วัoที่ 5 มิ.ย. 2562ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การประชุมรัฐสภา เพื่อเลือกบุคคลที่สมควรเป็นนายกรัฐมนตรี ระหว่างนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ผู้ถูกเสนอชื่อจากพรรคการเมืองฝ่ายเพื่อไทยและพันธมิตร 6 พรรค กับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ผู้ถูกเสนอชื่อจากพรรคการเมืองฝ่ายพรรคพลังประชารัฐ ภายหลังนายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา เปิดโอกาสให้สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และสมาชิกวุฒิสภา ในฐานะสมาชิกรัฐสภาได้อภิปรายคุณสมบัติของผู้ที่ถูกเสนอชื่อทั้ง 2 คน โดยใช้เวลาราว 10 ชั่วโมง ตั้งแต่เวลา 11.00 น. จนถึงเวลาประมาณ 21.30 น.
ปรากฏว่าที่ประชุมได้ทำการลงมติโดยเปิดเผยด้วยการขานชื่อ โดยเรียงตามลำดับตัวอักษรตั้งแต่ ก – ฮ และผู้ที่จะได้เป็นนายกฯ จะต้องมีเสียงเกินกึ่งหนึ่งขึ้นไป ปรากฏว่า ที่ประชุมมีมติเลือก พล.อ.ประยุทธ์ ให้เป็นนายกฯ สมัยที่ 2 ด้วยคะแนน 500 เสียง ขณะที่นายธนาธรได้เสียงโหวต 244 เสียง งดออกเสียง 3 เสียง จากสมาชิกทั้งหมด 747 คน โดยลาประชุม 1 คนคือ นางจุมพิตา จันทรขจร จากพรรคอนาคตใหม่ นายธนาธร ที่ถูกศาลรัฐธรรมนูญสั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่ และนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ที่ลาออกไป
นายธนาธร แถลงภายหลังว่า ขอโทษที่ทำภารกิจไม่สำเร็จในการหยุดสืบทอดอำนาจ คสช. การเลือกตั้งครั้งนี้เป็นเพียงสมรภูมิหนึ่งในการเดินทางยาวไกล เชื่อมั่นแรงกล้าในที่สุดชัยชนะจะเป็นของประชาชน อย่าสิ้นหวัง ความหวังยังอยู่กับเรา เวลายังอยู่กับเรา อยากขอบคุณแกนนำพรรคการเมือง 7 พรรค ที่ส่งชื่อธนาธรเป็นนายกฯ ขอบคุณเพื่อน ส.ส.ที่ 244 คน ที่ขานชื่อธนาธรเป็นนายกฯ คนต่อไป ขอขอบคุณแรงใจที่สนับสนุนทุกภูมิภาคที่ไปพบเจอ นี่ไม่ใช่จุดจบแต่เป็นจุดเริ่มต้นจะไปชี้ให้เห็นว่า สิ่งที่เกิดขึ้นวันนี้กลุ่มคนที่รักประชาธิปไตย ยังทำงานกันไม่พอ แสดงให้เห็นว่าเราทำงานเดินหน้าน้อยลงกว่านี้ไม่ได้ มีแต่ต้องทำให้หนักขึ้น
