พลังประชารัฐ พรรคแตก! บิ๊กป้อม ผนึก “สามมิตร” เบ็ดเสร็จ

เกมยึดพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ภาคใหม่กำลังเข้มข้น หลังเปิดสภาได้เพียง 3 วัน อาการ “พรรคแตก” ก็เริ่มต้น

กลุ่มนักการเมือง เกือบทุกก๊ก ในพปชร.ต่างจับตาการเคลื่อนไหว ของทีม “ลูกหาบ” ของ “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ

จรยุทธ์-ปักธง ประเด็นเดิม ต้องการเปลี่ยนกรรมการบริหารพรรคยกกระบิ พร้อมดัน “บิ๊กป้อม” ขึ้นกุมบังเหียน ไม่สนหน้าอินทร์-หน้าพรหม

พลิกเกมจากเคยล่อให้ “สันติ พร้อมพัฒน์” รมช.คลัง ขึ้นเป็น “เลขาธิการพรรค” นำไปใส่พานให้ “สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ” รมว.อุตสาหกรรม หัวหอกกลุ่มสามมิตร ที่จะเข้าเป้า 2 เด้ง

ทั้งได้คืบ-ได้ศอก เข้าสู่ รมว.พลังงาน และกุมแกนของพรรค ด้วยตำแหน่ง เลขาธิการพรรค คนใหม่

ข้อเสนอใหม่-ข้อมูลใหม่ จากฝ่าย “บิ๊กป้อม” ครบเครื่อง ทั้ง จำนวน ส.ส.ในมือ พร้อม “ใบลาออก” ของกรรมการบริหารพรรค ที่ฝ่ายยึดพรรค แจ้งให้ทุกเครือข่ายอำนาจในพรรคทราบว่ามีแล้ว “18-23ใบ”

“บิ๊กป้อม…บอกให้เขียน ใครจะกล้าขัด” รัฐมนตรี-ระดับรองหัวหน้าพรรครายหนึ่งกล่าว หลังเซ็นใบลาออก ตีเช็คเปล่า แบบไม่ลงวันที่ไว้ให้ฝ่าย “บิ๊กป้อม”

จำนวนใบลาออก จากกรรมการบริหาร “ชุดเก่า” เพื่อเตรียมลงนามในกรรมการบริหาร “ชุดใหม่” ยังไม่ทำให้ฝ่าย “บิ๊กป้อม” แน่ใจว่าจะเบ็ดเสร็จ

การประลองกำลัง เรียกจำนวน ส.ส.ดื่มน้ำชา ในสภาสัปปายะสภาสถาน จึงเกิดขึ้น

ฝ่าย “บิ๊กป้อม” นับองค์ประชุม ส.ส. โดยการ “เป่านกหวีด” ของ วิรัช รัตนเศรษฐ ประธานวิปรัฐบาล 20 คน

รวมกับ ส.ส.ของกลุ่มสามมิตร อีก 20 ชีวิต

ขณะที่และร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ส.ส.พะเยา และรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรฯ ระดมส.ส.ในสังกัด ได้ 50 ชื่อ

ท่ามกลางการคุมเชิงของ ฝ่าย “บิ๊กป้อม” ที่เรียกแกนนำของ กลุ่มสามมิตร เข้าประเมินสถานการณ์

วงในสุดๆ ของ “บิ๊กป้อม” ที่เตรียมคุมกำลังพลังประชารัฐ พร้อมหน้าประกอบด้วย นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ , นายอนุชา นาคาศัย ส.ส.ชัยนาท ,นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม และสมาชิกน้องเล็กคนล่าสุด “ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์” โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี

น่าสังเกตุว่า “วงใน” ทีมของ “บิ๊กป้อม” ในวันนี้ ล้วนเคยเป็น “ดาวกระจาย” อยู่รอบตัวทีมของ “สมคิด” ในยุคก่อนเลือกตั้ง

เส้นเรื่อง-เกมการยึดพรรคภาคสอง ต้องมีตอนจบ ที่ไม่เหมือนเก่า เมื่อคราวประชุมกรรมการบริหารรอบที่ผ่านมา ดัชนีพลิกผันเกมกลายเป็น “สุริยะ” นั่งรถเข็นออกจากห้องผ่าตัด-มาเคลียร์บัญชี ส่งผลให้ “บิ๊กป้อม” พ่ายเกม-ควันออกหูมาแล้ว

หากประเมินในเรื่อง กองกำลัง กรรมการบริหารพรรค-ใบลาออก และจำนวนส.ส. แน่นอนว่า กลุ่ม “บิ๊กป้อม” อาจกำชัยชนะ ในเวลานี้

แต่หัวใจของเกมยึดพรรค จะอยู่ที่ “สมาชิกพรรค” ในวันประชุมใหญ่สามัญเพื่อเลือกกรรมการบริหารชุดใหม่ เพราะตัวแทนสมาชิกพรรคจะมีสิทธิ์ในการร่วมโหวตเพื่อเปลี่ยนหรือเพื่อต้าน กรรมการบริหารพรรคด้วย

ฝ่ายของ “อุตตม-สมคิด” เชื่อว่า ถึงเกมอำนาจจะพ่าย-แต่จะได้ใจสมาชิกพรรค และยังกำต้นทุนทางเมืองไว้ แม้ไร้ตำแหนงในพรรค

ภาพที่คาดว่าจะเห็นของฝ่าย “อุตตม” และฝ่ายที่อยู่ตรงกลางความขัดแย้ง อย่าง “ก๊ก กปปส.” คือการจัดตั้งสมาชิกนับพัน แห่มาร่วมประชุมพรรค ประกาศเชิงสัญลักษณ์ ไม่ยอมรับ “ทีมบิ๊กป้อม” ขึ้นกุมบังเหียนพรรค จะสั่นสะเทือนถึงเก้าอี้นายกรัฐมนตรี ในทำเนียบรัฐบาล

เกมจะดำเนินต่อไป ภายใต้การต่อรองอย่างเข้มข้นของ 2 ขั้ว

หากฝ่ายบิ๊กป้อมและพวก-ยึดกรรมการบริหารพรรคได้ ก็ดำรงสถานะ “รักษาการ” หัวหน้าพรรค จนกว่าจะนัดประชุมใหญ่สามัญพรรคได้ จึงจะถึงเวลา “เปลี่ยนสถานะ” อย่างแท้จริง ภายใน 45 วัน ตามข้อบังคับพรรค

เมื่อถึงเวลานั้นเกมการเมืองจากพรรค พปชร. จะสั่นสะเทือนไปถึงคณะรัฐมนตรี (ครม.) การกดดันเพื่อปรับ ครม. จะกลายเป็นเรื่องร้อนหู “บิ๊กตู่-บิ๊กป้อม” ทะลุเพดานอำนาจ-เกินกำลังกว่า “ตึกไทยคู่ฟ้า” จะจัดการ

รัฐมนตรี-ที่ดำรงสถานะกรรมการบริหารพรรค รายหนึ่งแสดงอาการ “ถอดใจ”

แต่อีกรายหนึ่ง “เชื่อมือ” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ว่าจะใช้อำนาจ “เหนือ” มากำกับพรรคและ ครม. ได้

เกมยึดพรรค คงเข้มข้นขึ้น ตามวาระในเดือนหน้า เพราะถึงเวลา 1 ปี ของรัฐบาล การปรับเปลี่ยน ครม. ถือว่าสุกงอมทางการเมือง

พรรคจะแตก-แล้วอยู่ต่อกันแบบมองหน้ากันไม่ติดหรือไม่ ขึ้นอยู่กับฝีมือนายกรัฐมนตรี และการต่อรองตามหน้าไพ่ที่ต่างฝ่ายต่างงำประกายไว้เบื้องหลัง