.” เก็บคะแนนให้ แต่เมื่อพรรคน้องมีสิทธิ์หายไปทั้งยวง จึงต้องแก้เกมกันใหม่

ทีมหัวกะทิในเพื่อไทย วิเคราะห์สถานการณ์ว่า หาก ทษช.สูญพันธุ์จริง อาจใช้สูตร “โอนคะแนน” ในที่ที่ไม่มีผู้สมัครของเพื่อไทย จูงใจให้โหวตเตอร์เทคะแนนไปให้กับพรรคฝ่ายประชาธิปไตยด้วยกัน ไม่ว่าอนาคตใหม่ เพื่อชาติ เสรีรวมไทย เพราะทั้ง 3 พรรค ส่งผู้สมัครแทบทุกเขตเลือกตั้ง

แต่มีอีกแผนที่เริ่มมีกันพูดถึงในหมู่นักการเมืองเพื่อไทยคือ ใช้แผนจูงใจให้โหวตเตอร์กาช่อง “ไม่ประสงค์ลงคะแนน” เพื่อให้คะแนน “โหวตโน” มากกว่าคะแนนผู้สมัครในเขตเลือกตั้ง

เป้าหมายเพื่อให้ กกต.เปิดการเลือกตั้งใหม่ ซึ่งทำให้ผู้สมัครรับเลือกตั้งเดิมไม่มีสิทธิลงสมัครใหม่ได้ เปิดทางให้ “เพื่อไทย” ได้ส่งผู้สมัครได้ใหม่แทนผู้สมัครของ ทษช. แต่ยังไม่มีอะไรการันตีว่าแผนนี้จะสำเร็จเมื่อนำไปปฏิบัติ

หากสุดท้าย “เพื่อไทย” อาจต้องเผชิญกับอิทธิฤทธิ์ กกต.หลังปิดหีบ 24 มี.ค. เพราะคดีที่ “ทักษิณ ชินวัตร” อดีตนายกฯ คนแดนไกล ครอบงำพรรคเพื่อไทยกำลังเดินหน้าต่อเนื่อง ล่าสุดกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) บางรายย่องไปฉายคอนเซ็ปต์ของรัฐธรรมนูญ เรื่อง “ครอบงำ” พรรคให้ กกต.ฟังแล้ว

ไม่ต่างกับ “พรรคอนาคตใหม่” ที่ “ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ” เป็นแม่ทัพ ยังต้องเสียวอีกหลายยก เพราะเจอเรื่องกับข้อหาความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ มาตรา 14 (2) ฐานนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ กรณีจัดรายการคืนวันศุกร์ให้ประชาชนผ่านเฟซบุ๊กไลฟ์ วิจารณ์พลังดูดของ คสช. ซึ่งอัยการเลื่อนการพิจารณาสั่งฟ้องไป 26 มี.ค. หลังเลือกตั้ง ซึ่งเข้าสู่ช่วงหน้าสิ่วหน้าขวานในการจัดตั้งรัฐบาล

ฝ่ายที่เรียกตัวเองว่าฝ่ายประชาธิปไตย ซึ่งถูกมองว่าอยู่ฝ่ายเครือข่ายทักษิณ ยังต้องฝ่าพงหนามอีกหลายยก กว่าจะถึงเส้นชัยเพื่อต่อกรกับฝ่ายหนุนลุงตู่…

 

ไม่พลาดข่าวสารเศรษฐกิจ เจาะลึกทุกประเด็นทั้งภาครัฐ-เอกชน เพิ่มเราเป็นเพื่อนที่ Line ได้เลยพิมพ์ @prachachat หรือ คลิกลิงก์ https://line.me/R/ti/p/@prachachat 

หรือจะสแกน QR Code ในรูป เราพร้อมเสิร์ฟข่าวเศรษฐกิจ-ธุรกิจถึงมือผู้อ่านทันที!