กกต.ติดบ่วงซื้อเสียง-ยุบพรรค ปชป.-ก้าวหน้า แท็กทีมฟ้อง ม.157

7 เสือ กรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ชุดที่มี “อิทธิพร บุญประคอง” เป็นประธาน พิสูจน์ฝีมือมาแล้วเกือบ 2 ปี ครบรอบการเข้าสู่ตำแหน่งในช่วงเดือนสิงหาคมได้รับทั้งก้อนหิน ก้อนอิฐ มากกว่าดอกไม้และคำเชยชม

ปมที่ทำให้ กกต.เผชิญวิกฤตศรัทธามากที่สุด อาจมาจากปมเงินกู้ 191.2 ล้านของ “ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ” ที่ให้พรรคอนาคตใหม่ยืมไปใช้ทำกิจกรรมทางการเมือง ที่ กกต.ชงเรื่องยุบพรรคไปให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณา เนื่องจากเป็น “ธุรกรรมอำพราง” กระทั่งนำมาสู่จุดจบของพรรคส้มหวาน รวมถึงชงศาลรัฐธรรมนูญ ปมถือหุ้นในบริษัทที่ประกอบกิจการสื่อสารมวลชน จนศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยให้ “ธนาธร” พ้นสมาชิกภาพการเป็น ส.ส. จาก 2 กรณี กกต.ถูกอนาคตใหม่ฟ้องร้องต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง 2 คดี

1. เร่งรัดคดีการโอนหุ้นสื่อของ “ธนาธร”

2. กรณีทำสำนวนคดียุบพรรคอนาคตใหม่ไม่เป็นไปตามหลักเกณฑ์และขั้นตอนมีลักษณะเร่งรัดคดี

ทั้ง 2 กระทงศาลอาญาคดีทุจริตฯยกคำร้อง ! กกต.พ้นบ่วงโดยอัตโนมัติ แต่ทั้งสองปมก็ถูกนำไปขยายผลให้เกิดแฟลชม็อบนักศึกษาในรอบแรกแถมยังเปิดช่องให้ “นักร้อง” ศรีสุวรรณ จรรยา” เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ยื่นคำร้องให้ตรวจสอบ 32 พรรคการเมืองที่มีการกู้เงินในลักษณะเดียวกันกับพรรคอนาคตใหม่ก่อนหน้านี้ ว่าเข้าข่ายเป็นความผิดหรือไม่เรื่องนี้ยังต้องตามติดเป็นหนังภาคต่อ

เบื้องต้นมีรายงานจาก กกต.ได้ตรวจสอบงบการเงินของพรรคต่าง ๆ ทุกพรรค ย้อนหลังไป 3-4 ปี มีพรรคการเมืองเกือบ 100 พรรค ซึ่งการตรวจสอบมีรายละเอียดเยอะผลจากการยุบพรรคอนาคตใหม่ ปมเงินบริจาค กกต. ยังต้อง “ริบ” เงินที่จะต้องตกเป็นของกองทุนเพื่อการพัฒนาพรรคการเมือง ว่าควรจะเงินกู้ทั้ง 191 ล้านบาทเพราะเป็นเงินที่รับบริจาคโดยวิธีการที่ไม่ชอบ หรือเฉพาะเงินส่วนที่เกิน 10 ล้านบาท ตามกฎหมายพรรคการเมืองหรือไม่

ADVERTISMENT

เพราะถือว่าเป็นการรับบริจาคเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด ก็ยังไม่คืบหน้าเช่นเดียวกับการที่ กกต.เตรียมขยายผลต่อเพื่อเอาผิด “ธนาธร” ตามมาตรา 151 ของกฎหมายเลือกตั้ง ส.ส. 2561 กรณีรู้อยู่แล้วว่าไม่มีสิทธิสมัคร ส.ส. แต่ไปลงสมัคร โทษจำคุก 1-10 ปี ตัดสิทธิเลือกตั้ง 20 ปี ปรับ2 หมื่น-2 แสนบาท ไปที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง จากเหตุถือหุ้นสื่อก็ยังไม่ไปไหน

แม้ว่า กกต.ทั้ง 7 คนจะฝ่าด่าน “อดีตอนาคตใหม่” ไปได้ แต่สถานะของ 7 เสือยังถูกรุมสกรัมจากหลายเหตุการณ์

ตัวอย่างเช่น การเลือกตั้งซ่อม จ.ลำปาง ที่พรรคพลังประชารัฐ โดย “นายวัฒนา สิทธิวัง” ชนะ “ร.ต.ท.สมบูรณ์ กล้าผจญ” จากเสรีรวมไทย ซึ่ง “สมชัย ศรีสุทธิยากร”อดีต กกต.ในฐานะหน่วยเฝ้าระวังทุจริตของ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย เปิดหลักฐานเป็นคลิปภาพแจกเงินที่อ้างว่าเป็นการ “ซื้อเสียง” พร้อมกับเปรียบเปรย กกต.ว่าเป็น “มหาเทพผู้หลับใหล”

โดย “อิทธิพร บุญประคอง” ประธาน กกต. ชี้แจงว่า ตอนนี้มีเรื่องร้องเรียนทุจริตเรื่องเลือกตั้ง 3 เรื่องคือเจ้าหน้าที่ของรัฐวางตัวไม่กลาง การทุจริตซื้อเสียงและร้องให้ มีการยุบพรรค โดยขณะนี้มีการยื่นร้องไว้ที่ กกต.จังหวัดลำปาง และ กกต.กลางแล้ว วันนี้ กกต. ลำปางยังตรวจสอบอยู่บางกรณีทราบว่ามีการเรียกผู้ร้องมาสอบแล้ว แต่ในที่ประชุม กกต.วันนี้สำนักงานก็จะนำเสนอรายงานผลการตรวจสอบเบื้องต้นที่ทาง กกต. ลำปางส่งมาให้ กกต.ได้พิจารณา ซึ่งคิดว่าน่าจะเพียงพอที่ กกต.จะมีคำตอบได้ว่าจะประกาศรับรองผลได้หรือยัง” ประธาน กกต.กล่าวพร้อมกับเรียกให้ “สมชัย” มาให้ข้อมูลเรื่องการทุจริต

อย่างไรก็ตาม ในเคสเดียวกันนี้ “พรรคเสรีรวมไทย” โดย “พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์” ให้ลูกน้องไปยื่นคำร้องต่อ กกต.กลางอีกสำนวนหนึ่ง โดยให้ตรวจสอบกรณี “ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า” รมช. เกษตรและสหกรณ์ ใช้ตำแหน่งหน้าที่ราชการช่วยนายวัฒนา สิทธิวัง ผู้สมัคร ส.ส.พรรคพลังประชารัฐให้ชนะการเลือกตั้งส.ส.เขต 4 ลำปางผลความคืบหน้าขณะนี้ยังอยู่ในขั้นตอนของสำนักงานพิจารณาว่าคำร้องมีมูลเสนอ กกต.สั่งดำเนินการต่อไปหรือไม่ แต่ 7 เสือ กกต.ก็รับรองผลเลือกตั้งไปก่อนแล้ว

“นิพิฏฐ์” ประกาศเอา กกต. ติดคุก

อีกกรณีที่ต้องจับตาเมื่อ “นิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ” รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง กกต. 7 คนเป็นจำเลยกรณีปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. มาตรา 23 ประกอบมาตรา 149 จากเหตุยกคำร้องทุจริตเลือกตั้ง ส.ส.เขต 2 พัทลุงโดยศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง รับคำร้องและเรียก กกต. มาชี้แจง 27 กันยายนนี้ ซึ่ง “นิพิฏฐ์” ประกาศลั่นทุ่งว่า จะเอา กกต.ติดคุกข้อหาปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ขัดกฎหมายอาญา ม.157 ซ้ำรอยอดีตที่เคยทำมาแล้วในยุค กกต.ชุด พล.ต.อ.วาสนา เพิ่มลาภ ยังไม่นับสิ่งที่จะเกิดในเวลาอันใกล้นี้

“อนาคตใหม่” เดิม ซึ่งพัฒนาเป็น “คณะก้าวหน้า” เตรียมฟ้องเอาผิด กกต.อีก 1 คดี แต่ยังรวบรวมหลักฐาน โดยจะเอาผิดแบบเดียวกับ “นิพิฏฐ์”

ขณะที่การเลือกตั้งซ่อมสมุทรปราการ เขต 4 ในวันที่ 9 สิงหาคม 2563 จะเป็นอีกหนึ่งบทพิสูจน์ฝีมือ กกต.กลางคดีร้อน