“เพื่อไทย”รับสภาพ สู้กติกาไม่ไหว มีมติไม่ส่งแคนดิเดตพรรคชิงนายกฯ พร้อมยกมือให้ธนาธร

“เพื่อไทย” มีมติ ไม่ส่งแคนดิเดตของพรรคชิงนายกฯ ลั่น พร้อมยกมือหนุนคนที่ 7 พรรคเสนอ

เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 4 มิถุนายน ที่พรรคเพื่อไทย (พท.) แกนนำพรรค อาทิ พล.ต.ท.วิโรจน์ เปาอินทร์ หัวหน้าพรรค นายปลอดประสพ สุรัสวดี รองหัวหน้าพรรค นายภูมิธรรม เวชยชัย เลขาธิการพรรค นายชูศักดิ์ ศิรินิล ประธานคณะทำงานฝ่ายกฎหมายพรรค เป็นต้น เรียกประชุม ส.ส.ทั่วประเทศ เพื่อรับฟังความคิดเห็นและขอมติจากที่ประชุมว่าจะส่งบุคคลของพรรคเข้าชิงตำแหน่งนายกฯ หรือไม่ในการประชุมรัฐสภาเพื่อโหวตเลือกนายกฯ ในวันที่ 5 มิถุนายน โดยที่ประชุมใช้เวลาหารือนานกว่า 2 ชั่วโมง

จากนั้นเวลา 16.00 น. นายภูมิธรรม เวชยชัย เลขาธิการพรรค นายชูศักดิ์ ศิรินิล ประธานคณะทำงานฝ่ายกฎหมาย และนางลดาวัลลิ์ วงศ์ศรีวงศ์ โฆษกพรรค แถลงภายหลังการประชุมส.ส.พรรคว่า ที่ประชุมได้มีการพูดคุยใน 2 เรื่องใหญ่ๆ คือ 1.การทำหน้าที่ในสภาเพื่อโหวตนายกฯในวันที่ 5 มิถุนายน และ 2.การตัดสินใจส่งบุคคลชิงนายกฯหรือไม่ ซึ่งแม้พรรคพท. จะได้ส.ส.เป็นอันดับหนึ่งแต่ไม่สามารถที่จะจัดตั้งรัฐบาลได้ เนื่องจากกติกาที่พิกลพิการ เราจึงจำเป็นที่จะต้องประสานกับพรรคต่างๆ ซึ่งพรรคได้ตั้งเป้าหมายไว้ คือ ไม่ให้มีการสืบทอดอำนาจ แก้รัฐธรรมนูญโดยเฉพาะการให้ส.ว.โหวตเลือกนายกฯ และกฎกติการต่างๆที่ถูกออกแบบมาให้เป็นอุปสรรคต่อการเลือกตั้งเราเข้าใจดีว่าประชาชนหลายล้านคนในพื้นที่ต่างๆจาก 136 เขตเลือกตั้ง อยากสนับสนุนพรรคพท.ให้เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล แต่ด้วยกติกาที่เป็นอยู่ทำให้เราไปไม่ถึงเป้าหมาย เราจึงจำเป็นต้องรักษาความร่วมมือของทั้ง 7 พรรคเอาไว้ ดังนั้นเราจึงมีมติว่าในการโหวตเลือกนายกฯในวันที่ 5 มิถุนายน พรรคพท.จะไม่เสนอชื่อแคนดิเดตนายกฯแข่งในสภาและจะสนับสนุนแนวทางของทั้ง 7 พรรคที่เปิดโอกาสให้ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ (อนค.) ได้แข่งขันกับพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เรายังรักษาเรายังรักษาสัญญาที่ให้ไว้ว่า จะไม่เป็นเงื่อนไข โดยไม่ขอรับตำแหน่งใดๆทั้งสิ้น เพื่อทำให้แนวร่วมที่จับร่วมมือกันได้ หาทางคลี่คลาย กฎกติกา รัฐธรรมนูญที่เป็นปัญหา เป็นอุปสรรคของประเทศ

เมื่อถามว่า การที่พรรคไม่เสนอชื่อบุคคลเป็นนายกรัฐมนตรีจะตอบชาวบ้านอย่างไร นายภูมิธรรม กล่าวว่า เรื่องนี้ที่ประชุมถกเถียงกันมาก แต่คิดว่าชาวบ้านเข้าใจเพราะประชาชนอยากเห็นการเปลี่ยนแปลงไม่อยากเห็นพล.อ.ประยุทธ์ ยังทำหน้าที่อยู่

เมื่อถามว่า ส.ส.อีสานต้องการให้พรรคส่งคุณหญิงสุดารัตน์ ลงแข่งขันในนามพรรค นายภูมิธรรม กล่าวว่า ที่ประชุมมีเสียงแตกเป็นหลายส่วนแต่เมื่อพิจารณาแล้วว่าเราต้องหวงแหนความร่วมมือกันของทั้ง 7 พรรคเอาไว้เพื่อแก้ไขปัญหาในอนาคตทุกคนก็เห็นพ้องตรงกันว่าจะต้องเกินไปตามมติของพรรค สำหรับนายชัชชาติ หลังจากนี้จะมีบทบาทใหม่หรือไม่แต่ไม่ได้เกี่ยวกับการตัดสินใจในครั้งนี้และขณะนี้นายชัชชาติเองก็ยังเป็นสมาชิกพรรคยังมาประชุมและทำงานกับพรรคอยู่

เมื่อถามว่า จะถูกมองว่าเลือกพท. แต่ได้ธนาธร นายภูมิธรรม กล่าวว่า อันนี้ผมไม่ได้พูด คุณพูดเอง ไม่ได้พูดว่า เลือกเราได้ใคร แต่เราต้องฝ่าวิกฤติ และรัฐธรรมนูญที่พิกลพิการ การร่วมมือของพวกเรา เพื่อร่วมฟันฝ่าถือเป็นเรื่องที่สำคัญ นอกจากนี้ส่วนตัวมองว่าคนจะมาเป็นผู้นำ ก่อนจะโหวต ควรแสดงวิสัยทัศน์ ควรบอกประชาชนว่าจะจากนี้จะทำอะไรให้กับสังคม ด้วยวิธีการอย่างไร

ด้านนายชูศักดิ์ กล่าวว่า พรรคพท.เตรียมประเด็นเสนอญัตติอภิปรายนายกฯหลายประเด็น อาทิ คุณสมบัติต้องห้ามนายกฯเป็นไปตามรัฐธรรมนูญมาตรา 160 หรือไม่ กรณีพล.อ.ประยุทธ์ คัดเลือกส.ว.250 คน แล้วมาเลือกพล.อ.ประยุทธ์ ซึ่งดูแล้วไม่เป็นกลางทางการเมือง จะเข้าข่ายขัดกันแห่งผลประโยชน์หรือไม่ ส่วนการอภิปรายจะวุ่นวายหรือไม่ อยู่ที่การควบคุมของประธานสภาฯ และอยู่ที่ว่าจะมีการเปิดให้อภิปรายอย่างกว้างขวางหรือไม่

เมื่อถามว่า ประเด็นที่พรรคพท.เตรียมไว้มีมาก คาดว่ากระบวนการเลือกนายกฯจะจบในวันที่ 5 มิถุนายน หรือไม่ นายชูศักดิ์กล่าวว่า ดูแล้วประเด็นที่จะอภิปรายมีอย่างกว้างขวาง ตนไม่มั่นใจว่าจะจบ

 

 

ที่มา: มติชนออนไลน์