นาทีต่อตาที รัฐบาล vs ฝ่ายค้าน สู้เกมญัตติล้าง ม.44 ลุ้นสภาล่มรอบ 3

ญัตติที่สภาผู้แทนราษฎรตั้งคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญเพื่อศึกษาผลกระทบจากการกระทำประกาศและคำสั่งของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) และการใช้อำนาจของหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติตามมาตรา 44

ทำเอาสภาล่มมาแล้ว 2 ครั้ง 2 หน เพราะหนแรก 27 พ.ย.ที่ผ่านมา ฝ่ายรัฐบาลโหวตแพ้ฝ่ายค้าน เสียง 234 ต่อ 230 เสียง งดออกเสียง 2 ไม่ลงคะแนน 1 ทำให้นายวิรัช รัตนเศรษฐ ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคพลังประชารัฐ ในฐานะประธานวิปฝ่ายรัฐบาล ใช้สิทธิตามข้อบังคับขอนับคะแนนใหม่ด้วยการขานชื่อ ในกรณีที่ชนะโหวตไม่ถึง 25 คะแนน จนเป็นปฐมเหตุให้สภาล่ม

ก่อนถึงวันโหวตญัตติในครั้งที่ 3 วิปฝ่ายค้านหารือกันตั้งแต่วันอังคารที่ 3 ธ.ค.ยืนยันหลักการเดิม “วอล์กเอาท์” และจะไม่ลงชื่อเข้าประชุมหวังให้องค์ประชุมล่ม หากฝ่ายรัฐบาลยังยืนยันให้นับคะแนนใหม่ด้วยการขานชื่อ

เป็นช่วงเวลาเดียวกับที่ฝ่ายรัฐบาล จัดงานดินเนอร์แกนนำพรรคร่วมรัฐบาลที่ สโมสรราชพฤกษ์ โดยมี “พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา” นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม นำทีมคุย-เคลียร์ใจพรรคร่วมรัฐบาลเรียพรรค – เรียงโต๊ะ แถมยังมีการหารือคณะรัฐมนตรีวงเล็ก ประกาศว่า ยื่นคำขาดว่า ถ้าสภาล่มอีก อย่างเบาปรับคณะรัฐมนตรี อย่างมากยุบสภา

เพราะในการโหวตครั้งแรก มี 6 เสียงของพรรคประชาธิปัตย์ ประกอบด้วย นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย นายอันวาร์ สาและ นายเทพไท เสนพงษ์ นางกันตวรรณ ตันเถียร นายชัยวุฒิ บรรณวัฒน์ นายพนิต วิกิตเศรษฐ์ ยกมือเห็นด้วยกับญัตติตั้ง กมธ.ของฝ่ายค้าน ทั้งที่มติวิปฝ่ายรัฐบาลคัดค้านการตั้ง กมธ.คณะดังกล่าว

กระทั่งถึงในวันที่สภาโหวตญัตติ รอบที่ 3 วิปฝ่ายรัฐบาลหารือกันช่วงเช้าที่สภา 10.30 น. ราวเที่ยงตรงข่าวจากวงในวิปรัฐบาลถูกแพร่กระจายไปสู่วงสนทนาภายนอกห้องประชุมว่ารัฐบาลเช็คกำลังได้ 247 เสียง จากเสียงฝ่ายรัฐบาลทั้งหมด 254 คน

ฝ่ายค้านรู้เข้า ถึงกับบอกว่า “อย่างนี้ก็เสร็จเรา….”

ชื่อที่ฝ่ายค้านกาหัวว่าขาดประชุมแน่ 1.นายเกียรติ สิทธิอมร ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคประชาธิปัตย์ พักรักษาตัว 2.นายชัย ชิดชอบ ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคภูมิใจไทย ป่วย 3.นายกรณ์ จาติกวณิช ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคประชาธิปัตย์ ไปต่างประเทศ 4.นายกรุงศรีวิไล สุทินเผือก ส.ส.สมุทรปราการ พรรคพลังประชารัฐ ถูกศาลเลือกตั้งสั่งยุติปฏิบัติหน้าที่ 5.พ.ต.ท.ไวพจน์ อาภรณ์รัตน์ ส.ส.กำแพงเพชร ถูกศาลฎีกาออกหมายจับ คาดว่าไม่มาประชุม

อย่างไรก็ตาม เนื่องจากเสียงที่ใช้เปิดประชุมสภาได้ต้องมีสมาชิกลงชื่อให้ถึงกึ่งหนึ่ง คือ 249 เสียงขึ้นไป จากจำนวน ส.ส.ในสภาทั้งหมด 498 เสียง เมื่อเสียงไม่ครบองค์ประชุม องค์ประชุมก็จะล่ม
เกมแรกฝ่ายรัฐบาล – ฝ่ายค้านจึงสู้ด้วยเกมนับองค์ประชุม

แต่หลังจากเปิดประชุมในญัตติกระทู้ถามสด กระทู้ถามทั่วไปได้ประมาณ 2 ชั่วโมง เวลา 15.00 น. วิปฝ่ายตรวจสอบพบว่า ส.ส.ที่ลงชื่อเป็นองค์ประชุมของฝ่ายรัฐบาล ทะลุ 251 เสียง ซึ่งถือว่าครบองค์ประชุมแล้ว
จึงปฏิบัติการเช็คชื่อคนที่ไปเซ็นชื่อเข้าประชุม เพื่อตรวจสอบ “งูเห่า” พบว่า มี ส.ส.ฝ่ายค้านไปลงชื่อเป็นองค์ประชุมให้รัฐบาล มีพรรคอนาคตใหม่ 3 คน พรรคเพื่อชาติ 1 คน และ พรรคเศรษฐกิจใหม่ 1 คน ต่อมาฝ่ายค้านเช็กซ้ำอีกครั้ง ส.ส.เพื่อชาติ ได้ถอนชื่อออกไป ทำให้ในขั้นแรกมีงูเห่า 4 ตัว คืองูเห่าจากอนาคตใหม่ และเศรษฐกิจใหม่

เกมนับแต้มเพื่อให้สภาล่มยกแรกจึงต้องพับไป…..16.00 น. ส.ส.เพื่อไทยจึงเริ่มทยอยเซ็นชื่อเข้าประชุม
เกมนี้ทำเอาสมาร์ทโฟนของคนที่เป็นวิปทั้งฝ่ายค้าน ฝ่ายรัฐบาล ร้อนฉ่าไปตามๆ กัน เพราะฝ่ายค้านก็คอยโทรเช็คเสียง เช็คกำลังคอยแก้เกม ขณะที่ฝ่ายรัฐบาลโทรจิก โทรตามให้มาประชุมทุกนาที

17.00 น. องค์ประชุมสภาดีดขึ้นไปอยู่ที่ 260 คน


“ครูมานิตย์ สังฆ์พุ่ม” ส.ส.สุรินทร์ พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ลงชื่อเข้าประชุมไม่ค่อยสำคัญเท่าไหร่ เพราะก่อนโหวตจะมีนับองค์ประชุมกันอีกที ถ้าถึงตอนนั้นฝ่ายรัฐบาลมีไม่ครบ 249 คน สภาก็ล่ม เพราะฝ่ายค้านจะวอล์คเอาท์ มีแนวโน้มจะมีการเข้าญัตติจะตั้ง กมธ.วิสามัญศึกษาผลกระทบ ม.44 หรือไม่ ในช่วงค่ำ โดยปรากฏว่า ส.ส.ได้ทยอยเลื่อนไฟลท์บินกลับพื้นที่ในวันรุ่งขึ้น (5 ธ.ค.) แล้ว