“ครูตั้น” มาตอบดีเบตสาย เจอมอบนกหวีด 44 ชิ้น และปูไทยที่ไม่ใช่ลอนดอน

กิจกรรมของนักเรียนมัธยมศึกษาและองค์กรนักเรียน 50 โรงเรียนทั่วประเทศในนามกลุ่มนักเรียนเลว คิกออฟตั้งแต่ช่วงบ่ายโมง ตั้งข้อเรียกร้อง 3 ข้อ

1.หยุดคุกคามนักเรียน ปกป้องนักเรียน 2.ยกเลิกกฎระเบียบล้าหลัง และ 3.ปฏิรูปการศึกษาทั้งระบบเพื่อให้ปัญหาถูกแก้ไขจากต้นตออย่างแท้จริง ส่วน 1 เงื่อนไข คือ หากทำไม่ได้ให้ลาออกจากตำแหน่ง

โดยมีนัดหมายว่า “ครูตั้น” ณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รมว.ศึกษาธิการ จะมาร่วมเวทีในเวลา 17.00 น. แต่ปรากฎว่า ได้มาช้ากว่ากำหนด 17.15 น. ทำให้กลุ่มนักเรียนตะโกนว่า “ทำไมมาสาย” พร้อมชูสามนิ้ว

ต่อมาตัวแทกลุ่มนักเรียนเลว ย้ำจุดยืน 3 ข้อ และ “ณัฏฐพล” เริ่มตอบคำถามถึงนิยามของการ “คุกคาม”

ดีเบต-นักเรียน-รมต.ศึกษา

“การคุกคามนักเรียน อยู่ในรูปแบบที่ต่างกัน ให้ความมั่นใจว่ากระทรวงศึกษา ต้องการให้ความปลอดภัยมากที่สุดในโรงเรียน แต่ต้องยอมรับว่าขณะนี้ในขณะที่มีการคุกคาม รับเรื่องมา 109 โรงเรียน สืบหาข้อเท็จจริงแล้ว 100 คุณครูที่มีความไม่เข้าใจการแสดงออกสัญลักษณ์

แต่ยังมีครูอีก 5 แสนคนที่พยายามทำความเข้าใจในเรื่องนี้ ส่วนตัวชี้วัดว่าครูจำนวนน้อย ประเด็นที่ได้รับการร้องเรียนน้อยลง วันนี้เปิดช่องทางในการร้องเรียน หากมีมากกว่านั้นเราจะได้รับรู้ ต้องยอมรับว่าเป็นเรื่องละเอียดอ่อน เป็นเรื่องที่ไม่คุ้นเคยในประเทศไทย เราต้องปรับตัว

ตัวแทนกลุ่มนักเรียนเลว ถามว่า การคุกคามไม่เฉพาะแสดงออกในการเมือง แต่หมายถึงการลงโทษนักเรียนโดยไม่สมเหตุสมผล เรื่องพวกนี้ไม่ใช่เรื่องใหม่ ถูกตีมาหลายสิบปีแล้วถือเป็นการคุกคามนักเรียน ถือว่าทำผิดกฎหมาย แต่กระทรวงศึกษาธิการสามารถประเมินโรงเรียนได้ แต่ทำไมถึงเลือกใช้วิธีรับร้องเรียน

คำตอบของ “ณัฏฐพล” ตอบว่า เรื่องการประเมินโรงเรียนสีขาว สีเขียว เราพยายามลด และทำตรงมากขึ้นเรื่องคุกคาม แต่อยู่ๆ จะหายไปเลยเป็นไปไม่ได้ เรื่องคุกคาม หรือการล่วงละเมิดทางเพศในโรงเรียนมีกันมาหลายสิบปี คุณครูที่คุกคามไม่เคยโดนไล่ออก

6 เดือนที่ผ่านมา จนถึงเมื่อวานนี้ 15 ราย แม้เป็นการแก้ปัญหาปลายเหตุ แต่ต้องจัดกระบวนการใหม่ทั้งหมด โรงเรียนไม่ปลอดภัยไม่ได้ 5 แสนคน แต่ 10ล้านคน แต่เราต้องมาพูดความจริง

ดีเบต-นักเรียน-รมต.ศึกษา

“ผมไม่ภูมิใจในสิ่งที่เกิดขึ้นปัจจุบัน ถึงพยายามแก้ปัญหา และพูดคุยกันรับฟังความคิดเห็น เป็นเรื่องที่เราต้องร่วมกันแก้ ถ้าผมไม่รับทราบข้อมูลทั้งหมดผมก็แก้ไม่ได้ ผมจึงเปิดช่องทางให้ข้อมูลว่าไม่ต้องกังวลถึงคุณครูผู้ปกครอง แต่ต้องยอมรับว่าการเปิดรับข้อมูลแบบนี้ต้องมีข้อมูลอีกด้านจากครู ผู้ปกครอง ต้องแฟร์ทุกฝ่าย”

“ผมใช้เวลา 2 อาทิตย์ซ้ำแล้วซ้ำอีก แฮ็คระบบของตัวเอง เราต้องเอาหลักฐานความจริงมาพูด ถ้าไม่ทราบข้อเท็จจริงแล้วจะแก้ปัญหาได้อย่างไร คุณครูทำผิดจรรยาบรรณความเป็นครูเราก็ต้องลงโทษตามระเบียบวินัยของกระทรวง”

ถ้าคุณครูลงโทษ คุกคาม ทำร้ายนักเรียนที่ผิดระเบียบของกระทรวง จะทำอย่างไร กล่าวว่า “ผิดทางวินัย ดำเนินการแน่นอน”

ส่วนติดโบว์ขาว“ ครูตั้น ตอบทันที “ไม่ผิด อยากติดก็ติด วันนี้ติด ผอ.คุณครูส่วนใหญ่เข้าใจการแสดงออกทางสัญลักษณ์แล้ว วันนี้คุณครูลดแรงกดดันไปถึงน้องๆ ห้ามปฏิบัติตามถึงการแสดงสัญลักษณ์ เรากำลังทำความเข้าใจมากขึ้นกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน”

ถ้าโรงเรียนเปิดโอกาสจัดกิจกรรมแสดงออกทางการเมือง ถ้าห้ามการแสดงออกถือว่าขัดระเบียบของกระทรวงที่ออกมาหรือไม่ “ณัฏฐพล” กล่าวว่า “ครับ ตราบใดที่การแสดงตรงนั้นอยู่ในบริเวณของโรงเรียน และไม่ก้าวร้าว ไม่ก้าวก่ายในสิทธิของคนอื่น”

ถ้าเป็นเจ้าหน้าที่นอกเครื่องแบบถือว่าเป็นบุคคลภายนอกไหม? ณัฏฐพล กล่าวว่า “ขึ้นอยู่กับว่าเขาไปทำอะไร ถ้าเขาเข้าไปตรวจยาเสพติด นอกเครื่องแบบ เขาจะเข้าไม่ได้หรือครับ”

ตัวแทนนักเรียน ยังกังวลเรื่องความปลอดภัยของนักเรียนที่ร้องเรียน ดังนั้น กระทรวงควรใส่ใจ ลงพื้นที่ตรวจสอบทุกโรงเรียนเพราะส่งศึกษานิเทศตรวจสอบอยู่แล้ว ยังยืนยันว่ากระทรวงควรจะต้องใส่ใจด้วยการส่งตัวแทนไปประเมินทุกโรงเรียน “ณัฏฐพล” รับไว้พิจารณา

ถ้าเจอเหตการณ์คุกคามนักเรียน สามารถส่งให้กระทรวงศึกษาธิการโดยไม่ระบุชื่อได้ไหม? “ณัฏฐพล” ตอบว่า ถ้าเราหาได้ก็พร้อมจัดการ เราหาทุกครั้งที่ได้ข้อมูล ว่ามาจากที่ไหน จากใครเราหาทุกครั้ง 100% เราหาได้ว่าคลิปนั้นมาจากไหน

ส่วนกรณีที่โรงเรีนร้องขอห้ามเอาเรื่องในโรงเรียนไปเผยแพร่ เป็นการซุกปัญหาไว้ใต้พรหม “ณัฏฐพล” ตอบว่า ไม่ต้องซุก เอาปัญหานั้นออกมา เราซุกปัญหามากเกินไปแล้วในระบบการศึกษาไทย เราต้องยอมรับความจริง ถ้าจะเผยแพร่สิ่งที่บุคลากรทางการศึกษาทำไม่ดี ต้องส่งมาบอก ต้องแก้ไขปัญหาเหล่านั้น แต่ครูดีๆ ก็มีอยู่มากมาย ต้องสนับสนุนซึ่งกันและกัน มีคนดีทั้งไม่ดีอยู่ในระบเราต้องขจัดคนไม่ดีออกไป”

ส่วนประเด็นที่นักเรียนเรียกร้อง ยกเลิกกฎระเบียบล้าหลัง ตัวแทนนักเรียนเสนอว่า ประเด็นเหล่านี้ไม่ต่างจากการคุกคามนักเรียนที่ไม่ปฏิบัติระเบียบที่ล้าหลัง เช่น ทรงผมนักเรียน เรียกร้องมา 10 ปี ยังไม่ได้รับการแก้ไข แม้แต่ระเบียบลงโทษนักเรียนนักศึกษาที่ออกเมื่อ2548 ปัจจุบันยังถูกตีอยู่ และเหตุใดที่หลายโรงเรียนยังไม่ได้ปฏิบัติตาม

ณัฏฐพล กล่าวว่า เราไม่ได้เข้มงวดพอกับกฎระเบียบต่างๆ เราต้องเอาความจริงมาพูด ต้องเข้าใจกระบวนการของโรงเรียน ระบบการศึกษา เราอยู่ในระบบที่รู้จักซึ่งกันและกัน หาทางประนีประนอม แต่บางเรื่องที่เกี่ยวกับระเบียบวินัย ความปลอดภัยในโรงเรียน สุขลักษณะของนักเรียน ที่ผ่านมาเรายอม ล่วงละเมิดทางเพศที่ไม่เคยไล่ออก ครูรู้จักผู้ปกครอง สามารถเจรจากันได้ และ ช่วยเหลือซึ่งกันและกัน

แต่วันนี้กระทรวงศึกษาไม่ยอม ไม่ว่าเกิดเหตุที่ไหน เราไม่ยอมความ แม้เป็นการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุ แต่ต้องไล่กระบวนการไปตั้งแต่ต้น ยาเสพติด การทำร้ายร่างกายในโรงเรียน จะเกิดขึ้นไม่ได้ การทำร้ายนักเรียนอยู่ในวงจรการศึกษาไม่ได้ จะถูกดำเนินการโดยคณกรรมการทางวินัยต่างๆ เราใช้เวลาไม่เกินสัปดาห์ แต่ต้องให้สิทธิผู้ถูกกล่าวหาด้วย

อีกหนึ่งปัญหาที่กลุ่มนักเรียเลวสะท้อนปัญหาคือ เรื่องเสื้อผ้า ชุดนักเรียน ทรงผม ที่เป็นต้นเหตุความเหลื่อมล้ำ และเป็นสิ่งที่สถานศึกษาต้องแจ้งกับกระทรวงศึกษาธิการ จึงต้องเข้มงวดกับนักเรียน

“ณัฏฐพล” ตอบด้วยความเห็นส่วนตัว ถาหากเราไม่ใส่ชุดนักเรียนตั้งแต่เด็ก – ม.6 มีปัญหาด้านความปลอดภัย เพราะเราสามารถแยกแยะได้ เด็กกลุ่มนี้ออกนอกโรงเรียมาทำกิจกรรมอะไร 2.เรื่องความเหลื่อมล้ำ ถ้าเปิดช่องให้ จริงๆ ต้องมานั่งดูแต่งตัวดีหรือไม่ ต้องมีการแข่งขันกัน ความเหลื่อมล้ำก็อาจจะมากขึ้น ส่วนจะเห็นด้วยไม่เห็นด้วยก็ระดมความคิดมา และต้องฟังทุกฝ่าย

“คนไทยหากมีปัญหาเกิดขึ้นกับกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง คนไทยก็จะเข้าไปปกป้องนักเรียนมากกว่าคนกลุ่มอื่นๆ” แต่ทางตัวแทนเด็กนักเรียน ย้อนทันทีว่า “ชุดนักเรีนไม่ใช่เสื้อเกราะที่จะทำให้ปลอดภัยได้”

อย่างไรก็ตาม ผู้ดำเนินรายการถามว่า นักเรียนไว้ทรงผมหน้าม้าได้ไหม “ ณัฏฐพล” ตอบว่า “เชิญครับ แต่ขอให้คำนึงถึงครูด้วย ครูต้องใช่เวลาทำความข้าใจ อาจไม่คุ้นเคย ต้องเข้าใจทุกฝ่าย”

จากนั้นสุ่มหยิบคำถาม แล้วเจอคำถามว่า ระบบการศึกษาสร้างขึ้นมาเพื่อตอบสนองใคร “ณัฏฐพล” กล่าวว่า ถ้าคิดว่าไม่ตอบสนองนักเรียน เราก็ต้องร่วมกันทำและพยายามทำให้เกิดให้ได้ ช่วยกันตอบสนอง เพราะนักเรียนคืออนาคตของประเทศชาติ

คำถาม ลูกเสือ และ รด.เรียนไปเพื่ออะไร “ ณัฏฐพล” ตอบตามความเห็นส่วนตัว ความเห็นส่วนตัวเป็นกิจกรรมที่สร้างการมีส่วนร่วมอย่างหนึ่ง มีทักษะอะไรหลายๆอย่าง เรียนลูกเสือ ยุวกาชาด เนตรนารี แต่ขอให้ว่ามาว่ากิจกรรม

เรากำลังพิจารณาอยู่ว่า เลิกเรียนเร็วขึ้นได้หรือไม่ เสริมสร้างบุคลิกลักษณะ ว่ากันมาในกระบวนการต่างๆ

จากนั้นถึงคิวที่ “ครูตั้น” จะร้องขออะไรจากนักเรียน

“ก่อนอื่นต้องขอบคุณที่ให้เกียรติมาพูดตรงนี้และให้เคารพกันระดับหนึ่ง นกหวีดแค่หูอื้อ เราเปิดเวทีในหลายรูปแบบเพื่อรับฟังความคิดเห็น ถ้าขอได้ ไม่มีความจำเป็นมานั่งบนเวที สร้างความกดดันแบบนี้ บางอย่างที่เราทำมีผลกระทบในภาพใหญ่ ผมผ่านกระบวนการนี้มาแล้วเราทราบดี และวันนี้ประเทศไทยบอบบางที่สุดจากการลงทุนจากต่างประเทศ ถ้าหากเราเป็นคนไทยที่ตั้งใจทำให้ประเทศไทยมีศักยภาพ วันนี้อดีตที่ผ่านมา ก็เอาอดีตมาพูดได้ อดีตที่ผ่านมาไม่ทำให้ประเทศไทยประสบความสำเร็จ วันนี้เป็นโอกาสที่ดีของการศึกษา ผมรับฟังจากนกเรียน ครู ผู้ปกครองที่อยากให้การศึกษาดีขึ้น และผมเป็นผู้ปฏิบัติถ้าไม่ปฏิบัติจะไม่เกิด และผมพร้อมปฏิบัติ”

“วันนี้คิดว่าผมไม่สามารถทำคณประโยชน์ให้ประเทศ กระบวนการศึกษา พร้อมพิจารณาตัวเอง แต่วันนี้ยังปฏิบัติหน้าที่ตรงนี้อยู่ คือการพูดคุยกันด้วยสันติวิธีของประเทศไทย น่าจะเป็นทางออกที่ดีที่สุด ที่ผ่านมาทำไมเราไม่สามารถแก้ปัญหาได้ เพราะเราไม่มีเวทีแบบนี้ วันนี้เวทีเปิด ขอขอบคุณที่ให้โอกาสมาพูดคุยกัน”

หลังจากนั้น “กลุ่มนักเรียนเลว” มอบหนังสือหลักสูตร 8 กลุ่มสาระวิชาพร้อมไม้เรียว แต่หวังว่าจะไม่เจอหลักสูตรที่ผิดพลาดแบบนี้ และไม้เรียวในระบบการศึกษานี้อีก นกหวีด 44 ชิ้น กับปูไทยที่ไม่ใช่ลอนดอน แต่เป็นปูไทยพร้อมทาน