นพ. ชลน่าน เพื่อไทย ชี้รัฐบาลประยุทธ์ ล็อกดาวน์ล้มเหลว

ชลน่าน ศรีแก้ว

นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.เพื่อไทย ขอความร่วมมือ ส.ส.พรรคร่วมรัฐบาล 30 เสียง โหวตไม่ลงมติให้รัฐบาลประยุทธ์ ถือเป็นการช่วยชาติ เหตุล้มเหลวในการแก้ปัญหาโควิดอย่างสิ้นเชิง

วันที่ 12 กรกฎาคม 2564  นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน พรรคเพื่อไทย แถลงที่ว่า สถานการณ์การระบาดของไวรัสโควิด รุนแรงขึ้นอย่างต่อเนื่อง รัฐบาลไร้ความสามารถ ทอดทิ้งให้ประชาชนต้องเผชิญกับการระบาดของไวรัสร้าย โดยที่รัฐบาลไม่เคยยื่นมือเข้ามาช่วย ภาพของประชาชนจำนวนมาก ต้องนอนรอที่วัดพระศรีมหาธาตุบางเขนนาน 2 วัน เพื่อรอโอกาสตรวจหาเชื้อ อีกส่วนที่ป่วยก็นอนรอความตายอยู่ที่บ้าน

โดยที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ ไม่แม้แต่จะเหลียวมามอง การกระทำของ พล.อ.ประยุทธ์ คือการทอดทิ้งประชาชน ไม่ต่างจากฆาตกรที่เห็นคนตายทุกวันโดยไร้ความรู้สึกรับผิดชอบ สิ่งเหล่านี้ไม่ควรเกิดขึ้นในประเทศไทยที่ได้รับการยอมรับว่าระบบสาธารณสุขดีเป็นอันดับ 6 ของโลก แต่วันนี้ถูก พล.อ.ประยุทธ์ ทำลายลงอย่างสิ้นเชิง ทั้งที่ พล.อ.ประยุทธ์รวบอำนาจทั้งหมดไว้ในมือ มีเครื่องมือมากมาย แต่คิดไม่เป็น แก้ปัญหาไม่ได้ ส่งผลให้ประชาชนต้องทนทุกข์โดยที่รัฐบาลไม่เคยแสดงออกถึงความห่วงใยใด ๆ

นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว

นพ.ชลน่าน กล่าวต่อว่า การประกาศล็อกดาวน์ 14 วัน ไม่เกิดประโยชน์ เพราะยังไม่สามารถที่จะตรวจหาเชื้อได้เลยว่าใครบ้างที่มีการติดเชื้อ เพื่อแยกคนติดเชื้อออกไปรักษา กักกันคนที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยง ส่วนคนที่ไม่เป็นอะไรก็ให้ทำมาหากินโดยปกติ แต่รัฐบาลกลับใช้อำนาจเกินกว่าเหตุ ปิดล็อกทุกอย่าง เป็นการเหวี่ยงแหทำลายเศรษฐกิจมากกว่าการแก้ปัญหาให้ดีขึ้น

ถึงเวลานี้หากพรรคร่วมรัฐบาลยังคงร่วมพายเรือที่ใกล้อับปางลำนี้ต่อไป ไม่รับรู้และไม่รู้สึกถึงความเดือดร้อนของประชาชนทั้งประเทศ จะยังคงนั่งในเรือนี้ต่อไป ขอให้พี่น้องประชาชนจงจำไว้ว่าใครบ้างที่ร่วมกันทำร้ายท่าน

แต่หากอยากให้เกิดการเปลี่ยนแปลง และมีโอกาสที่ประชาชนจะมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น เข้าถึงการรักษาที่ดีขึ้น หาก ส.ส.พรรคร่วมรัฐบาลเพียง 30 เสียง ประกาศเป็นสัญญากับประชาชนว่าจะไม่สนับสนุน ไม่ลงมติในสภา ให้กับรัฐบาลชุดนี้ทุกกรณี แค่นี้ก็ช่วยชาติได้ และเป็นโอกาสที่จะนำพาประชาชนฝ่าวิกฤตนี้ไปด้วยกัน


มติชน รายงานเพิ่มเติมว่า เมื่อวันที่  1 กรกกฎาคมที่ผ่านมา ที่รัฐสภา ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ได้กล่าวถึง ความล้มเหลวของการบริหารจัดการของรัฐบาลประยุทธ์ต่อการระบาดของเชื้อไวรัสโควิดระลอกใหม่ สายพันธุ์เดลต้านี้ ชี้ให้เห็นว่า ศบค.ต้องปรับโครงสร้างใหม่และต้องปรับนโยบายในการตรวจหาเชื้อ มาตราการการกักกันหลังตรวจพบเชื้อ รวมทั้งมาตรการวัคซีนเฉพาะหน้า และการล็อกดาวน์ อีกด้วย