“สันติ พร้อมพัฒน์” ปัดเกาเหลา “ปรีดี” ลั่นพร้อมนั่ง รมว.คลัง เพื่อบ้านเมือง

“สันติ พร้อมพัฒน์” พร้อมนั่งเก้าอี้ รมว.คลัง โวเคยนั่งกระทรวงใหญ่หมดแล้ว ปัดขัดแย้ง “ปรีดี” ต้นเหตุลาออก บอกหมอให้คิดเรื่องงานให้น้อยลง เพราะเส้นเลือดสมองตีบ แต่อดีต รมว.คลัง ทำไม่ได้จึงต้องไขก๊อก

นายสันติ พร้อมพัฒน์ รมช.คลัง ให้สัมภาษณ์ที่รัฐสภา วันนี้ (2 ก.ย.) ถึงการลาออกจากตำแหน่ง รมว.คลัง ของ นายปรีดี ดาวฉาย โดยยืนยันว่าไม่มีปัญหาความขัดแย้งในเรื่องการแต่งตั้งอธิบดีกรมสรรพากร อำนาจทุกอย่างเป็นของรัฐมนตรี ส่วนตำแหน่งตนเป็นรัฐมนตรีช่วย ชื่อก็บอกอยู่แล้วว่าช่วยให้ภารกิจต่างๆ ที่รัฐมนตรีมอบหมายให้เสร็จอย่างเร็ว และมีประสิทธิภาพที่สุด

สังคมอาจเข้าใจว่าการแต่งตั้งข้าราชการระดับอธิบดีมีความขัดแย้งกัน แต่สังเกตได้ว่าสัปดาห์ที่แล้วชื่อของอธิบดีเป็นอย่างไร สัปดาห์นี้ก็ผ่านไปด้วยความราบรื่น ชื่อไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลง แต่การทำงานต้องมีการให้ข้อคิดเห็น ส่วนการตัดสินใจขึ้นอยู่กับผู้ใหญ่ หมายความว่าเมื่อรัฐมนตรีว่าการมาเป็นผู้บังคับบัญชา เราก็ต้องฟัง และรัฐมนตรีว่าการเองก็ต้องฟังด้วย

นายสันติกล่าวอีกว่า เมื่อค่ำวันที่ 1 กันยาประมาณ 2 ทุ่ม นายปรีดีโทรมาหาว่าไม่ทราบว่าข่าวออกมาทำนองนั้นได้อย่างไร ท่านบอกว่าต้องแสดงความเสียใจกับผมที่ข่าวออกมาแบบนั้น ซึ่งข้อเท็จจริงไม่ได้มีอะไรขัดแย้ง ยังขอบคุณตนด้วยซ้ำที่ให้ความร่วมมือในทุกเรื่องทุกประเด็น และผมยังแนะนำประสบการณ์ที่ได้ทำงานมาเกิน 1 ปี ทำให้หลายเรื่องที่นายปรีดีออกนโยบายไปแล้วไม่ต้องมาศึกษา

ปรีดี เส้นเลือดสมองตีบ แต่หายแล้ว

“ดังนั้นขอเรียนว่าทำงานด้วยความเข้าอกเข้าใจและด้วยประสิทธิภาพสูงสุดของกระทรวง นั้นคือบ้านเมือง ไม่มีความขัดแย้งแม้แต่น้อย นายปรีดีบอกว่าเคยป่วยด้วยโรคเส้นเลือดในสมองตีบเมื่อหลายปีก่อน แต่ตอนนี้รักษาตัวหายแล้ว การมาทำงานในกระทรวงการคลังระยะนี้ จากภาวะโควิดและภาวะเศรษฐกิจโลกผู้ที่มาทำงานอยู่ในกระทรวงการคลังต้องยอมรับมีความกดดัน มีนโยบายใหม่ๆ ที่จะต้องคิดออกมาเพื่อดูแลประชาชนในทุกภาคส่วน

ซึ่งจากปัญหาโควิดกระทรวงการคลังต้องเข้าไปดูการสร้างงานสร้างอาชีพ แต่ความกดดันผมยอมรับว่าไม่ว่าจะเป็นท่านว่าการหรือผมก็มี แต่บางครั้งผมหลีกเลี่ยงโดยการไม่พูด เพราะเรามีว่าการ ซึ่งว่าการมีหน้าที่ต้องพูด และความกดดันที่ต้องคิดอยู่ตลอดเวลาถือเป็นเรื่องสำคัญ” นายสันติกล่าว

เมื่อถามว่า สาเหตุการลาออกของนายปรีดีมาจากการกดดันในการทำงานใช่หรือไม่ นายสันติกล่าวว่า ความจริงเป็นเรื่องงานในช่วงนี้ที่ถาโถมเข้ามาให้กับกระทรวงการคลังที่ต้องแก้ปัญหาเศรษฐกิจจำนวนมากให้กับทุกภาคส่วน

เมื่อถามย้ำว่า เป็นเพราะเศรษฐกิจแย่มาก จนทำให้นายปรีดีลาออก นายสันติกล่าวว่า ไม่เป็นความจริงที่สถานการณ์เช่นนี้ทำให้รัฐมนตรีต้องลาออก โดยเฉพาะนายกรัฐมนตรียังสามารถรับได้ทุกสถานการณ์ เป็นกันทั่วโลก แต่ประชาชนอาจมีความลำบากอยู่บ้าง เมื่อเทียบกับประเทศใหญ่ๆ ในโลก แม้จะมีเศรษฐกิจที่อ่อนตัวลง แต่ด้านอื่นๆ เรายังแข็งแกร่ง โดยเฉพาะระบบการเงินของเรายังดี มีเสถียรภาพที่แข็งแกร่งมาก

หมอแนะให้หยุดคิดเรื่องงาน

เมื่อถามอีกว่า สาเหตุอาจมาจากปัญหาการเมืองภายในพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) หรือไม่ นายสันติกล่าวว่า ไม่มีความขัดแย้งทั้งภายในพรรคหรือกับตนแม้แต่นิดเดียว ในภาวะนี้ไม่ใช่ภาวะปกติคนที่จะมาเป็น รมว.คลัง และอีกหลายกระทรวงต้องมีความแข็งแกร่ง มีสุขภาพที่สมบูรณ์แข็งแรง ซึ่งนายปรีดีบอกกับตนมาเป็นอาทิตย์แล้วว่าแม้จะรักษาดีแล้ว แต่ต้องมาเจอเรื่องให้คิดตลอด 24 ชั่วโมง ในการแก้ปัญหาให้ประชาชน ท่านบอกว่าความเครียด การใช้สมองมากๆ จะทำให้ร่างกายหย่อนสมรรถภาพ

ท่านบอกว่าซีกขวาของร่างกายรู้สึกชาค่อนข้างมาก แพทย์จึงแนะนำให้ลดความเครียด และต้องคิดเรื่องงานให้น้อยลง แต่นายปรีดีบอกว่าหยุดคิดไม่ได้ เพราะมารับตำแหน่งนี้แล้ว สุดท้ายก็ตัดสินใจลาออก ทั้งนี้ ตนให้ความร่วมมือเต็ม 100% ในการผ่อนงานของนายปรีดี จะทำงานสนองในทุกเรื่อง

ส่วนรัฐมนตรีคนใหม่ควรมีคุณสมบัติอย่างไรนั้น นายสันติกล่าวว่า ในภาวะเร่งด่วนแบบนี้ต้องมีผู้ที่รู้สถานการณ์ของทั้งประชาชนและระบบเศรษฐกิจในประเทศและโลกว่าเป็นอย่างไร และรัฐมนตรีที่จะมาใหม่ต้องเข้าไปสนับสนุนในภาคส่วนที่พลิกวิกฤตของโควิดให้เป็นโอกาสให้จงได้ ในสิ่งที่คนทั้งโลก 7 พันล้านคนต้องกินต้องใช้

พร้อมนั่งเบอร์ 1 ขุนคลัง

เมื่อถามว่า ด้วยความรู้ความสามารถที่มีอยู่ หากนายกรัฐมนตรีทาบทามให้เป็น รมว.การคลัง พร้อมหรือไม่ นายสันติ กล่าวว่า สิ่งที่ตนทราบเพราะได้ทำงานกับนายอุตตม สาวนายน อดีต รมว.คลัง เป็นเวลามาหนึ่งปี สิ่งที่นายอุตตมทราบตนก็ทราบ สิ่งที่นายอุตตมทำแล้วเป็นประโยชน์ให้ทุกภาคฝ่าย ตนก็ทราบ สิ่งที่เป็นจุดอ่อน ตนก็ทราบอีก ฉะนั้น ต่อไปข้างหน้าเป็นเรื่องของนายกรัฐมนตรี

เมื่อถามย้ำว่า แสดงว่าถ้านายกฯ ทาบทามจะไม่ปฏิเสธใช่หรือไม่ นายสันติกล่าวว่า การทำงานให้บ้านเมืองโดยที่เดินต่อไปได้เลย ไม่ต้องศึกษางานนั้นก็ต้องอยู่ที่นายกรัฐมนตรี และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรค พปชร.

“ผมเรียนแล้วว่าผมทำงานร่วม 2 รัฐมนตรีคลังที่อยู่ในภาคเศรษฐกิจและการเงิน และอีกหนึ่งรองนายกที่คร่ำหวอดทางด้านเศรษฐกิจ ฉะนั้นผมก็ซึมซับเศรษฐกิจของบ้านเราทั้งภาวะเดินหน้าและถดถอย โดยเฉพาะในภาวะเศรษฐกิจเช่นนี้ต้องทำงานได้ทันที ความกดดันนั้นขอเรียนว่าผมผ่านมาเป็นเวลากว่า 1 ปีแล้ว ในอดีตผมก็เคยอยู่กระทรวงใหญ่ๆ มาแล้ว เคยเป็นรัฐมนตรีว่าการคมนาคม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพัฒนาสังคมฯ ซึ่งผมมีความเชี่ยวชาญและภูมิต้านทานพร้อม รับแรงกดดันในภาวะเศรษฐกิจแบบนี้ได้ นายกฯ และ พล.อ.ประวิตร มอบหมายให้ทำงานตรงไหน ตรงก็พร้อมน้อมรับทำงานเพื่อบ้านเมือง” นายสันติกล่าว