‘บิ๊กป้อม’ ยึดอำนาจ ‘พลังประชารัฐ’ สอดแนมทุกก๊ก-หักดิบ 4 กุมาร

ประหนึ่ง “ศึกยึดพรรค” พลังประชารัฐ (พปชร.) “ก๊วนบิ๊กป้อม” จะ “ชิงการนำ” ภายในพรรคได้สำเร็จ หลังจาก “เปิดชื่อ” รายนามกรรมการบริหารพรรค (กก.บห.) จำนวน 18 คน แนบหนังสือแจ้งลาออก-เปลี่ยนหัวหน้าและเลขาธิการพรรค

“ไพบูลย์ นิติตะวัน” ส.ส.บัญชีรายชื่อ-รองหัวหน้า พปชร. คนที่ใครก็รู้ว่า เป็นคนที่ พล.อ.ประวิตร “ชุบชีวิต” จากพรรค 1 เสียง-เสี่ยงถูกริบเก้าอี้ ส.ส.มาได้ตำแหน่ง-แห่งที่ในพรรคพลังประชารัฐ หนังสือแจ้ง เรื่อง กรรมการบริหารพรรคพลังประชารัฐลาออก จำนวน 18 คน

พร้อมแนบรายนามกรรมการบริหารพรรคพลังประชารัฐลาออก จำนวน 18 คน และหนังสือแจ้งลาออกจา กรรมการบริหารพรรคพลังประชารัฐ จำนวน 18 ฉบับ โดยมีผลลาออกนับตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน 2563 เป็นต้นไป

“ในกรณีกรรมการบริหารพรรคการเมืองพ้นจากตำแหน่งทั้งคณะ ให้เลือกตั้งคณะกรรมการบริหารพรรค การเมืองชุดใหม่ภายใน 45 วัน นับแต่วันที่กรรมการบริหารพรรคการเมืองพ้นจากตำแหน่งทั้งคณะ”

สำหรับรายชื่อ 18 กก.บห.พรรค-หัวหน้าก๊กที่ถูกชูชื่อ-แนบเจตจำนงลาออกจาก กก.บห.พรรค ประกอบด้วย แกนนำกลุ่มสามมิตร ได้แก่ 1.นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ 2.นายสมศักดิ์ เทพสุทินและ 3.นายพงศ์กวิน จึงรุ่งเรืองกิจ

แกนนำกลุ่ม กทม.-กปปส. 1.นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ 2.นายพุฒิพงษ์ ปุณณกันต์ และ 3.นายสกลธี ภัททิยกุล แกนนำกลุ่มเพชรบูรณ์ของนายสันติ พร้อมพัฒน์ แกนนำกลุ่มภาคเหนือของนายธรรมนัส พรหมเผ่า แกนนำกลุ่มกำแพงเพชรของ “นายวราเทพ รัตนากร” มีชื่อนายไผ่ ลิกค์นายสุพล ฟองงาม นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ นายบุญสิงห์ วรินทร์รักษ์ นายนิโรธ สุนทรเลขา นายสัมพันธ์ มะยูโซ๊ะ นายชาญวิทย์ วิภูศิริ นายสัมฤทธิ์ แทนทรัพย์ นายสุรชาติ ศรีบุศกร และนายนิพันธ์ ศิริธร

แต่รายชื่อที่ปรากฏออกมายัง “ถูกตั้งคำถาม” ว่า “สมัครใจลาออก” หรือ “ถูกจิ้มออก” เพื่อหยั่งเสียง-ลองเชิงขุมกำลังสมคิด-สี่กุมาร ว่า “ลักไก่” แต้มบอดในมือหรือไม่

โดยเฉพาะชื่อของ “ธรรมนัส” ที่ก่อนหน้านี้เข้ามาคบค้ากับกลุ่มสมคิด-สี่กุมาร เพื่อรักษาเก้าอี้รัฐมนตรี จนถูกมองว่าเป็น “ไส้ศึก” ให้กับก๊วนบิ๊กป้อม และเป็นเกม “หักหลัง” สมคิดและสี่กุมาร

ฤๅจะสามารถ “ปิดดีล” กับกลุ่มบิ๊กป้อมให้อยู่ในตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการเกษตรฯต่อไป เพื่อแลกกับการ “สมคบคิด” กันเขี่ย 4 กุมารเพิ่มโควตาเก้าอี้รัฐมนตรี ครม.ประยุทธ์ 2/2

รวมถึงชื่อของ “ไผ่ ลิกค์” ส.ส.กำแพงเพชร กลุ่มของ “วราเทพ รัตนากร” ที่มีความสัมพันธ์กับสมคิดมายาวนานตั้งแต่สมัยที่อยู่กับพรรคไทยรักไทย และทุกครั้งที่เกิดความขัดแย้งภายในพรรค “ไผ่ ลิกค์” จะเล่นบทประสานรอยร้าว

นอกจากนี้ยังไม่มีชื่อ “คีย์แมน” ในก๊วนบิ๊กป้อม ที่เปิดหน้าชัดเจนว่าอยู่คนละมุมกับอุตตม-สนธิรัตน์ เป็น 1 ใน
รายชื่อลาออก เช่น นายวิรัช รัตนเศรษฐ ส.ส.บัญชีรายชื่อ-ประธานวิปรัฐบาล นายสุชาติ ชมกลิ่น ส.ส.ชลบุรี-ประธาน ส.ส.พรรค

รวมถึง นายอนุชา นาคาศัย ส.ส.ชัยนาท-รองประธานยุทธศาสตร์พรรค และ “อาจารย์แหม่ม” นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ที่คั่วเก้าอี้เสนาบดี ครม.ประยุทธ์ 2/2

บางทีอาจเป็นการ “เล่นบท” ตีตัวออกห่างจากวงโคจรขัดแย้ง-สงวนท่าที เพื่อไม่ให้มีข้อครหาว่าเป็น “เกมชิงอำนาจ”เพื่อทำตามฝันเป็นเสนาบดีและตอบแทนจากการทำงานหนัก

รวมถึงการแสดงให้เห็นว่ามีแต้มต่อ-ไพ่สำรองเกินครึ่งไว้ใช้ในช่วงที่เด็ดขาด ไม่ใช่การจับเสือมือเปล่า-มีเสียงเกินครึ่ง

“วิเชียร ชวลิต” นายทะเบียนพรรคพลังประชารัฐ 1 ในคีย์แมนของสมคิด ที่เคยล้มแผนการ “ยึดพรรคภาคแรก” งัดข้อบังคับพรรคข้อที่ 15 “แก้เกม” นิติกรรมรวบรัด เพราะเป็นการลาออกโดยพลการ-ไม่มีผลในทางกฎหมาย

“วิเชียร” กล่าวว่า ยังไม่มีการยื่นใบลาออกจาก กก.บห.พรรคมายังตน ตามข้อบังคับพรรค ถ้า กก.บห.พรรคลาออกเกินกึ่งหนึ่ง จะทำให้ กก.บห.พรรคพ้นจากตำแหน่ง ซึ่งจะทำให้ กก.บห.พรรคที่เป็นอยู่เดิมจะเป็นผู้รักษาการเพื่อทำหน้าที่ของพรรคต่อไปจนกว่าจะมีการเลือกคณะ กก.บห.พรรคชุดใหม่ภายใน 45 วัน

“การช่วงชิงทำอะไรโดยพลการจะขัดกับข้อบังคับพรรค จะเป็นปัญหา ไม่ชอบด้วยข้อบังคับข้อที่ 15 ทำให้เป็นโมฆะต่อ และจะเป็นข้อโต้แย้งกัน”

ขณะที่ พล.อ.ประยุทธ์ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐตัวจริงปฏิเสธที่จะตอบคำถามความขัดแย้งภายในพรรคพลังประชารัฐ และการปรับ ครม.

“ไม่มี ยังไม่ตอบ ยังไม่ถึงเวลาที่จะคิดเรื่องนี้เข้าใจไหม พูดหลายทีแล้วไม่ใช่หรือ ประชาชนเดือดร้อนอยู่มากมายมหาศาล”

สงคราม (ตัวแทน) ระหว่าง พล.อ.ประวิตรกับสมคิดยังไม่จบอย่าเพิ่งนับศพทหาร