สมชัย แนะหน่วยงานราชการ เงินเหลือก็คืนคลัง ไม่ต้องใช้หมด

“สมชัย ศรีสุทธิยากร” แนะ 4 ข้อ หลังเกิดกรณีซื้อเรือดำน้ำ ชี้ หน่วยงานราชการควรเลิกคิดว่า มีเงินต้องใช้ให้หมด เงินเหลือก็คืนคลังไปใช้ประโยชน์อื่นได้ 

วันที่ 24 สิงหาคม 2563 ที่เพจเฟซบุ๊กของ นายสมชัย ศรีสุทธิยากร อดีตกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ในฐานะรองประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาปัญหา หลักเกณฑ์ และ แนวทางแก้ไขเพิ่มเติม รัฐธรรมนูญ 2560 ได้มีการโพสต์ข้อความเกี่ยวกับการซื้อเรือดำน้ำ จำนวน 4 ข้อ ดังนี้

เรือดำน้ำ อีกที

ผมไม่มีความรู้ด้านยุทธศาสตร์การรบทางทะเล และความรู้เรื่องเรือดำน้ำและอ่าวไทยเพียงพอที่จะดีเบตกับเหล่าผู้รู้จริงและรู้ไม่จริงได้ แต่ตรรกะที่ถูกหยิบขึ้นมาเป็นข้อโต้เถียงว่า ไทยสมควรมีเรือดำน้ำ แสนประหลาด

1. “เพื่อนบ้านมีแล้ว เราต้องมีบ้าง” นี่คือตรรกะแห่งการสะสมอาวุธที่เป็นอันตรายต่อสันติภาพโลก หากคิดแบบนี้ไทยต้องสะสมนิวเคลียร์ด้วย เพราะอินเดียมีแล้ว จีนมีแล้ว รัสเซียมีแล้ว

2. “หากสิงค์โปร์ เวียดนาม มาเลย์ เขาปิดอ่าวไทย เศรษฐกิจจะวินาศกว่านี้” อันนั้นภาวะสงครามแล้ว และแปลว่าสัมพันธภาพทางการทูตที่รวมกันเป็นอาเซียนที่ผ่านมานั้นล้มเหลวโดยสิ้นเชิงใช่ไหม ยิ่งเอาตรรกะนี้มาใช้ว่าจะรบกับเขาให้ชนะ คงต้องซื้อร่วม 20 ลำแล้ว เพราะต้องเอาตัวเลขประเทศอื่นหลายๆ ประเทศมารวม

3. “งบของกองทัพเรือ ไม่ได้เบียดเบียนงบใคร” งบของกองทัพไหนก็ภาษีของประชาชน เลิกเสียทีที่ว่างบนี่ของฉันใครอย่ามายุ่ง และควรเลิกเสียทีสำหรับหน่วยราชการที่คิดว่า มีเงินต้องใช้ให้หมด มีเงินเหลือก็คืนคลังไปใช้ประโยชน์อื่นได้

4. “ผ่อนพร้อมดอกเบี้ยปีละไม่กี่พันล้าน” เงินหลวงไม่ใช่เงินช็อปปิ้งที่ถูกจูงใจด้วยโปรโมชั่นผ่อนศูนย์เปอร์เซนต์สิบเดือนแต่แอบบวกราคาขึ้นไปก่อนแล้วนะครับ จะซื้อสด หรือ ผ่อนล้วนแต่เป็นภาษีของประชาชน


นี่ยังไม่วิจารณ์เรื่อง ของที่ซื้อใช้เงินภาษีซื้อมาแล้ว ใช้ประโยชน์ไม่ได้ แล้วไม่มีใครแสดงความรับผิดชอบนะครับ

จากเฟซบุ๊ก สมชัย ศรีสุทธิยากร