ลึกสุดใจ จากตึกไทยคู่ฟ้า “ประยุทธ์” ไม่ออก พลิกเกมแก้เผ็ดพรรคร่วม

รายงานพิเศษ

การแพร่ระบาดของโรคโควิด 4 ระลอก-ล็อกดาวน์ 2 ครั้ง “ทุบความเชื่อมั่น” การบริหารประเทศของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา “แตกละเอียด”

“กองเชียร์ประยุทธ์” แม้ไม่แตกหัก-แปรพักตร์ กลับหลังหันไปสนธิกำลังกับ “กองแช่ง” พรรคฝ่ายค้าน แต่กลืนไม่เข้าคายไม่ออก ส่วน “พรรคร่วมรัฐบาล” ไม่ถึงขั้นแยกบ้าน แต่รักษาระยะห่าง ไม่คลุกวงใน-กอดรัดสู้ศึกโควิดกับ พล.อ.ประยุทธ์

อย่างไรก็ตาม เสียง “เปลี่ยนม้ากลางศึก” เสียดดังไล่หลังรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์-ประชิดทำเนียบรัฐบาล

ฝ่าย วอร์รูมตึกไทยคู่ฟ้าวิเคราะห์กระแสโจมตี-ต่อต้าน พล.อ.ประยุทธ์ คุกรุ่นรอบรั้วทำเนียบรัฐบาลว่า การเมืองฝ่ายตรงข้ามใช้ “ช่องว่าง” การแก้ปัญหา กับปัญหาที่เกิดขึ้น รัฐบาลไม่มี potential และใช้จังหวะที่รัฐบาลเสีย momentum

สบโอกาสกระแสความนิยมในตัว พล.อ.ประยุทธ์ต่ำสุด เกิดเป็นพลังกดดันให้ยุบสภา-ลาออก ขณะที่การเมืองภายในพรรคแกนนำ-พรรคร่วมรัฐบาล “ทิ้งระยะห่าง”

“พล.อ.ประยุทธ์กำลังบริหารเหมือนนักมวยปล้ำบนเวทีท่ามกลางวงล้อมปัญหา โดนรุม ไม่มีใครแตะมือ ไม่มีใครแท็กทีม ต้องสู้คนเดียว ถอดใจก็ไม่ได้ แต่สู้คนเดียวไม่ไหวแน่นอน”

สถานการณ์ทางการเมืองของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ขณะนี้ จึงเปรียบเสมือนนักมวย (ปล้ำ) หลังพิงเชือก-เมาหมัด ต้องปัดป้อง-รับมือปัญหาโควิดจากทั่วทุกสารทิศ

“รัฐบาลจึงต้องบริหารอย่างรอบคอบ เพราะถ้าสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 เช่น ตัวเลขผู้ติดเชื้อไม่ลดลง คนตายเพิ่มขึ้น ถ้าไม่ดีขึ้นความนิยมก็จะลดลงแน่นอน”

ถึงแม้ว่า “กองหนุน” จะไม่เปลี่ยนฝั่งเป็น “กองต้าน” แต่เลือกที่จะวางเฉย-เสียงเบาลง รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์จากเดิมที่ต้องอธิบายกับ “ฝั่งตรงข้าม” แต่ตอนนี้กลับต้องมาอธิบายให้ “ฝั่งเดียวกัน” เข้าใจ ทีมวอร์รูมทำเนียบจึงเหนื่อยเป็น 2 เท่า

“ขณะนี้รัฐบาลจึงต้องยันให้อยู่ ต้องจัดระบบสาธารณสุขให้ดึงตัวเลขผู้ติดเชื้อให้ลดลงให้ได้ เช่น กักตัวที่บ้าน (home isolation) เพิ่มจุดตรวจ ปลดล็อก rapid antigen test ฉีดวัคซีนให้มากยิ่งขึ้น”

เมื่อสถานการณ์ดีขึ้น พล.อ.ประยุทธ์ซึ่งเป็นทั้งผู้ถือไพ่ตาย-ไพ่ไฟอยู่ในมือ โดยการชิงปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) ประยุทธ์ 2/5 เพื่อบูตเตอร์ ครม.ใหม่-ยุบสภา

โดยระหว่างนี้ได้ “เก็บคะแนน” พรรคแกนนำ-ร่วมรัฐบาล เพื่อประเมินผลงาน-ความประพฤติ ส่วนการลาออก “ปิดประตูตาย” เพราะไม่ใช่บุคลิกของ พล.อ.ประยุทธ์

ขณะเดียวกัน เสียงเสี้ยม-แซ่ซ้อง “พรรคร่วมรัฐบาล” ประชาธิปัตย์-ภูมิใจไทย “ถอนตัว” ดังกระหึ่ม-กึกก้อง

พรรคประชาธิปัตย์คิดหลายตลบ ระหว่าง “เรื่องบ้าน” กับ “เรื่อง (การ) เมือง” เพราะกระแสความนิยมในตัว พล.อ.ประยุทธ์ “ดำดิ่ง” ลงเหว

ปฏิเสธไม่ได้ว่า การเลือกตั้งเมื่อวันที่ 24 มีนาคม 2562 พรรคพลังประชารัฐชู พล.อ.ประยุทธ์เป็นนายกรัฐมนตรี ชนะเลือกตั้งได้เพราะ “ฐานเสียงเดียวกัน” ปันใจไปให้กับ พล.อ.ประยุทธ์ กระแส “ขาลง” ของ พล.อ.ประยุทธ์จึงเป็นโอกาส “ฉวยจังหวะ” เก็บเกี่ยว “คะแนนไม่นิยม” จากการบริหารโควิด-19 วัคซีนไม่มาตามนัด ผสมโรงกับเศรษฐกิจ-ปากท้องจากการรับผลกระทบของมาตรการ “ล็อกดาวน์”

กรรมการบริหารประชาธิปัตย์วิเคราะห์ความเป็นไปได้ที่จะถอนตัวออกจากการร่วมรัฐบาลว่า แม้ขณะนี้กระแสความนิยมในตัว พล.อ.ประยุทธ์จะลดลงจากการบริหารสถานการณ์โควิด-19 และเป็นโอกาสที่ประชาธิปัตย์จะ “ชิงถอนตัว” เพื่อกู้วิกฤตของพรรคที่ตกต่ำอยู่ในขณะนี้ให้กลับมาอีกครั้ง หลังจาก “เลือดไหลไม่หยุด”

“แต่ความรับผิดชอบตอนนี้บ้านเมืองวิกฤตหนัก ถอนตัวด้วยเหตุผลคะแนนนิยมในตัว พล.อ.ประยุทธ์ตกต่ำต้องคิดให้รอบคอบ ดังนั้น ทางเลือกที่ดีที่สุด คือ การรอเลือกตั้งใหม่”

ขณะที่พรรคภูมิใจไทยที่มี “อนุทิน ชาญวีรกูล” รองนายกรัฐมนตรี-รมว.สาธารณสุข เป็นหัวหน้าพรรค ที่มีลูกพรรคลุกขึ้นมากระหน่ำโจมตีการบริหารงานของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์

โดยเฉพาะการจัดงบประมาณแก้ปัญหาโควิด-19 และการรวบอำนาจของ พล.อ.ประยุทธ์ไว้ในมือแต่เพียงผู้เดียว แต่ที่สุดแล้วภูมิใจไทยก็โหวตสุดแขนให้ร่างกฎหมายสำคัญของรัฐบาลผ่าน ไม่เว้นแม้แต่ “งูเห่า” ที่เลี้ยงไว้ต่างพรรค-ต่างขั้ว

“สิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ” ส.ส.ยังบลัด แห่งพรรคภูมิใจไทย ยืนยันต่อหน้าสื่อว่า “ไม่สละเรือร่วมรัฐบาล จากการที่ได้คุยกับทางพรรคเรา คิดว่ายังมีวิธีที่จะสามารถเดินหน้าต่อไปได้ และยังหวังว่าสถานการณ์จะดีกว่านี้”

การไม่ชิงถอนตัวออกจากพรรคร่วมรัฐบาล ก่อนรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จะ “ครบวาระ” อีกประมาณ 1 ปีครึ่ง ทำให้พรรคภูมิใจไทยยัง “ต่อเวลา” ทำงานในกระทรวงขุมทรัพย์-กระทรวงเกรดเอ ออกไปอีก

โดยเฉพาะกระทรวงคมนาคมที่มีโครงการเมกะโปรเจ็กต์ค้างเติ่งอยู่ในห้องประชุม ครม. เช่น การต่อสัมปทานโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวออกไปอีก 30 ปี โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม และโครงการรถไฟทางคู่สายเหนือ-สายอีสาน

พรรคภูมิใจไทยจึงเลือกไม่สละเรือแป๊ะเพื่อ “สะสมกำลัง” ระดมช้าง-ม้า ขุนพล-นายทุน สู้ศึกเลือกตั้งในครั้งหน้า


พล.อ.ประยุทธ์นาทีนี้ไม่ยุบสภา-ไม่ลาออก รอจังหวะปรับ ครม.ประยุทธ์ 2/5 บูตเตอร์รัฐบาลหลังโควิดจนกว่าจะครบวาระ