สมพงษ์-สุดารัตน์ สยบเกาเหลา “เพื่อไทย” ไม่ขัดข้องเครือข่ายทักษิณ ตั้งกลุ่มแคร์

เมื่อวันที่ 10 มิ.ย. 2563 ที่อาคารรัฐสภา เกียกกาย นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย พร้อมด้วยคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย นายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานวิปฝ่ายค้าน พร้อมด้วย ส.ส.เพื่อไทยจำนวนหนึ่ง ร่วมแถลงข่าวถึงกระแสข่าวความขัดแย้งภายในพรรค กระทั่งมีบางส่วนไปร่วมตั้งกลุ่มแคร์

ทั้งนี้ นายสมพงษ์กล่าวว่า พรรคเพื่อไทยแบ่งหน้าที่กันอย่างชัดแจ้ง ตนดูแลสภาผู้แทนราษฎร คุณหญิงสุดารัตน์ดูเรื่องยุทธศาสตร์ อาจทำให้สื่อมวลชนเข้าใจผิด ตนและคุณหญิงทำงานกลมเกลียวกัน สิ่งที่เข้าใจผิด ให้เข้าใจกันใหม่ เราทำงานกันกลมเกลียวกันอย่างจริงจัง แต่แน่นอนเรื่องการทำงานย่อมมีสิ่งที่ติดขัดกับบ้าง แต่ก็แก้ไขได้ ขอยืนยันว่า ตนทำงานในฐานะในหัวหน้าพรรค ได้ประสานงานกับประธานยุทธศาสตร์มาโดยตลอด และไม่มีอุปสรรคใดๆ ทั้งสิ้น

ด้านคุณหญิงสุดารัตน์กล่าวว่า วันนี้ในข้อเท็จจริงพรรคเพื่อไทยมีการทำงานอย่างกลมเกลียวกัน มีการหารือกัน และต่างคนต่างทำหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายอย่างเข้มแข็ง เพื่อให้การทำงานของพรรคเพื่อไทยแข็งแรง สามารถเป็นที่พึ่ง ที่หวังในยามที่ประชาชนท้อแท้ต่อปัญหาเศรษฐกิจ ซึ่งส่งผลไปถึงปัญหาอื่นๆ พรรคเพื่อไทยไม่มีเวลาทะเลาะกัน เพราะทุกคนที่ได้รับเลือกตั้งมา ได้รับเลือกตั้งจากประชาชน ที่คาดหวังให้พรรคเพื่อไทยแก้ไขปัญหาให้กับประชาชน

“ข่าวที่ออกมาระยะเวลา 2-3 อาทิตย์ พวกเราไม่สบายใจ เพราะเป็นแหล่งข่าวซึ่งไม่ทราบว่าเป็นใคร เป็นแหล่งข่าวที่ออกมาทำลายความเชื่อมั่นต่อประชาชนและพรรคเพื่อไทย ซึ่งไม่เป็นจริง ในช่วงโควิด ส.ส.ลงพื้นที่ทำงานอย่างหนัก เมื่อเปิดสภาก็ดูแลผลประโยชน์ของประชาชน 1.9 ล้านล้าน ทำงานอย่างเข้มแข็งภายใต้การนำของสมพงษ์ จึงอยากทำความเข้าใจกับทุกท่าน” คุณหญิงสุดารัตน์กล่าว

ประธานยุทธศาสตร์เพื่อไทย กล่าวต่อว่า ส่วนเรื่องที่นำมาผูกโยงกับคนที่ออกไปตั้งพรรค เรายืนยันตลอดว่าเราเข้าใจ เพราะรัฐธรรมนูญและกติกาแบบนี้ต้องการไม่ให้พรรคเพื่อไทยได้ปาร์ตี้ลิสต์ คนที่เป็นนักการเมืองและต้องเข้าสภา เป็นเรื่องดีที่ตั้งพรรคขึ้นมา ไม่ว่าพรรคเราหรือซีกประชาธิปไตยก็เรื่องดีทั้งนั้น และไม่ได้ขัดข้องอะไรเลย และมีความจำเป็นจากกติกาที่บิดเบี้ยว

ขณะที่นายสุทินกล่าวว่า ในฐานะประธานวิปฝ่ายค้านต้องทำงานภายใต้ ส.ส. และหัวหน้าพรรค และประธานยุทธศาสตร์ หากพรรคไม่มีเอกภาพ คนที่ทำงานยากที่สุดคือตน รวมถึงเลขาธิการพรรค แต่ข้อเท็จจริงแล้วตนทำงานอย่างมีความสุข ทำงานไม่สับสนอะไร รับปฏิบัติจากพรรคชัดเจน ทั้งหัวหน้าพรรคและประธานยุทธศาสตร์มอบภารกิจชัดเจน และตนก็ทำงานกับเพื่อน ส.ส.ได้ ไม่มีปัญหา ดังนั้น ข่าวที่ปรากฏจากแหล่งข่าวขอยืนยันว่าไม่เป็นความจริง

ข่าวที่ว่าพรรคเพื่อไทยแตกแยก ไม่เป็นที่พึ่งได้แล้ว เป็นความทุกข์ของ ส.ส.ในพื้นที่ สมาชิกพรรคสงสัยเราก็ชี้แจง หากปล่อยข่าวให้พรรคเสียหายก็ขอพึ่งสื่อมวลชนให้นำเสนอในข้อเท็จจริง แต่ถ้ามีบุคคลใดที่มีเจตนาทำอย่างนี้ขอว่าอย่าได้ทำอย่างนั้นเลย เราเข้าใจทุกคนที่ไปตั้งพรรคเป็นเรื่องปกติ ควรส่งเสริมด้วย และเป็นความจำเป็นที่ต้องตั้งพรรค เพราะรัฐธรรมนูญเป็นอย่างนี้ เพียงแต่การไป การสื่อสาร การเสนอไม่น่าจะต้องกลับมามีผลทำให้พรรคเดิมเสียหาย ไม่เชื่อว่าเป็นเจตนาของท่านเหล่านั้น เราที่อยู่และสมาชิกที่ไปยังเข้าใจกัน และต้องทำงานร่วมกันในอนาคต ไม่ว่าจบอย่างไรก็แล้วแต่อยู่ที่ฝ่ายประชาธิปไตยเช่นเดิม

“การบริหารงาน กลไกทุกส่วนปกติ อภิปราย พ.ร.ก.เงินกู้ พอใจในผลงาน ทั้งหน้าเก่า หน้าใหม่ ได้แสดงผลงานทำหน้าที่ได้อย่างดี เพราะการบริหารจัดการอย่างเป็นระบบ ทั้งหัวหน้าพรรค ประธานยุทธศาสตร์ ทำให้ผลงานออกมาดี ที่ผ่านมาอาจมีขลุกขลักบ้าง เป็นประสบการณ์ใหม่ที่เราเพิ่งกลับมาเป็น ส.ส. การผสมผสานระหว่างพรรคร่วมฝ่ายค้านยังต้องแชร์ประสบการณ์เรียนรู้กันอีกเยอะ แต่เมื่อเข้าที่จะเห็นผลงานที่น่าพอใจ รวมถึงงานบริการพี่น้องประชาชน สะท้อนว่าการทำงานเป็นเอกภาพ” นายสุทินกล่าว

นายชูวิทย์ พิทักษ์พรพัลลพ ส.ส.อุบลราชธานี ประธาน ส.ส.อีสานพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า พรรคเพื่อไทยมีความเหนียวแน่น กลมเกลียวที่จะอยู่พรรคเพื่อไทยด้วยความหวังของประชาชนชาวอีสาน ที่ให้ความไว้วางใจตั้งแต่ไทยรักไทย พลังประชาชน และเพื่อไทย เชื่อว่าเพื่อน ส.ส.ทุกคนจะไม่หนีไปไหน ช่วยกอบกู้ประชาธิปไตยให้กับประชาชนชาวอีสานที่มอบความไว้วางใจให้กับพวกเรา

ผู้สื่อข่าวถามนายสมพงษ์ว่า ได้คุยกับคนที่ไปตั้งกลุ่มแคร์หรือไม่ นายสมพงษ์กล่าวว่า ก็คุยกันอยู่ไม่มีอะไร ทุกอย่างปกติ ในขณะที่มองภาพรวมว่าบางทีรัฐบาลอาจอยู่ในภวังค์ที่โซเซ ย่อมมีบุคคลที่คิดอ่านที่จะต้องเตรียมตัว การเตรียมตัวก็เช่นเดียวกัน ระหว่างเพื่อไทย กับพรรคไทยรักษาชาติ ไม่ได้เป็นเรื่องแปลกอะไรทั้งสิ้น เป็นพวกกัน เพื่อนกัน

“ยืนยันว่าผู้แทนของพรรคเพื่อไทยทั้ง 136 คนไม่ไปไหน อยู่เพื่อไทย ส่วนคนที่อาจพิจารณาไปทำพรรคใหม่ เป็นเรื่องของปาร์ตี้ลิสต์ เพื่อไทยไม่มีให้ปาร์ตี้ลิสต์”

เมื่อถามว่า ประเมินรัฐบาลอยู่ไม่ครบเทอม นายสมพงษ์กล่าว การมองดูสภาพที่รัฐบาลเพลี่ยงพล้ำ ไม่แน่ว่าอีกกี่วันกี่เดือนรัฐบาลจะมีปัญหา จึงต้องเตรียมตัว เชื่อว่าพรรคอื่นๆ ก็เตรียมตัว พรรครัฐบาลก็เตรียมตัวอยู่ รอฟังข่าวแล้วกัน