เปิดใจ “เสี่ยเฮ้ง” สุชาติ ชมกลิ่น จากลูกจับกังสู่รัฐมนตรีแรงงานคนใหม่

สุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน

เปิดใจ นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีแรงงานป้ายแดง กับตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการครั้งแรกในชีวิต

และแล้ว “สุชาติ ชมกลิ่น” หรือ “เสี่ยเฮ้ง” ส.ส.ชลบุรี ประธาน ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ ก็คว้าเก้าอี้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานแบบโผไม่พลิก

ทั้งที่ก่อนหน้านี้ เก้าอี้แรงงาน เป็นของพรรครวมพลังประชาชาติไทย ของ “สุเทพ เทือกสุบรรณ” ลุงกำนันแห่ง กปปส.

ด้วยเกมต่อรองใต้ดิน ทำให้ “สุเทพ” คายเก้าอี้แรงงาน ส่ง เอนก เหล่าธรรมทัศน์ ไปเป็น รมว.อุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม “สุชาติ” ได้เป็น รมว.แรงงานสมใจ

เขาเคยเล่าให้ “ประชาชาติธุรกิจ” ฟังว่าในชีวิตเขามีคนที่ให้โอกาส 2 คน

คนแรก “กำนันเป๊าะ” สมชาย คุณปลื้ม ผู้ที่มอบโอกาสทางการเมือง เพราะเขาเข้าไปเป็นลูกน้องกำนันเป๊าะตั้งแต่อายุ 25

คนที่สอง “ลุงป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ “สุชาติ” เปิดใจว่า “ที่ใครบอกว่า โอ้ย อยู่กับท่านประวิตร เดี๋ยวก็ได้เป็นรัฐมนตรี ไม่ใช่ นายกรัฐมนตรีคือ พล.อ.ประยุทธ์ คือคนพิจารณา ผมเองก็ไม่ได้คุยกับท่าน ผมอยู่แต่ฝ่ายนิติบัญญัติ ไม่เคยไปทำเนียบ ไม่เคยไปคุยกับท่าน”

“เสี่ยเฮ้ง” เล่าย้อนวันวานเคยเป็นคนจน  แบกน้ำตาล-ข้าวสารอยู่ท่าเรืออ่าวไทย 7 ปี ชีวิตลำบาก รับเหมาเป็นกุลี ทำเรือสินค้าส่งออกข้าว น้ำตาลอยู่เกาะสีชัง

“ก่อนหน้านี้สมัยเรียนจบบัญชีใหม่ๆ เป็นเซลส์ขายบ้าน เงินเดือน 5,500 บาท อยู่ 1 ปี ทำงานธนาคาร 1 ปี ออกมารับเหมา 7 ปี หลังจากนั้นมาทำหมู่บ้านจัดสรรเอง จาก 2 ห้อง เป็น 4 ห้อง เป็น 8 ห้อง”

“สุชาติ” เป็น “เซลส์ขายบ้าน” หมู่บ้านแคลิฟอร์เนีย เจ้าของหมู่บ้านคือ “สนธยา คุณปลื้ม” เก็บเกี่ยวประสบการณ์ ก่อนจะไปเป็น “นายแบงก์” ใช้วิชาบัญชี-เรียนรู้วิธีการสินเชื่อ

วันที่ “สนธยา คุณปลื้ม” ลูกชายกำนันเป๊าะได้เป็น รมช.อุตสาหกรรม ครั้งแรก ฉลองกันที่หมู่บ้านแคลิฟอร์เนีย เขาเป็นแค่เซลขายบ้านในหมู่บ้านนั้น ภาพยังติดตา

แต่วันนี้เขาได้เป็น รัฐมนตรี ร่วมกับตระกูล “คุณปลื้ม” อีกคนคือ “อิทธิพล คุณปลื้ม” รมว.วัฒนธรรม

เรียนจบจาก “โรงเรียนวัด” เป็น “นักกีฬาฟุตบอล” สโมสรโอสถสภา ได้เบี้ยซ้อมวันละ 120 บาท เบี้ยเลี้ยงแข่งวันละ 240 บาท มีเงินเดือนหลักพันบาท

“คุณพ่อ” มีอาชีพรับจ้าง-จับกัง “คุณแม่” มีอาชีพเป็น “แม้ค้าขายขนมครก” อยู่หน้าตลาดหนองมน

“ชีวิตก็เหมือนละคร เหมือนนิยาย พ่อเป็นยาม แม่ขายขนมครก ใครจะคิดว่าจะมาเป็น ส.ส. มาถึงวันนี้ไม่คิดอะไร กำไรเท่าไหร่แล้ว ให้ชีวิตมีความสุขเข้าไว้ ทุกวันนี้แม่ผมเดินไปตลาด มีแต่คนยกมือไหว้หมด เพราะไม่เคยคดโกงใคร เป็นครอบครัวที่อบอุ่น ถึงจะจน แต่มีครอบครัวที่สมบูรณ์แบบ”

“สุชาติ” บอก ความคิด – หลักบริหาร หากได้มานั่งเก้าอี้รัฐมนตรีไว้ว่า “วันหนึ่งได้เป็นรัฐมนตรี เราต้องดูว่าเราทำได้ขนาดไหนด้วย ไม่ต้องให้เขาปลดเราหรอก ถ้าเราทำไม่ได้จะอยู่ทำไม เหมือนผมทำธุรกิจ ผมก็ต้องวางแผนเชิงธุรกิจของผม ผมเป็น ส.ส. ผมวางแผนในพื้นที่จบแล้ว ถ้าวันหนึ่งมีบุญวาสนาเป็นฝ่ายบริหาร ก็ต้องบริหารแผนกระทรวงนั้นให้เป็นไปตามแผนไว้ ถ้าทำแบบ 1+1 เป็น 2 ไม่ได้แล้ว ประเทศชาติจะเดินอย่างไร”

หลักที่นำมาใช้ ต้องมองถึงหลัก KPI ที่ผ่านมาอธิบดีแต่ละคนเป็นอย่างไร ผลลัพธ์ที่ทำไปคุณได้กี่เปอร์เซ็นต์ เหมือนทำธุรกิจที่ให้ฝ่ายแผนไปทำแผนมาว่าปีนี้จะรับรู้รายได้เท่าไหร่ ถ้าไม่เป็นไปตามแผนต้องไปดูว่าปัญหาติดขัดที่ไหน ติดที่งานก่อสร้าง มีปัญหาอะไร ต้องไล่เป็นจุด ๆ เงินในบริษัทตั้งเยอะแยะเอาไปฝากธนาคารทำไมได้ดอกเบี้ยหน่อยเดียว ทำไมไม่เอาไปใช้หนี้เงินกู้ นี่คือหลักธุรกิจ คือ ทำอย่างไรก็ได้ให้องค์กรได้ประโยชน์สูงสุด ไม่ได้เข้าตัวเราเอง


“ถ้าเราเป็นผู้บริหารกระทรวง เราต้องดู 1.พันธกิจกระทรวงทำอะไร มีตัวชี้วัดกระทรวงอย่างไร 2.เราต้องเข้าไปนำทางกระทรวง นำทางปลัดกระทรวงว่าไปแบบไหน ทำแบบนี้ผิดกฎหมาย ผิดกฎระเบียบไหม แต่ถ้าที่ผ่านมาทำงานตามปลัดกระทรวง ก็ให้ปลัดกระทรวงเป็นรัฐมนตรี ถ้าเราเข้าไปถึงฟังปลัดอย่างเดียว ก็ไม่ต้องเป็นรัฐมนตรีหรอก เขาจะทำอะไรที่งานเยอะขึ้นล่ะ เขาก็ทำงานอย่างที่เคยชิน ดังนั้น นี่คือหลักธุรกิจที่จะนำมาปรับใช้กับการบริหารกระทรวง”