‘ผบ.ทบ.’ ย้ำการซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์ “จำเป็น” เหมือนของใช้ในบ้าน

ผู้บัญชาการทหารบก สวนฝ่ายค้าน ยืนยันอาวุธยุทโธปกรณ์ เป็นสิ่งที่จำเป็น เปรียบเป็นของใช้ในบ้าน “เหมือนทิชชู่ ไม่มีแล้วจะใช้อะไร” 

วันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2564 ที่กองบัญชาการกองทัพบก (บก.ทบ.) พล.อ.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) แถลงภายหลังการประชุมหัวหน้าหน่วยขึ้นตรงกองทัพบก (นขต.ทบ.) ถึงกรณีที่ฝ่ายค้านให้งชะลอ 3 โปรเจคส์ในการจัดซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์ในปี 2565 วงเงินรวมกว่า 6,152 ล้านบาทเสนอให้ตัดงบประมาณของกองทัพไปก่อนว่า ไม่ขอชี้แจง เพราะเป็นเรื่องของรัฐบาลและรัฐสภา ซึ่งได้ไปชี้แจงในชั้นกรรมาธิการของสภาฯ แล้ว ปีนี้ลดการจัดซื้อยุทโธปกรณ์ แต่จะเสนอเพียงโครงการซ่อมบำรุงเป็นส่วนใหญ่ด้วยการพึ่งพาตนเองทำให้สามารถใช้งานได้อีกระยะหนึ่ง

พร้อมทั้ง ยืนยันถึงการการจัดซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์ของกองทัพ “เหมือนของใช้ในบ้าน เหมือนทิชชู่ในห้องน้ำ แล้วบอกว่าทิชชู่ ห้ามซื้อนะปีนี้  แล้วถ้าเข้าห้องน้ำคุณจะใช้อะไรถามสิ”

1 ปีจ่าคลั่ง สั่งกก.สอบลงโทษทหารแล้ว

พล.อ.ณรงค์พันธ์ กล่าวถึงกรณี ครบรอบ 1 ปีเหตุการณ์กราดยิงที่ จ.นครราชสีมา ว่า มีเข้าใจดีว่าเหตุการณ์นี้ซึ่งกองทัพบกได้ตั้งคณะกรรมการสอบสวน ตั้งแต่สมัย พล.อ.อภิรัชต์ ตำรงตแหน่ง ผบ.ทบ. เพื่อหาข้อเท็จจริงแล้ว  ซึ่งมีทั้งผู้ที่บกพร่องและผู้ที่กระทำความผิด ซึ่งในส่วนผู้ที่กระทำความผิดทั้งผู้บังคับบัญชาการ ผู้ใต้บังคับบัญชาก็ได้เสียชีวิตไปแล้ว ถือเป็นการชดใช้ไปแล้วส่วนหนึ่ง ในส่วนของผู้ที่ได้รับผลกระทบทางรัฐบาลและกองทัพบกได้เยียวยา เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นแล้วเราไม่สามารถทำอะไรได้นอกเหนือไปกว่านี้

ทั้งในส่วนของการชดใช้ด้วยเงินตั้งแต่บาดเจ็บเล็กน้อย เริ่มต้นที่ 2 แสนบาทไปจนถึงเสียชีวิตประมาณ 7-8 ล้านบาท โดยยึดตามหลักเกณฑ์ต่าง ๆ ที่มีหลายภาคส่วนช่วยเหลือ นอกจากนี้กองทัพบกยังช่วยเหลือด้านการประกอบอาชีพด้วยนำคนในครอบครัวมารับราชการในส่วนของกองทัพบกมี 30 ราย

พล.อ.ณรงค์พันธ์กล่าวอีกว่า ขณะนี้เหลือผู้บาดเจ็บ 2 ราย คนแรกที่อยู่ จ.นครราชสีมา ส่วนอีกคนเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งวันนี้ (4 ก.พ.) ตนจะให้เจ้ากรมกำลังพลทหารบกไปเยี่ยม ทั้งนี้ในความบกพร่องของเจ้าหน้าที่ต่าง ๆ ที่ไม่ตรวจตราจนทำให้เกิดปัญหานั้นเราก็ยอมรับผิดและมีทั้งหมด 13 คน ที่ถูกลงโทษโดยการประจำหรือที่เรียกในภาษาทหารว่าประจำ 0007 ไปแล้ว

พร้อมทั้งงดบำเหน็จ ส่วนเรื่องการไม่ระมัดระวังในการรักษาความปลอดภัยสถานที่ต่าง ๆ ในปีนี้ก็ได้มีการแก้ไขปรับปรุงเก็บรวบรวมข้อมูลช่วงปีที่ผ่านมาและจะปรับปรุงต่อเนื่องไม่ให้มีเหตุการณ์แบนี้เกิดขึ้น ในขณะที่คลังอาวุธหนักนั้นตอนนี้ทุกหน่วยก็ดูแลเป็นพิเศษอยู่แล้ว

กังวลแนวชายแดน หลังผ่อนปรนแรงงานต่างด้าว

ผู้บัญชาการทหารบก ยังกล่าวถึงการสนับสนุนรัฐบาลในการแก้ไขปัญหาสถานการณ์ไวรัสโควิด -19 แพร่ระบาดว่า ปัจจุบันกองทัพบกยังคงดูแลเรื่องการบริการจัดการพื้นที่ควบคุมเข้มข้นสูงสุดคือที่จ.สมุทรสาคร อยู่รวมถึงการเตรียมพร้อมเตียงสนามที่มีสำรองในคลังกรมสรรพวุธ ที่สนามบินน้ำ ประมาณ 6,000 เตียง

โดยก่อนหน้านี้ได้สนับสนุนไปที่รพ.สนามที่จ.สมุทรสาครกว่า 3,000 เตียง ขณะที่พื้นที่จังหวัดอื่น ๆ ได้ให้หน่วยทหารในพื้นที่จัดเตรียมเอาไว้ ขึ้นอยู่กับกระทรวงสาธารณสุขว่าจะระบุใช้พื้นที่ใดเพิ่มเติม เช่น ที่เขาชนไก่ จ.กาญจนบุรี มีหลายร้อยเตียง และที่ศูนย์การบินทหารบก จ.ลพบุรี มีอีกหลายร้อยเตียงเช่นกัน แต่หากถึงที่สุดแล้วยังไม่เพียงพอ ทหารของกองทัพบกก็พร้อมสละเตียงให้กับประชาชน ในขณะที่การดูแลตามแนวชายแดนได้มีการคุมเข้มมาโดยตลอด

“โดยเฉพาะฝั่งตะวันตก เพื่อสกัดกั้นการเข้าเมืองแบบผิดกฎหมาย จะเห็นว่าขณะนี้สถานการณ์เริ่มนิ่งลง แต่หลังจากนี้รัฐบาลมีนโยบายในการผ่อนปรนแรงงานต่างด้าวในวันที่ 15 ก.พ.นี้ เป็นสิ่งหนึ่งที่กังวล”